"แก้วมังกรเนื้อขาว" กับ "แก้วมังกรเนื้อแดง" ต่างกันอย่างไร กินแบบไหนดีกว่า

"แก้วมังกรเนื้อขาว" กับ "แก้วมังกรเนื้อแดง" ต่างกันอย่างไร กินแบบไหนดีกว่า

"แก้วมังกรเนื้อขาว" กับ "แก้วมังกรเนื้อแดง" ต่างกันอย่างไร กินแบบไหนดีกว่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แก้วมังกร ผลไม้รสหวานละมุน ดึงดูดใจด้วยเมล็ดสีดำประดับประดาเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณอันน่าทึ่ง เป็นผลไม้แคลอรี่ต่ำเหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพและควบคุมน้ำหนัก อีกทั้งยังมีวิตามินซีเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด เสริมสร้างคอลลาเจน บำรุงผิวพรรณ อุดมด้วยแมกนีเซียมช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความเครียด บำรุงระบบประสาท รวมทั้งยังมีแคลเซียมเสริมสร้างกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยระบบขับถ่าย ลดคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จากเมล็ดสีดำ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคเรื้อรัง นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณล้ำค่าด้านความงามช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ชะลอวัย ช่วยให้อิ่มท้องนาน ชะลอวัย แก้ท้องผูก

แก้วมังกรที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดมีทั้งเนื้อขาว กับเนื้อสีแดง ซึ่งทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าเนื้อขาวกับเนื้อแดงมีความแตกต่างกันอย่างไร กินแบบไหนดีกว่ากัน

แก้วมังกรเนื้อขาว ต่างจากแก้วมังกรเนื้อแดงอย่างไร

แก้วมังกรเนื้อขาว มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและเม็กซิโก ปัจจุบันปลูกอย่างแพร่หลายในภูมิภาคเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนทั่วโลก รวมไปถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อิสราเอล ออสเตรเลีย และบางส่วนของสหรัฐอเมริกา (เช่น ฟลอริดาและแคลิฟอร์เนีย)

ลักษณะเฉพาะ

  • ผิวหนัง: แก้วมังกรสีขาวมีผิวหนังเหนียว สีขาวหรือสีเหลืองอ่อน มีเกล็ดสีเขียวเรียงรายอยู่ทั่ว
  • เนื้อ: เนื้อสีขาวนวล ละมุนลิ้น มีเมล็ดสีดำเล็กๆ กระจายตัวอยู่ทั่วอย่างสม่ำเสมอ
  • รสชาติ: หวานละมุน กลมกล่อม หวานน้อยกว่าแก้วมังกรสีแดง มักถูกเปรียบเทียบว่ามีรสชาติคล้ายส่วนผสมระหว่างลูกแพร์และแตงโม

แก้วมังกรสีขาว ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อยเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย วิธีสังเกตว่าแก้วมังกรผลนั้นเป็นแก้วมังกรเนื้อขาวให้ดูจากกลีบ หรือเกล็ดสีเขียวด้านนอกจะเป็นแถบตรงแนบกับตัวผล ส่วนถ้าแก้วมังกรนั้นเนื้อสีแดงเกล็ดด้านนอกจะหยิก

แก้วมังกรเนื้อแดง ผลไม้รสหวานฉ่ำ ดึงดูดใจด้วยเนื้อสีแดงสดใส เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและเอกลักษณ์อันโดดเด่น

ลักษณะเฉพาะ

  • ผิวหนัง: แก้วมังกรสีแดง มีผิวสีชมพูสดใสถึงสีแดงเข้ม สะท้อนแสงแดดระยิบระยับ ปกคลุมด้วยเกล็ดหรือหนามสีเขียวเรียงรายสวยงาม
  • เนื้อ: เนื้อสีแดงสดใสหรือสีม่วงแดง มีเมล็ดสีดำเล็กๆ กระจายตัวอยู่ทั่วอย่างสม่ำเสมอ
  • รสชาติ: หวานฉ่ำ กลมกล่อม เปรียบได้กับรสชาติของกีวีผสมผสานกับลูกแพร์

กินแก้วมังกรเนื้อขาว หรือแก้วมังกรเนื้อแดงดีกว่า

แก้วมังกรสีขาว มักเป็นที่นิยมมากที่สุด รสชาติหวานน้อยที่สุดเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานทานแก้วมังกรสีขาวแทนสีแดงเพื่อควบคุมปริมาณน้ำตาล

แก้วมังกรสีแดง นั้นหวานฉ่ำกว่า

ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นแก้วมังกรสีขาวหรือสีแดง ล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังนี้

  • อุดมไปด้วยวิตามินซี: เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด บำรุงผิวพรรณ
  • ใยอาหาร: ช่วยระบบขับถ่าย ลดคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: ชะลอวัย ป้องกันโรคเรื้อรัง
  • แร่ธาตุต่างๆ: แมกนีเซียม แคลเซียม เหล็ก ฯลฯ บำรุงกระดูกและฟัน บำรุงระบบประสาท เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • แก้วมังกรสีแดง ยังมี แอนโทไซยานิน บำรุงสายตา ป้องกันโรคหัวใจ

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook