ข้าวยีสต์แดง คืออะไร เหตุใดจึงกลายเป็นพิษร้ายคร่าชีวิต

ข้าวยีสต์แดง คืออะไร เหตุใดจึงกลายเป็นพิษร้ายคร่าชีวิต

ข้าวยีสต์แดง คืออะไร เหตุใดจึงกลายเป็นพิษร้ายคร่าชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ข้าวยีสต์แดงคืออะไร ทำไมจึงมีผู้เสียชีวิตจากอาหารเสริมที่มีส่วนผสมนี้

ข้าวยีสต์แดง ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่โด่งดังในหมู่คนรักสุขภาพ  ด้วยสรรพคุณที่พบว่าช่วยลดคอเลสเตอรอล ในประเทศไทยมีการวิจัยแต่ไม่พบผลิตภัณฑ์ที่แพร่หลาย ต่างจากในญี่ปุ่นที่มีการนำข้าวยีสต์แดงมาใช้เป็นส่วนผสมในอาหารเสริมมานานหลายปี

แต่ปีนี้กลับพบรายงานว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตเมื่อเดือนมีนาคม ระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุก็มีผู้เสียชีวิตต่อเนื่องมากขึ้น กระทั่งปัจจุบันรายงานล่าสุด (11 กรกฎาคม 2567) พบผู้เสียชีวิตถึง 93 ราย ไม่นับรวมผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาอีกนับร้อย

แม้สาเหตุที่แน่ชัดจะอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ทุกรายมีประวัติการใช้อาหารเสริมชื่อ Beni-koji choleste-help ที่มีข้าวยีสต์แดงเป็นส่วนประกอบ ผลิตโดย บริษัท โคบายาชิ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ประเทศญี่ปุ่น บางรายใช้ติดต่อกันนานหลายปี หลังจากเกิดกรณีทางญี่ปุ่นเรียกคืนผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ด้วยสันนิษฐานว่าอาจมาจากสารซิทรินินที่อาจปนเปื้อนจากกระบวนการหมักข้าวยีสต์แดง เป็นสาเหตุทำให้เกิดไตวาย รายงานข่าวเบื้องต้นระบุว่าการตรวจสอบและวิเคราะห์ไม่พบสารดังกล่าว แต่พบสารต้องสงสัยชนิดอื่นด้วยต้องทำการตรวจสอบต่อไป

ส่วนในประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจาก อย. ไม่อนุญาตให้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เพราะใช้สารสำคัญโมนาโคลินในปริมาณสูงกว่าประเทศไทยกำหนด แต่ถึงอย่างนั้น เราก็อยากพาทุกคนมาทำความรู้จักข้าวยีสต์แดงนี้ให้มากขึ้น

ข้าวยีสต์แดง คืออะไร

ข้าวยีสต์แดง (red yeast rice)  รู้จักกันในชื่อ "เบนิโคจิ" "ข้าวแดงหมัก" หรือ "โมนาสคัส พัพเพอเรอุส" (Monascus purpureus) มีประวัติยาวนานกว่าพันปี มีบทบาทสำคัญในทั้งวัฒนธรรมอาหารและการแพทย์แผนโบราณของเอเชียตะวันออก ในประเทศจีนพบหลักฐานการใช้ข้าวยีสต์แดงในงราชวงศ์โจว (1046-256 ปีก่อนคริสตกาล) เพื่อย้อมผ้า เก็บรักษาอาหาร และรักษาโรค ในประเทศญี่ปุ่น ข้าวยีสต์แดงถูกใช้เป็นสีผสมอาหารเครื่องสำอาง แพทย์แผนโบราณยังนำใช้รักษาโรคระบบทางเดินอาหาร ปัญหาระบายเลือด และอาการอักเสบ และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีการใช้ข้าวยีสต์แดงเป็นส่วนผสมในอาหาร เช่น เต้าหู้ยี้ น้ำปลา และหมูแดง

ข้าวยีสต์แดง จึงหมายถึง ข้าวที่ผ่านกระบวนการหมักด้วยยีสต์ชนิดพิเศษที่ทำให้ข้าวมีสีแดงก่ำ จากภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ชาวเอเชียตะวันออกดังกล่าวข้างต้น เมื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์รุดหน้าก็พบว่าในข้าวยีสต์แดงมีสารหลายชนิดมากสรรพคุณ เช่น โมนาโคลิน เค (Monacolin K) สารที่ได้รับความสนใจสูง ด้วยมีโครงสร้างคล้ายยา Statin ที่แพทย์ใช้รักษาผู้ป่วยไขมันในเลือดสูง มีการศึกษาบางชิ้นที่บ่งชี้ว่า อาจช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีสารแอนคาฟลาวิน (Ankaflavin) และ โมนาสซิน (Monascin) ช่วยลดการอักเสบ และลดไตรกรีเซอไรด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สารไลโปทรอปิค (Lipotropic) ป้องกันการสะสมของไขมัน ช่วยลดน้ำตาลในเลือด สารไคติน (Chitin) เสริมสร้างไขข้อ และลดการเสื่อมของไขข้อ และกรดอะมิโน 18 ชนิด ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง

ข้าวยีสต์แดง ยา หรือ พิษ?

จากงานวิจัยข้าวยีสต์แดง แสดงให้เห็นถึงสรรพคุณมากมาย แต่ก็มี “สารพิษ” อันตรายที่ซ่อนอยู่ นั่นคือ สารปนเปื้อนที่พบบ่อยในข้าวยีสต์แดง อย่าง ซิทรินิน (Citrinin) สารพิษต่อไต เป็นสารต้องสงสัยในกรณีที่เกิดในญี่ปุ่น อีกสารที่พบคือ อัลคาโตคซิน (Aflatoxins) สารก่อมะเร็ง อาจทำให้เกิดมะเร็งตับ

สาเหตุของการปนเปื้อนในข้าวยีสต์แดง มักมาจากกระบวนการผลิต การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่ไม่เหมาะสม หรือการเก็บรักษาที่ไม่ถูกต้อง หากเกิดสารปนเปื้อนก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น อ่อนเพลีย ปัสสาวะเปลี่ยนสี บวมที่แขนขา ปวดกล้ามเนื้อ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ไตวายเฉียบพลัน และเสียชีวิต นอกจากนี้ข้าวยีสต์แดงยังส่งผลด้านการดื้อยา Statin ที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคคอเลสเตอรอลสูง ในผู้ป่วยต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เช่นเดียวกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับหรือไต หญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ไม่ควรทาน มีข่อจำกัดในการทานยาชนิดนี้หลายข้อ 

จึงกล่าวได้ว่า ข้าวยีสต์แดงมีทั้งร้ายและดี เป็นทั้งอาหารที่มีคุณประโยชน์และให้โทษเช่นกัน ขึ้นนอยู่กับปริมาณ คุณภาพการผลิต และการเก็บรักษา

อย่างไรก็ตามโลกออนไลน์ทำให้การซื้อขายอาหารเสริมแพร่หลายและตรวจสอบยาก โดยที่ผู้บริโภคแทบไม่รู้เลยว่าปลอดภัยจริงหรือไม่ แต่ถ้าใครไปเจอผลิตภัณฑ์ที่ใช้ข้าวยีสต์แดงเป็นส่วนผสมคงต้องระวังไว้ก่อน และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากแหล่งเชื่อถือได้ ดีที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook