"เต้าหู้" กับ "เทมเป้" ต่างกันอย่างไร กินแบบไหนดีกว่า

"เต้าหู้" กับ "เทมเป้" ต่างกันอย่างไร กินแบบไหนดีกว่า

"เต้าหู้" กับ "เทมเป้" ต่างกันอย่างไร กินแบบไหนดีกว่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เต้าหู้ และ เทมเป้ กลายเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นมังสวิรัติหรือไม่ก็ตาม อาหารทั้งสองชนิดนี้ล้วนมีคุณค่าทางโภชนาการและควรค่าแก่การนำมาประกอบอาหาร แม้ว่า เต้าหู้ และ เทมเป้ จะทำมาจากถั่วเหลือง แต่ทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันทั้งในรูปลักษณ์ รสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ แต่หลายคนสงสัยว่ากินเต้าหู้ หรือเทมเป้ดีกว่ากัน

เต้าหู้ กับ เทมเป้ ต่างกันอย่างไร

เต้าหู้ และ เทมเป้ คือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองที่ผ่านกระบวนการแปรรูป

  • เต้าหู้ เป็นที่นิยมแพร่หลายกว่า ทำจากน้ำนมถั่วเหลืองที่นำมาจับตัว แล้วกดเป็นก้อนแข็งสีขาว มีเนื้อสัมผัสหลากหลาย ทั้งแบบแข็ง แบบนุ่ม และแบบเนื้อเนียนละเอียด
  • เทมเป้ ทำจากถั่วเหลืองที่ผ่านการหมัก และนำมาอัดเป็นแผ่นแน่น บางชนิดอาจผสมธัญพืชอย่างคีนัว ข้าวกล้อง เมล็ดแฟลกซ์ และเครื่องเทศ

รสชาติและเนื้อสัมผัส

  • เทมเป้ มีเนื้อสัมผัสหนึบ รสชาติออกถั่ว และมีกลิ่นดินอ่อนๆ
  • เต้าหู้ มีเนื้อสัมผัสขึ้นอยู่กับชนิด โดยทั่วไปจะมีรสชาติจืดชืด และสามารถดูดซึมรสชาติของอาหารที่ปรุงร่วมได้ดี

ทั้งเต้าหู้ และเทมเป้นิยมนำมาใช้แทนเนื้อสัตว์ เนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีนจากพืช สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู

ประโยชน์ของเต้าหู้ กับ เทมเป้

1.ทั้งเต้าหู้ และเทมเป้ อุดมไปด้วยไอโซฟลาโวน ซึ่งเป็นไฟโตเอสโตรเจนชนิดหนึ่ง

ไอโซฟลาโวน เป็นสารประกอบจากพืช มีโครงสร้างทางเคมี และมีผลคล้ายกับเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเพศและระบบสืบพันธุ์

ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายของเต้าหู้ และเทมเป้ เช่น ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด และส่งเสริมสุขภาพหัวใจ เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับ ไอโซฟลาโวน ที่มีอยู่

เต้าหู้มีไอโซฟลาโวน ประมาณ 17-21 มิลลิกรัม ต่อ 1 หน่วยบริโภค 3 ออนซ์ (85 กรัม) ในขณะที่ เทมเป้ มี ไอโซฟลาโวน 10-38 มิลลิกรัม ต่อ 1 หน่วยบริโภคขนาดเดียวกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของถั่วเหลืองที่นำมาใช้ผลิต

2.ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า การรับประทานถั่วเหลืองในปริมาณที่เพิ่มขึ้น อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เนื่องจาก ถั่วเหลือง มีผลต่อระดับคอเลสเตอรอล และไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์

  • มีการศึกษาในหนูทดลองพบว่าเทมเป้ ที่มีสารอาหารเสริม ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และคอเลสเตอรอล
  • เต้าหู้ก็มีผลลัพธ์ในทิศทางเดียวกัน
  • งานวิจัยในสัตว์ทดลอง ประเภท หนู พบว่า เต้าหู้ และโปรตีนจากถั่วเหลือง ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และคอเลสเตอรอลได้อย่างมีนัยสำคัญ
  • นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาใน ผู้ชาย จำนวน 45 คน โดยแบ่งกลุ่มให้รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย เต้าหู้ และอีกกลุ่มรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย เต้าหู้ มีระดับคอเลสเตอรอล และไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์ ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ

ความแตกต่างระหว่างเต้าหู้ กับ เทมเป้

เทมเป้มีพรีไบโอติกซึ่งเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากเต้าหู้อย่างชัดเจน พรีไบโอติกเป็นเส้นใยอาหารชนิดที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้ แต่มีประโยชน์ในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดีในระบบย่อยอาหาร ซึ่งส่งผลต่อการขับถ่ายเป็นประจำ ลดการอักเสบ ลดระดับคอเลสเตอรอล และอาจส่งผลดีต่อความจำด้วย  เทมเป้ อุดมไปด้วย พรีไบโอติก เนื่องจากมี กากใยอาหาร ในปริมาณสูง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการศึกษาในหลอดทดลองพบว่าเทมเป้กระตุ้นการเจริญเติบโตของ Bifidobacterium ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดีที่อยู่ในลำไส้

สรุป

ทั้งเต้าหู้ และเทมเป้ล้วนเป็นอาหารจากถั่วเหลืองที่อุดมไปด้วยโปรตีนและไอโซฟลาโวน แต่ทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันในด้านคุณค่าทางโภชนาการ รสชาติ และเนื้อสัมผัส เทมเป้นั้นอุดมไปด้วย พรีไบโอติก มีโปรตีน และใยอาหารสูงกว่า เต้าหู้ อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่เต้าหู้มีแคลเซียมมากกว่าเทมเป้ มีรสชาติเข้มข้น คล้ายกับถั่ว และมีกลิ่นดิน ต่างจาก เต้าหู้ที่มีรสชาติจืดชืด และสามารถดูดซับรสชาติของอาหารที่ปรุงร่วมได้ดี

ไม่ว่าจะเลือกทานเต้าหู้ หรือเทมเป้ ล้วนเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มปริมาณไอโซฟลาโวน และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook