11 อันดับปลาไทยโอเมก้า 3 สูงปรี๊ด ไม่เปลืองตังค์กินแซลมอน

11 อันดับปลาไทยโอเมก้า 3 สูงปรี๊ด ไม่เปลืองตังค์กินแซลมอน

11 อันดับปลาไทยโอเมก้า 3 สูงปรี๊ด ไม่เปลืองตังค์กินแซลมอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า "แซลมอน" เป็นปลาทะเลน้ำลึกที่มีปริมาณโอเมก้า 3 สูงมากเมื่อเทียบกับปลาประเภทอื่นในปริมาณที่เท่าๆ กัน แต่แน่นอนว่าแซลมอนก็เป็นปลาที่มีราคาสูงลิ่วเช่นกัน หากเราต้องการจะทานแซลมอนที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับสายสุขภาพเราจึงจัด 11 อันดับปลาไทยที่มีโอเมก้า 3 หรือกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูงปรี๊ดมาให้ เพื่อจะได้ซื้อทานกันได้แบบไม่ต้องเปลืองเงิน และต่อไปนี้คือ 11 อันดับปลาไทย ที่มีโอเมก้า 3 สูงในปริมาณ 100 กรัมเท่าๆ กัน

11 อันดับปลาไทย มีโอเมก้า 3 สูง

1.ปลาสวาย ให้โอเมก้า 3 : 2,111 มก.

2.ปลาทู ให้โอเมก้า 3 : 1,636 มก.

3.ปลาช่อน ให้โอเมก้า 3 : 1,052 มก.

4.ปลาอินทรีย์  ให้โอเมก้า 3 : 882 มก.

5.ปลาน้ำดอกไม้ ให้โอเมก้า 3 : 765 มก.

6.ปลาเนื้ออ่อน ให้โอเมก้า 3 :  622 มก.

7.ปลาดาบเงิน ให้โอเมก้า 3 :  516 มก.

8.ปลากระพงแดง ให้โอเมก้า 3 :  459 มก.

9.ปลาจะละเม็ดขาว ให้โอเมก้า 3 :  430 มก.

10. ปลากระพงขาว ให้โอเมก้า 3 : 360 มก.

11. ปลาดุกอุย ให้โอเมก้า 3 :  258 มก.

โอเมก้า 3: สารอาหารสำคัญเพื่อสมอง หัวใจ และดวงตาที่แข็งแรง โอเมก้า 3 (Omega 3) เปรียบเสมือนอาหารชั้นเลิศของร่างกาย ทำหน้าที่เสริมสร้างและหล่อเลี้ยงอวัยวะสำคัญต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นสมอง หัวใจ และดวงตา

โอเมก้า 3 คืออะไร

โอเมก้า 3 คือกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFAs) ซึ่งร่างกายไม่สามารถผลิตได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากแหล่งอาหารภายนอก

ประโยชน์ของโอเมก้า 3

  • บำรุงสมอง: ช่วยเพิ่มความจำ การเรียนรู้ และลดความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อม
  • บำรุงสายตา: ช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม โรคตาแห้ง และโรคต้อกระจก
  • บำรุงหัวใจ: ช่วยลดความดันโลหิต ลดไตรกลีเซอไรด์ และลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ลดอาการอักเสบ: ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรคหอบหืด
  • บำรุงสุขภาพจิต: ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า และโรคไบโพลาร์
  • ควบคุมระดับน้ำตาล: ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน

แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3

  • ปลาทะเลน้ำลึก: เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล
  • ถั่ววอลนัท
  • ถั่วเหลือง
  • เมล็ดพืชชนิดต่างๆ: เช่น เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย
  • น้ำมันจากพืช: เช่น น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันคาโนลา

การรับประทานโอเมก้า 3

  • ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 250-500 มิลลิกรัม สำหรับผู้ใหญ่
  • ควรทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  • กรณีที่ไม่สามารถรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 เพียงพอ สามารถทานอาหารเสริมโอเมก้า 3 ได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทาน

โอเมก้า 3 เปรียบเสมือนของขวัญล้ำค่าจากธรรมชาติ ที่ช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง สมองเฉียบคม และดวงตาสดใส ใส่ใจสุขภาพ เลือกทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เป็นประจำ เพื่อชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook