10 ข้อผิดพลาดใช้ "ครีมกันแดด" ที่ควรหยุดทำทันที

10 ข้อผิดพลาดใช้ "ครีมกันแดด" ที่ควรหยุดทำทันที

10 ข้อผิดพลาดใช้ "ครีมกันแดด" ที่ควรหยุดทำทันที
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก หลายคนมีติดไว้ในกระเป๋าเครื่องสำอางประจำวันเสมอ เพราะว่าครีมกันแดดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องผิวจากรังสี UV ที่รุนแรง แสงแดดที่ทำร้ายผิว และมลภาวะต่างๆ รอบตัวเรา แต่การทาครีมกันแดด มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด การทาครีมกันแดดแบบขอไปที ไม่สามารถปกป้องผิวของคุณได้อย่างแท้จริง แม้แต่คนที่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ก็ยังอาจทำผิดพลาดได้ ลองคิดดูสิ จะเสียเงินไปซื้อครีมกันแดดมาทา แต่ไม่ได้ประสิทธิภาพสูงสุด มันคุ้มค่าเหรอ? เพื่อช่วยให้คุณป้องกันผิวเสีย และไม่ต้องทนแดดแบบแสบร้อน นี่คือเคล็ดลับ "ทาครีมกันแดดผิดพลาดแบบไหน ที่ควรเลี่ยง"

10 ข้อผิดพลาดการใช้ครีมกันแดด

1.ไม่ได้ทาครีมกันแดดซ้ำ

"ทาครีมกันแดดรอบเดียว ไม่เคยเพียงพอ" หลายคนคิดว่าทาครีมกันแดดตอนเช้าเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ความคิดนั้นผิดถนัด การทาครีมกันแดดซ้ำเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าคุณจะใช้สูตรครีมกันแดดแบบไหนก็ตาม คุณควรทาซ้ำหลังจากว่ายน้ำด้วย เพราะน้ำจะชะล้างครีมกันแดดออกไป ถ้าไม่ทาซ้ำ คุณจะไม่ได้รับการปกป้องเต็มที่ ดังนั้นเราขอแนะนำให้ทาครีมกันแดดทุก 2 ชั่วโมง เป็นประจำทุกวัน

2.ลืมทาครีมกันแดดในวันที่ฟ้าครึ้ม

หลายคนสงสัยว่า "เมื่อไหร่ควรทาครีมกันแดด?" คำตอบคือ "ทาเสมอ" หลายคนมักละเลยการทาครีมกันแดดในช่วงฤดูหนาว ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะ "รังสี UV 80% สามารถทะลุผ่านเมฆได้" แม้ว่าแสง UVB จะลดลงในฤดูหนาว แต่รังสี UVA นั้นมีตลอดทั้งปี ดังนั้น ไม่ว่าจะฟ้าใสหรือฝนตก คุณก็ต้องทาครีมกันแดดทุกวัน

3.เลือกค่า SPF ผิด ผิวเสียแน่

"อ่านฉลากให้ดี เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว" อย่าคว้าครีมกันแดดแบบสุ่มสี่สุ่มห้าบนชั้นวางควรเลือกค่า SPF ให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ เช่น ถ้าคุณเป็นคนผิวไหม้แดดง่าย ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง เพราะค่า SPF สูงจะช่วยปกป้องผิวของคุณได้ดีกว่า และป้องกันความเสียหายจากแสงแดดได้อย่างสูงสุด

"การเลือกค่า SPF ที่เหมาะสม เป็นหัวใจสำคัญ" เราขอแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่า

4.ทาครีมกันแดดไม่เพียงพอ ทาไม่ทั่วถึง

"ครีมกันแดดมีไว้ทาเพื่อปกป้องผิวที่สัมผัสแสงแดด ทาให้ทั่วถึงสิ" ทาครีมกันแดดให้ทั่วบริเวณที่ผิวสัมผัสแสงแดด ทาให้หนาพอสมควร อย่าเสียดายเนื้อครีม เพราะนี่ไม่ใช่เวลาประหยัด

5.ใช้ครีมกันแดดเก่า ผิวพังแน่

"ครีมกันแดดมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บรักษา" ครีมกันแดดที่หมดอายุแล้ว มีโอกาสทำให้ผิวเสียหายมากกว่า เพราะประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดจะลดลง ทำให้ผิวของคุณสัมผัสแสงแดดโดยไม่รู้ตัว

6.ผิวแทนก็ต้องทาครีมกันแดดนะ

"เข้าใจผิดคิดว่าผิวสีแทนไม่ต้องทาครีมกันแดด บอกเลยว่าผิด" ผิวสีแทนก็มีความไวต่อแสงแดดเช่นเดียวกับผิวสีอ่อน เพียงแต่ว่ารอยไหม้แดดหรือรอยคล้ำจะสังเกตได้ยากกว่า ดังนั้น จึงต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV

7.คิดว่าแค่ทาครีมกันแดดก็พอ ระวังผิวไหม้แดด

"ทาครีมกันแดดแล้ว ก็ยังต้องระวังแสงแดดจัดๆ อยู่ดี" แม้จะทาครีมกันแดดแล้วก็ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่แสงแดดแรงจัด ควรสวมหมวก ผ้าพันคอ และเสื้อผ้ามิดชิดเมื่อต้องออกแดด โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน

8.ลืมทาครีมกันแดดในบ้าน ผิวเสียแน่

หลายคนเข้าใจผิดว่า "อยู่บ้านไม่ต้องทาครีมกันแดด" ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะรังสี UV จากแสงแดดสามารถทะลุผ่านกระจกหน้าต่างได้ ดังนั้น แม้จะอยู่ในบ้าน ก็ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV

9.แต่งหน้าจัดเต็ม ลืมทาครีมกันแดด ผิวพังแน่

สาวๆ หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า "ทาครีมกันแดดในรองพื้นแล้ว ไม่ต้องทาครีมกันแดดอีกก็ได้" ซึ่งความคิดนี้ผิดมหันต์

แม้ว่ารองพื้นหรือแป้งบางชนิดจะมีส่วนผสมของ SPF แต่ปริมาณของสารกันแดดนั้นมีน้อยมาก ไม่เพียงพอที่จะปกป้องผิวจากรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ก่อนแต่งหน้า ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่า ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ รอให้ครีมกันแดดซึมซาบเข้าสู่ผิว แล้วค่อยแต่งหน้าต่อ

10.เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว ผิวสวยสุขภาพดี

"รู้หรือไม่ว่า การเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปกป้องผิวได้มาก"

  • ผิวมัน: เลือกครีมกันแดดเนื้อบางเบา ควบคุมความมัน ป้องกันรูขุมขนอุดตัน
  • ผิวแห้ง: เลือกครีมกันแดดเนื้อครีม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
  • ผิวแพ้ง่าย: เลือกครีมกันแดดสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารระคายเคือง
  • ผิวผสม: เลือกครีมกันแดดเนื้อเจล ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook