เทคนิคโกงดวงซวย ให้เป็นดวงเฮงภายใน 21 วัน ไม่ต้องสะเดาะเคราะห์

เทคนิคโกงดวงซวย ให้เป็นดวงเฮงภายใน 21 วัน ไม่ต้องสะเดาะเคราะห์

เทคนิคโกงดวงซวย ให้เป็นดวงเฮงภายใน 21 วัน ไม่ต้องสะเดาะเคราะห์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนหลังดูดวงมาโดนหมอดูทักว่าดวงไม่ค่อยดี ชีวิตจะเจอแต่อุปสรรค ฟังแล้วใจแฟบ แต่อย่าเพิ่งท้อถ้าอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น และเติบโตขึ้นทุกวันไหม? มาร่วมท้าทายพัฒนาตนเอง 21 วันนี้กัน! เมื่อสิ้นสุดการท้าทาย คุณจะรู้สึกดีกับตัวเองและสุขภาพมากขึ้น พร้อมกับชีวิตที่เติมเต็มมากกว่าที่เคยฝันไว้ ก้าวแรกที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ การเริ่มต้นวันนี้เลย! เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกท้อแท้ จงบอกตัวเองเสมอว่า คุณสมควรได้รับชีวิตที่ดีกว่านี้

10 วิธีโกงดวงซวย ให้เป็นดวงเฮงใน 21 วัน

1.ตั้งเป้าหมายใหม่และแบ่งมันออกเป็นขั้นตอนย่อย ๆ

หากคุณต้องการบรรลุหรือสำเร็จอะไรบางอย่าง คุณต้องมีเป้าหมายที่จะมุ่งสู่ก่อนอื่น ใช้เวลาสักครู่ตอนนี้เพื่อเขียนเป้าหมายของคุณและทำความเข้าใจว่าทำไมคุณต้องการบรรลุมัน "ทำไม" คือสิ่งที่จะผลักดันคุณเมื่อแรงจูงใจหยุดลง หลังจากที่คุณเขียนเป้าหมายของคุณและพบจุดประสงค์แล้ว ลองแบ่งเป้าหมายของคุณออกเป็นขั้นตอนย่อย ๆ และตั้งกำหนดเวลาสำหรับแต่ละขั้นตอน ด้วยการวางแผนที่เป็นจริงและดำเนินการที่จำเป็นทุกวัน คุณจะก้าวเข้าใกล้เป้าหมายของคุณมากขึ้น

2.อุทิศเวลาหนึ่งชั่วโมงต่อวันเพื่อเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ

เคยมีอะไรที่คุณอยากเรียนรู้มาตลอด แต่ต้องเลื่อนออกไปเพราะ "ไม่มีเวลา" ไหม? แทนที่จะปล่อยผ่านโอกาสเหล่านั้นไป และหาข้ออ้างมากมาย ลองอุทิศเวลาหนึ่งชั่วโมงต่อวันเพื่อเรียนรู้และพัฒนาตัวเองดูสิ ไม่เพียงแต่คุณจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แต่ยังรู้สึกดีกับตัวเองอีกด้วย เมื่อใดก็ตามที่เราทำอะไรสำเร็จ หากคุณยังไม่มีไอเดียว่าจะเรียนรู้อะไรดี ลองติดตามโพสต์ถัดไปของฉันได้เลย

3.ทิ้งของหนึ่งชิ้นทุกวัน

การใช้ชีวิตแบบมินิมอลนั้นมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ต้องใช้ความมุ่งมั่นอย่างมาก เราทุกคนต้องหาจุดเริ่มต้น ดังนั้นลองคิดว่านี่เป็นการท้าทายที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นเส้นทางนี้ได้ ลองมองหาของหนึ่งชิ้นที่คุณไม่ต้องการหรือไม่ใช้แล้ว แล้วหาที่ไปให้มัน ไม่ว่าจะเป็นการขาย การให้ หรือบริจาค

4.หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านสักบททุกวัน

ถึงแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะมีคำตอบให้กับคำถามเกือบทุกอย่าง แต่หนึ่งในวิธีการเรียนรู้ที่ฉันชอบที่สุดก็คือการอ่านหนังสือ มีคำกล่าวว่าซีอีโอโดยเฉลี่ยอ่านหนังสือ 52 เล่มต่อปี นั่นหมายความว่าหนึ่งเล่มต่อหนึ่งสัปดาห์! แม้ว่าเราอาจจะไม่มีเวลาว่างนั่งอ่านหนังสือเป็นชั่วโมงๆ ทุกวัน แต่การอ่านหนังสือดีๆ สักบทต่อวันก็ไม่เสียหายอะไร

5.เขียนบันทึกประจำวัน

การเขียนบันทึกเป็นวิธีที่ดีในการติดตามความก้าวหน้าของคุณในการบรรลุเป้าหมาย และยังช่วยให้คุณเห็นคุณค่าในชีวิตและสะท้อนกลับไปดูตัวเองอีกด้วย อาจจะดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยในแต่ละวัน แต่เมื่อคุณย้อนกลับไปดู คุณจะรู้ว่าตัวเองก้าวมาไกลแค่ไหน และจะไปได้ไกลกว่านี้แค่ไหน นอกจากการมองย้อนกลับไปดูความก้าวหน้าแล้ว การเขียนบันทึกยังช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้นอีกด้วย ผ่านคำถามที่กระตุ้นให้เกิดการคิด

6.ออกกำลังกายวันละ 30 นาที

มีคำกล่าวว่า การไม่ออกกำลังกายนั้นอันตรายพอๆ กับการสูบบุหรี่ แต่หลายคนยังคงออกกำลังกายไม่ถึง 5 วันต่อสัปดาห์ ดังนั้นนี่คือความท้าทายของคุณ ลองออกกำลังกายวันละอย่างน้อย 30 นาที เป็นเวลา 5 วันในสัปดาห์นี้สิ อาจจะเป็นการออกกำลังกายที่ยิม การวิ่งจ็อกกิ้งตอนเช้า หรือแม้แต่การกระโดดเชือก การออกกำลังกายทุกประเภทเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงต่อวัน ก็สามารถช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้

7.สร้างนิสัยใหม่ในตอนเช้า

ตัวอย่างหนึ่งของการสร้างนิสัยใหม่ในตอนเช้าคือการออกกำลังกาย การฝึกโยคะ หรือการนั่งสมาธิ เพื่อให้วันนั้นเริ่มต้นอย่างมีประสิทธิภาพ

8.ตื่นเช้าขึ้นอีกครึ่งชั่วโมง

เมื่อมีกิจวัตรตอนเช้าใหม่ๆ แล้ว ก็ไม่มีข้ออ้างที่จะไม่ตื่นเช้าขึ้นอีกนิดในตอนเช้า เพื่อให้ทำกิจวัตรเหล่านั้นได้สำเร็จ ฉันจะโกหกถ้าบอกว่ามันไม่ยากเลย แต่เมื่อฉันทำตามกิจวัตรตอนเช้าอย่างสม่ำเสมอ ฉันก็เริ่มทำอะไรได้มากขึ้น ฉันทำสมาธิติดต่อกันมาหนึ่งเดือน กินอาหารดีขึ้น และยังได้ตีพิมพ์บล็อกเป็นครั้งแรกด้วย สิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นได้กับคุณเช่นกัน!

เริ่มต้นด้วยการตื่นเช้าขึ้นอีกครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยๆ ปรับเวลาตื่นให้ช้าลงหรือเร็วขึ้นตามความสะดวกของคุณเอง การตั้งเพลงที่สนุกสนานเป็นเสียงปลุก อาจจะช่วยให้คุณตื่นเช้าได้ง่ายขึ้น

9.ใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียน้อยลง

โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราติดต่อกับเพื่อนๆ ได้ แต่บางครั้ง ในขณะที่เรากำลังใช้เวลากับเพื่อนๆ อยู่ เรากลับใช้เวลากับการกดโทรศัพท์เพื่อเลื่อนดูโซเชียลมีเดียอยู่บ่อยๆ เคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยได้คือ การซ่อนแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียทั้งหมดไว้ในโฟลเดอร์ และเก็บซ่อนไว้ในที่ที่เข้าถึงยาก เพื่อไม่ให้เราหยิบขึ้นมาเล่นได้ง่ายๆ การทำให้แอปพลิเคชันเข้าถึงยากขึ้น จะช่วยลดเวลาที่เราใช้ไปกับโซเชียลมีเดียได้

10.เขียนโน้ตขอบคุณ

เพียงแค่โน้ตขอบคุณสั้นๆ ก็สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับใครสักคนได้แล้ว มันแสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจและต้องการจะขอบคุณพวกเขาเป็นพิเศษ นอกจากโน้ตขอบคุณแล้ว คุณยังสามารถเขียนโน้ตเล็กๆ น้อยๆ ทิ้งไว้ให้กันและกัน เพื่อสร้างความสุขให้กับวันของใครสักคน หรือเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณห่วงใยพวกเขา

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook