" จันทร์-อาทิตย์ " แจกตารางเดินออกกำลังกายทั้ง 7 วัน ลดน้ำหนักได้ชัวร์
การเดินเพื่อลดน้ำหนักนั้นการมีตารางออกกำลังกายจะช่วยให้คุณมีวินัยและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่การเดินออกกำลังกายของคุณไม่จำเป็นต้องจำเจทุกวัน เพื่อลดความเบื่อหน่ายและอาการหมดไฟ การลองรูปแบบการเดินออกกำลังกายที่หลากหลายในแต่ละสัปดาห์ควบคู่ไปกับการให้ร่างกายได้พักฟื้นอย่างเพียงพอ จะช่วยให้คุณมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้
ตารางการเดินเพื่อลดน้ำหนัก
ตารางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินระยะไกล ระยะเวลาที่ระบุไว้เป็นระยะเวลาที่ใช้ในการเดินโดยไม่รวมเวลาอบอุ่นร่างกาย คุณสามารถปรับเปลี่ยนตารางนี้ให้เหมาะกับสภาพร่างกายและเวลาของคุณได้
- วันอาทิตย์: เดินออกกำลังกายแบบเร็ว 60 นาที (เน้นการเดินเร็ว)
- วันจันทร์: วันพักฟื้น (งดเดินออกกำลังกาย แต่คุณสามารถทำกิจกรรมเบาๆ ได้ เช่น ยืดเหยียดร่างกาย)
- วันอังคาร: เดินออกกำลังกายแบบเร็ว 30 นาที (เน้นการเดินเร็ว) + เวทเทรนนิ่ง
- วันพุธ: เดินออกกำลังกายแบบเร็ว 30 นาที (เน้นการเดินเร็ว)
- วันพฤหัสบดี: เดินออกกำลังกายแบบเร็ว 60 นาที (เน้นการเดินเร็ว)
- วันศุกร์: เดินออกกำลังกายแบบเร็ว 30 นาที (เน้นการเดินเร็ว) + เวทเทรนนิ่ง
- วันเสาร์: เดินออกกำลังกายแบบสบาย 30 นาที (เน้นการเดินเร็ว) + เดินต่อเนื่องแบบช้า 30-90 นาที (ปรับตามความต้องการ)
ในการออกกำลังกายหลายๆ ครั้ง คุณจะต้องเดินอย่างรวดเร็ว การก้าวเร็วคือจังหวะที่คุณหายใจแรงกว่าปกติและอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 60% ถึง 70% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด คุณสามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจได้โดยการตรวจชีพจร (ด้วยมือหรือใช้แอป) โดยใช้ตัวติดตามฟิตเนสที่มีการตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ หรือสวมเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
วอร์มอัพสำหรับการเดินออกกำลังกายแบบสั้น
- เริ่มต้นด้วยการเดินช้าๆ ประมาณ 3-5 นาที เพื่อวอร์มอัพกล้ามเนื้อ
- จากนั้นเร่งความเร็วเป็นการเดินเร็วตามเป้าหมายเป็นเวลา 30 นาที
- ปิดท้ายด้วยการเดินช้าๆ อีก 3-5 นาทีเพื่อผ่อนคลาย
เพิ่มเติม :
- คุณสามารถยืดกล้ามเนื้อเบาๆ หลังการวอร์มอัพหรือหลังการเดินเสร็จก็ได้
- ปรับระยะเวลาและความเร็วตามความเหมาะสมของสภาพร่างกาย
- เลือกสถานที่เดินที่ปลอดภัยและสะดวก
- ดื่มน้ำให้เพียงพอระหว่างการเดิน
- สวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมกับการเดิน
- ฟังเพลงหรือหาเพื่อนร่วมเดินเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน
วอร์มอัพสำหรับการเดินออกกำลังกายแบบสั้นพิเศษ
สำหรับวันที่ไม่มีเวลาเดินยาวๆ ลองแบ่งเวลาเดินแบบสั้นๆ 15 นาที 2-4 ครั้ง โดยรวมแล้วควรเดินเร็วอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
วิธีการ:
- เริ่มต้นด้วยการเดินช้าๆ 1-3 นาทีเพื่อวอร์มอัพ
- เร่งความเร็วเป็นการเดินเร็วอย่างน้อย 10 นาที
- ชะลอความเร็วเป็นการเดินช้าๆ 1-3 นาที
เพิ่มเติม:
- ปรับระยะเวลาและความเร็วตามความเหมาะสมของสภาพร่างกาย
- เลือกสถานที่เดินที่ปลอดภัยและสะดวก
- ดื่มน้ำให้เพียงพอระหว่างการเดิน
- สวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมกับการเดิน
- ฟังเพลงหรือหาเพื่อนร่วมเดินเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน
ข้อดี:
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด
- ช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่
- เสริมสร้างระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
ลองนำวิธีการนี้ไปปรับใช้กับกิจวัตรประจำวันของคุณแล้วสัมผัสประโยชน์ดีๆ จากการเดินออกกำลังกายแบบสั้นๆ กันเถอะ