ผลกระทบต่อสุขภาพของ "กาแฟส้ม" ที่ไม่มีใครเคยบอกคุณ

ผลกระทบต่อสุขภาพของ "กาแฟส้ม" ที่ไม่มีใครเคยบอกคุณ

ผลกระทบต่อสุขภาพของ "กาแฟส้ม" ที่ไม่มีใครเคยบอกคุณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"กาแฟส้ม" เป็นหนึ่งในเมนูฮิตประจำคาเฟ่ หรือร้านกาแฟในปัจจุบัน แต่บางสิ่งก็ไม่เหมาะสมที่จะจับคู่กัน ซึ่งก็ไม่มีใครเคยบอกว่า "กาแฟส้ม" นั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด และนี่คือผลกระทบด้านสุขภาพของ "กาแฟส้ม" ที่อาจจะเป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดของใครต่อใคร

การผสมกาแฟกับน้ำส้มนั้นนอกจากจะเป็นการลดทอนรสชาติอันยอดเยี่ยมของกาแฟที่ผ่านการคั่วอย่างพิถีพิถันแล้ว น้ำส้มยังเปลี่ยนรสชาติของกาแฟไปโดยสิ้นเชิง และนอกจากนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟยังบอกอีกว่าการผสมเครื่องดื่มทั้งสองชนิดที่มีค่า pH ต่างกันอย่างมากอาจส่งกระทบต่อองค์ประกอบทางเคมีของแต่ละอย่างอย่างรุนแรงอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการผสมกาแฟกับน้ำส้มส่งผลต่อร่างกายมากกว่าแค่รสชาติ เพราะมันอาจทำให้ปวดท้องได้ ทั้งน้ำส้มและกาแฟเป็นอาหารที่มีความเป็นกรดสูง กาแฟยังกระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะอาหารอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้อาจนำไปสู่ภาวะกรดไหลย้อน หรืออาการแสบร้อนกลางอก

นอกจากนี้ การผสมกาแฟกับน้ำส้มยังอาจส่งผลต่อการดูดซึมสารอาหารได้อีกด้วย "แทนนิน (สารประกอบฟีนอลละลายน้ำที่มีอยู่ในพืชหลายชนิด) ที่พบในกาแฟสามารถยับยั้งการดูดซึมวิตามินซีจากน้ำส้มได้ ดังนั้น หากคุณต้องการวิตามินซีอย่างเต็มที่ ควรเว้นระยะห่างระหว่างการดื่มเครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง

สำหรับใครที่ต้องการเติมกลิ่นส้มให้กับกาแฟโดยไม่เปลี่ยนองค์ประกอบเดิมคือการใช้สารสกัดดอกส้ม ด้วยการทำกาแฟเย็นหรือนำไปแช่เย็น (flash-chilled) ที่บ้าน แล้วเติมวิปครีมกึ่งตั้งยอดผสมกับวานิลลาแท้ สารสกัดดอกส้ม และน้ำตาลทรายแดงหรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ลหรือสารสกัดจะไม่ไปรบกวนค่า pH ของกาแฟ เพราะมันเข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยคงรสชาติธรรมชาติของกาแฟไว้ แต่ก็ยังเพิ่มเลเยอร์บางเบาของกลิ่นส้มที่เข้ากันได้ดีและอร่อยมาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook