3 กลุ่มอาหารบรรเทาอาการปวดไมเกรน และปวดศีรษะได้อยู่หมัด
ปวดหัวไมเกรนเป็นภาวะปวดศีรษะชนิดหนึ่งที่รุนแรง มักมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน และไวต่อแสงและเสียง ปวดศีรษะเป็นอาการทั่วไปที่อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด ความเหนื่อยล้า และความตึงเครียด มีอาหาร และเครื่องดื่มบางชนิดที่อาจช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนและปวดศีรษะได้
3 กลุ่มอาหารอุดมด้วยแมกนีเซียม
1.อาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม
จากผลการวิจัยในกลุ่มผู้หญิงผิวขาวส่วนใหญ่พบว่าแมกนีเซียมอาจช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ อาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ได้แก่ ผักใบเขียวเข้ม อะโวคาโด และปลาทูน่า
แมกนีเซียม แร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทสำคัญต่อร่างกาย มีส่วนช่วยควบคุมความดันโลหิต ระบบประสาท กล้ามเนื้อ และกระดูก งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าผู้ที่มีระดับแมกนีเซียมต่ำ มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคไมเกรนมากกว่า การได้รับแมกนีเซียมในปริมาณที่เพียงพอ อาจช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหัวไมเกรน
อาหารอุดมไปด้วยแมกนีเซียม
- ผักใบเขียวเข้ม: เช่น ผักโขม คะน้า บร็อกโคลี ผักชีฝรั่ง
- อะโวคาโด: ผลไม้ที่มีไขมันดี อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ
- ปลาทูน่า: แหล่งโปรตีนชั้นดี อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ
- ถั่วและเมล็ดพืช: เช่น อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน
- ธัญพืชไม่ขัดสี: เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต
- กล้วย: ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง
- ดาร์กช็อกโกแลต: เลือกดาร์กช็อกโกแลตที่มีโกโก้ไม่น้อยกว่า 70%
2.อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3
จากผลการวิจัยพบว่า การเพิ่มปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 อาจช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนในผู้ป่วยได้ อาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลา เมล็ดพืช และถั่วต่างๆ
กรดไขมันโอเมก้า 3 กรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร มีบทบาทสำคัญต่อระบบประสาท สมอง หัวใจ และหลอดเลือด
งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าผู้ที่มีระดับกรดไขมันโอเมก้า 3 ต่ำ มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคไมเกรนมากกว่าการได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เพียงพอ อาจช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหัวไมเกรน
อาหารอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3
- ปลา: ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแฮร์ริง
- เมล็ดพืช: เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย เมล็ดชิกเกีย เมล็ดทานตะวัน ถั่ววอลนัท
- ถั่วต่างๆ: ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วลูกไก่
3.อาหารคีโตเจนิก
อาหารคีโตเจนิกอาจไม่ใช่ทางเลือกสำหรับทุกคน แต่ผลการวิจัยที่เชื่อถือได้ ชี้ให้เห็นว่าการทานอาหารคีโต อาจช่วยลดจำนวนครั้งของอาการปวดหัวไมเกรน เมื่อเปรียบเทียบกับการทานอาหารแบบปกติ การทานอาหารคีโตเน้นการทานอาหารที่ คาร์โบไฮเดรตต่ำ และ ไขมันสูง ตัวอย่างอาหารคีโต ได้แก่ อาหารทะเล ผักที่ไม่มีแป้ง และไข่
อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวัง เพราะอาหารบางชนิดที่อยู่ในกลุ่มคีโต อาจกระตุ้นอาการปวดหัวไมเกรน ก่อนเริ่มทานอาหารคีโต ควรปรึกษาแพทย์หรือโภชนาการผู้เชี่ยวชาญเสมอ เนื่องจากมีความเสี่ยงบางประการที่อาจเกิดขึ้น