การหาคู่ ปี 2024 ทำไมถึงเป็นเรื่องสุดหินสำหรับคนโสด

การหาคู่ ปี 2024 ทำไมถึงเป็นเรื่องสุดหินสำหรับคนโสด

การหาคู่ ปี 2024 ทำไมถึงเป็นเรื่องสุดหินสำหรับคนโสด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทำไมการจะหาแฟนสักคนในยุคนี้มันถึงยากจัง ? สาวโสด หนุ่มโสดหลาย ๆ ท่าน ต้องเคยตั้งคำถามนี้ขึ้นมากับตัวเองกันบ้างแน่ ๆ เพราะรู้สึกกันใช่ไหมคะว่าการออกเดทในปี 2024 นี้ ทำไมมันดูเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเอาเสียเลย ทั้ง ๆ ที่ยุคสมัยเปลี่ยน เทคโนโลยีเข้ามาถึงเยอะ มีเครื่องไม้เครื่องมือที่จะช่วยในการจับคู่ ออกเดท หาคนคุย ได้หลากหลายวิธี แต่ทำไมถึงยิ่งรู้สึกว่าการสร้างความสัมพันธ์ในยุคนี้มันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน

ที่จริงแล้วคนโสดไม่ได้คิดไปเองหรอกค่ะ เพราะบริษัทจัดหาคู่ ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matching ได้ทำการศึกษาหาข้อเท็จจริงมาแล้ว พบว่าเป็นเรื่องจริงที่ความสัมพันธ์ การออกเดทของผู้คนในยุคปี 2024 ที่ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่เป็นทั่วทั้งโลกก็ว่าได้ ที่มันยากขึ้น โดยบริษัทจัดหาคู่ ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matchingได้พบข้อมูลที่น่าสนใจจาก Pew Research เว็บไซต์ที่ได้ทำการสำรวจประชากรชาวสหรัฐอเมริกากว่า 4,800 คน และได้พบว่าการเดทของผู้คนไม่ได้เพิ่งมายากขึ้นในปี 2024 นี้ แต่มันยากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเรา ๆ คนโสดถึงสัมผัสได้อย่างชัดเจนในปี 2024 นี้ต่างหากค่ะ

โดยจากการวิจัยพบว่า กว่า 63% ของผู้คน รู้สึกเหมือนกันว่าการเดท การสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ เกิดยากขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงหลังปี 2022 ที่ผ่านมา หรือช่วงหลังจบการระบาดของ Covid-19 นั่นเอง โดยมีหลักฐานที่เห็นได้ชัดเจนจากพฤติกรรมของคน GEN Z กว่า 90% ที่ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับแอปหาคู่เท่าไหร่ ในช่วงหลังจบการระบาดโควิด ตามที่ผลสำรวจของ avanta.com ได้นำเสนอไว้

เรียกได้ว่า “ช่วงหลังโควิด” เป็นตัวแปรของแทบทุกสิ่งบนโลกก็ว่าได้ ทำให้ Bangkok Matching ได้วิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ในปี 2024 ยากขึ้นได้ 4 ประการหลัก ๆ ด้วยกัน ดังนี้

ปัจจัยที่ทำให้การออกเดทในปี 2024 เป็นเรื่องยากเย็นคืออะไร ?

1.แอปหาคู่ทำให้วัฒนธรรมการเดทขาดความโรแมนติก

หากเสน่ห์และความสวยงามของการสร้างความสัมพันธ์ คือการได้ทำความรู้จักด้วยความโรแมนติก สนใจ ใส่ใจ จะเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แอปหาคู่ที่กดสมัครได้ง่าย ๆ ก็สามารถเริ่มพูดคุยกันได้เลย ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ feeling เสน่ห์และโรแมนติกหายไป 

การต้องสร้างโปรไฟล์พร้อมคำอธิบายเกี่ยวกับตัวเองที่เป็น Dialog ภาคบังคับของทุกแอพหาคู่ เช่น ฉันชื่อ…อายุ…ฉันมองหาความสัมพันธ์แบบ…งานอดิเรกของฉันคือ…ฯลฯ ยังไม่รวมถึงเมื่อได้ออกเดทกับคนในแอปจริง ๆ กลับรู้สึกว่าความสัมพันธ์ที่ได้เป็นความสัมพันธ์เชิงเพื่อน มิตรภาพ หรือเป็นสถานที่ที่ใช้ถามชื่อ Say Hi แล้วผ่านไป เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ มากกว่าการพบความสัมพันธ์ในเชิงโรแมนติกอีกด้วย รวมถึง แอปหาคู่มักสร้างความรู้สึกตื่นเต้น แล้วสลด ตื่นเต้น แล้วสลด ซ้ำ ๆ คือสร้างอารมณ์ความตื่นเต้นเมื่อ Match กับคนที่เราไม่อาจจะเจอได้เองในชีวิตจริง ทำให้สมองของเราหลั่งฮอร์โมนความสุข ความตื่นเต้น และเมื่อได้แต่ match แต่ไม่มีอะไรพัฒนาได้ หรือไม่กระทั่งได้คุย  ทำให้กลายเป็น App burning และทำให้คนรู้สึกเหนื่อยหน่าย และยอมแพ้กับการหาคู่ไปโดยปริยาย

2.รูปแบบความสัมพันธ์ในปัจจุบันหลากหลายมากเกินไป

เมื่อก่อนคนเราจีบกันก็เพราะว่าอยากได้เป็นแฟน อยากสร้างความสัมพันธ์และแต่งงาน มันเป็นเรื่องที่เรียบง่ายแบบนั้นมาโดยตลอด จนกระทั่งเข้าสู่จุดหนึ่งที่โลกของเรากว้างขึ้น ไร้พรมแดนมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปตามค่านิยม ทัศนคติ และมุมมองต่าง ๆ ทำให้เกิดคำนิยามรูปแบบความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ขึ้นมามากมายหลากหลายรูปแบบ ทำให้สิ่งนี้กลายมาเป็นเงื่อนไขที่ทำให้การหาคู่เพื่อแต่งงาน สร้างอนาคตยาก และซับซ้อนขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ

เพราะถ้าหากคุณมีเป้าหมายในความสัมพันธ์ไม่ตรงกัน มีรูปแบบของความสัมพันธ์ที่ต้องการไม่ตรงกัน ก็ไปกันต่อไม่ได้ เพราะความสัมพันธ์ในปัจจุบันนี้ มีมากมายหลายชื่อเรียกที่คนเอามาใช้กัน ไม่ว่าจะความสัมพันธ์ประเภท Friend with benefits, Polyamory หรือ Open Relationship ต่าง ๆ นานา ที่ทำให้การหาคู่แบบธรรมดากลับกลายเป็นความยากในสังคม เพราะคนมีความต้องการด้านความสัมพันธ์ที่อิสระ และหลากหลายขึ้น ต้องการสร้างความสัมพันธ์ตามเงื่อนไขที่ตัวเองต้องการ โดยไม่สนใจกรอบศีลธรรมเดิม ๆ มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

3.ค่านิยม “การแต่งงานไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในชีวิต” ที่แพร่หลายมากขึ้น

ด้วยค่านิยมใหม่ที่เข้ามา ทำให้คำว่า ชุดแต่งงานคือชุดที่ผู้หญิงทุกคนอยากสวมใส่” เป็นคำที่ใช้การไม่ได้อีกต่อไป สมัยนี้ หากไปพูดคำนี้ที่ไหนเข้า คงโดนมองแรงใส่แน่ ๆ ในยุคนี้ เพราะค่านิยมของคนในยุคนี้ไม่ได้ทุ่มเท หรือยกให้เรื่องของความรักเป็นปณิธานสูงสุดในชีวิตเหมือนกับคนรุ่นก่อน ๆ อีกต่อไปแล้ว ซึ่งปัจจุบัน กลับแทนที่ด้วยคำว่า “มีแฟนไม่ดี สู้ไม่มีเสียดีกว่า” ที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ

และค่านิยมนี้ส่งผลให้เป้าหมายในการใช้ชีวิตของผู้หญิงและผู้ชายมีความเท่าเทียมกัน ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้ชายมองเห็นก่อนถึงมีคุณค่า ผู้หญิงสามารถสร้างเส้นทางชีวิตของตัวเองได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร จนอาจทำให้ความรัก ความสัมพันธ์ เป็นเรื่องที่หลายคน “มองหา” แต่ “ไม่ได้จริงจัง” ส่งผลให้การออกเดทยากขึ้น เพราะเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้คาดหวังอะไรจากความสัมพันธ์ มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ความสัมพันธ์ก็ไม่เกิด ทำให้การออกเดทในยุคนี้ยากขึ้น

4.คุณสมบัติที่คาดหวังในตัวคู่เดทที่มีมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

ต่อเนื่องมาจากด้านบน ที่การแต่งงานไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในชีวิต ถ้ามีแล้วไม่ดี อยู่คนเดียวยังดีกว่า ส่งผลให้ “ความคาดหวัง” ในตัวของคู่เดท ของคนที่จะเข้ามาเป็นแฟน เป็นสามีภรรยาในอนาคตนั้นสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะคนเรามักจะมีสเปคและความคาดหวังในตัวคู่ว่าจะต้องมีคุณสมบัติ ลักษณะแบบใดมาเป็นคนรักหรือคู่ชีวิต ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน คุณสมบัติในการมองหาอาจจะขอแค่เป็นคนดี มีหน้าที่การงาน ดูแลเลี้ยงดูเราได้ก็โอเคแล้ว  แต่ในยุคนี้ การมองหาคู่และการกำหนดลักษณะ คุณสมบัติเฉพาะเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับคนหาคู่ส่วนใหญ่ ความจริงใจ ความเป็นคนดี นิสัยดี เพียงแค่นี้ ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook