รู้จัก "กะหล่ำปลีรูปหัวใจ" กะหล่ำเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน
"กะหล่ำปลี" เป็นผักที่นำมาประกอบอาหารหลากหลายเมนู โดยส่วนใหญ่เรามักจะชินกับกะหล่ำปลีรูปทรงกลมมน แต่เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเห็นกะหล่ำปลีที่มีลักษณะหัวแหลมๆ กันบ้าง โดยกะหล่ำปลีนี้มีชื่อเรียกว่า "กะหล่ำปลีรูปหัวใจ" ซึ่งหลายคนบอกว่าถ้าจะทำกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาใช้กะหล่ำปลีหัวแหลมๆ แบบนี้จะกรอบ อร่อยกว่า ว่าแต่เจ้ากะหล่ำปลีรูปหัวใจนี้คืออะไร มาทำความรู้จักกัน
กะหล่ำปลีรูปหัวใจ
กะหล่ำปลีรูปหัวใจเป็นพืชข้ามฤดู แต่ส่วนใหญ่นิยมปลูกในช่วงฤดูเดียว ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่แถบเมดิเตอร์เรเนียน ทวีปยุโรป ขยายอิทธิพลไปจนถึงประเทศอังกฤษ จุดเด่นของกะหล่ำปลีรูปหัวใจ คือ ลำต้นสั้น ใบเดี่ยวเรียงซ้อนกันแน่น เป็นรูปทรงโคนคว่ำ หรือรูปหัวใจ ความแน่นของหัวขึ้นอยู่กับการเรียงตัวของใบ ใบหนา กรอบ ใบนอกมีสีเขียว ใบด้านในมีสีเขียวอ่อนหรือสีขาว ให้ผลผลิตดีในช่วงฤดูหนาว
กะหล่ำปลีรูปหัวใจเปรียบเสมือนมงกุฎเพชรบนโต๊ะอาหาร ทั้งความสวยงาม รสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ ล้วนเพียบพร้อม เหมาะแก่การนำมารับประทานสด ปรุงอาหาร หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ประโยชน์ของกะหล่ำปลีรูปหัวใจ
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน กะหล่ำปลีรูปหัวใจ อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่
ห่างไกลมะเร็ง กะหล่ำปลีรูปหัวใจ มีสารซัลเฟอร์ ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ ต้านสารก่อมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ มะเร็งช่องท้อง
หัวใจแข็งแรง กะหล่ำปลีรูปหัวใจ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล บำรุงหัวใจ
นอนหลับสบาย กะหล่ำปลีรูปหัวใจ ช่วยให้ระบบประสาทสงบ ผ่อนคลาย
ข้อควรระวัง กะหล่ำปลีมีสาร goitrogen เล็กน้อย ส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ไม่ควรกินกะหล่ำปลีสดๆ ปริมาณมาก แต่ถ้าปรุงสุก สาร goitrogen จะสลายตัว
เคล็ดลับ
- เลือกกะหล่ำปลีรูปหัวใจที่มีใบแน่น สีเขียวสด ไม่มีรอยช้ำ
- เก็บกะหล่ำปลีในตู้เย็น ช่องใส่ผัก เก็บได้นาน 3-5 วัน
- กะหล่ำปลีรูปหัวใจ ทานได้หลากหลาย นำมารับประทานสด ลวก ต้ม ผัด นึ่ง ดอง หรือทำน้ำซุป