5 เรื่องควรระวังของผู้หญิงวัย 40+ ก่อนเป็นมะเร็งช่องปาก

5 เรื่องควรระวังของผู้หญิงวัย 40+ ก่อนเป็นมะเร็งช่องปาก

5 เรื่องควรระวังของผู้หญิงวัย 40+ ก่อนเป็นมะเร็งช่องปาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การเกิดมะเร็งช่องปาก สามารถเกิดได้ในผู้หญิงวัยทอง อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ การใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และมีการใช้ปากเพื่อเคี้ยวหรือแม้แต่การทำ Oral Sex บ่อยครั้ง จึงถือว่าเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพของผู้หญิงวัยทองที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อใดที่เกิดปัญหา ควรรีบพบแพทย์และตรวจสอบทันที โดยสามารถดู 5 เรื่องควรระวังเกี่ยวกับมะเร็งช่องปากของผู้หญิงวัย 40+ เพิ่มเติมจากที่นี่ได้เลย

5 เรื่องควรระวังเกี่ยวกับมะเร็งช่องปากของผู้หญิงวัย 40+

1.อาการที่แสดงออก

เรื่องควรระวังเรื่องแรก คือ อาการที่แสดงออกมาของมะเร็งช่องปากจะมีค่อนข้างน้อย ซึ่งบางครั้งอาจกลายเป็นแผลเรื้อรังไปแล้ว จึงควรตรวจสอบบริเวณช่องปากให้ดี ถ้ามีแผลไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ แล้วรักษาภายใน 2 สัปดาห์ไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์ โดยสังเกตดูที่แผลมีรอยขาวหรือรอยแดงแบบผิดปกติ นอกจากนี้ ถ้ามีแผลที่ออกมาเป็นก้อน แล้วกระจายอยู่ทั่วทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นบริเวณโคนลิ้น ข้างลิ้น หรือบริเวณแผลภายในช่องปากส่วนอื่น ที่คล้ายกับร้อนในแต่เป็นนานเกิน 2 สัปดาห์ ก็อาจเสี่ยงเป็นมะเร็งช่องปากได้เช่นกัน จึงควรระวังเรื่องนี้ให้มาก

2.สาเหตุมะเร็งช่องปากในวัยทอง

ถ้าพูดถึงสาเหตุของการเป็นมะเร็งช่องปากสำหรับผู้หญิงวัยทองและผู้สูงวัย จริง ๆ แล้วมักจะเกิดจากปัญหาเรื่องฟันและเหงือก โดยเฉพาะการมีฟันสึก ฟันผุ ฟันแตก และเหงือกอาจเป็นรำมะนาด ก็อาจพาให้ไปสู่การเป็นมะเร็งช่องปากได้เช่นกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าผู้หญิงวัยทอง มักจะละเลยในเรื่องนี้ จึงถือเป็นเรื่องที่ควรต้องระวัง ถ้าเมื่อใดที่มีปัญหาเรื่องฟันและเหงือกเรื้อรังอยู่ตลอด จนมีปัญหาปากแห้งสลับกับการรับรสที่ไม่เหมือนเดิม มีอาการแสบบริเวณช่องปากบ่อยครั้ง อาจสื่อถึงโรคมะเร็งได้เช่นกัน จึงควรรักษาความสะอาดให้ดี เมื่อพบปัญหาช่องปากต้องรีบพบแพทย์เท่านั้น

3.รู้แล้วอย่าละเลย

รู้สาเหตุและรู้อาการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ควรจะรีบไปพบแพทย์เพื่อการตรวจคัดกรองทันที ถือเป็นอีกเรื่องควรระวัง เพราะผู้ที่เป็นวัยทองไปจนถึงวัยสูงอายุ มักจะรู้แล้วละเลยหรือมีการไปรักษา แต่กลับปล่อย ไม่ไปต่อจนกลายเป็นการป้องกันที่ไม่ถูกต้อง เมื่อพบรอยโรคแล้วควรเข้าไปตรวจสอบดูว่าติดเชื้อประเภทใด ถ้าเป็นการติดเชื้อแบบ HPV ที่ช่องปาก ยิ่งต้องรีบรักษาอย่างรวดเร็ว ด้วยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจสอบ ไม่เช่นนั้นอาจลุกลามสู่ปัญหาใหญ่ได้

4.อย่าลืมรักษาอย่างต่อเนื่อง

การรักษาที่ไม่ต่อเนื่อง จะทำให้โรคไม่หายและไปสู่การลุกลามที่หนักขึ้น ดังนั้นให้ระวัง อย่าลืมการไปพบแพทย์ตามเวลาที่นัดหมาย เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการดูแลให้ได้มากที่สุด เพราะผู้ป่วยที่เป็นวัยทองบางราย มาไม่ตรงเวลาหรืออาจไม่มาเลย เมื่อเกิดปัญหาหนักหรือปัญหาภายในช่องปากที่ผิดปกติ กลายเป็นว่าพบระยะของมะเร็งเข้าสู่ระยะที่ 3 หรือ 4 ไปแล้ว การรักษาก็จะอยากขึ้นและค่ารักษาจะสูงตามไปด้วย

5.ก่อนรักษาอย่าพลาดเคลียร์ช่องปาก

ถ้าต้องมีการรักษาบริเวณช่องปากด้วยการฉายแสง หรือการทำหัตถการต่าง ๆ ควรมีการเคลียร์ช่องปากให้พร้อม ไม่ควรละเลยเช่นกัน เรื่องนี้ควรระวัง เพราะถ้าไม่เคลียร์ช่องปากไป การรักษาอาจจะยากและอาจเกิดผลข้างเคียงหลังการฉายแสงรังสี โดยเฉพาะบริเวณช่องปาก ลำคอ และศีรษะ

มะเร็งช่องปากในวัยทอง หรือผู้หญิงตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป ไม่ใช่เรื่องที่ควรละเลย แต่ควรรีบไปพบทันตแพทย์ทันที แต่ถ้ามีอาการที่ผิดแปลกไปกว่านี้ ควรพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อการตรวจชิ้นเนื้อ เพราะถ้ารักษาได้ทันโอกาสหายจะมีสูงมากค่ะ

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook