5 โรคที่ผู้หญิงควรระวัง เมื่อต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วม

5 โรคที่ผู้หญิงควรระวัง เมื่อต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วม

5 โรคที่ผู้หญิงควรระวัง เมื่อต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัจจุบันปัญหาน้ำท่วมเป็นปัญหาที่คนกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่น ๆ ให้ความสนใจมาก เพราะเป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับประชาชนที่ต้องเผชิญกับน้ำท่วมรุนแรงทุกปี ทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะโรคผิวหนัง เมื่อเกิดภัยธรรมชาติ น้ำท่วมจะพาเอามลพิษ สารเคมี และโรคต่าง ๆ เข้ามาปะปนกับน้ำ ทำให้เกิดการแพร่กระจายและปนเปื้อน  นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ทำให้สัตว์และแมลงต้องอพยพไปหลบภัยในพื้นที่แห้งร่วมกับมนุษย์ ส่งผลให้โรคผิวหนังระบาดมากขึ้นเมื่อเกิดน้ำท่วม ดังนั้น สาวๆ เราจึงควรระวัง 5 โรคที่ผู้หญิงควรระวังให้มาก เมื่อต้องเผชิญกับภัยน้ำท่วมดังนี้ค่ะ

1.โรคจากการติดเชื้อราบนผิวหนัง

การติดเชื้อราอาจทำให้เกิดโรคฮ่องกงฟุตเรื้อรังเป็นเวลานาน โดยเฉพาะผิวระหว่างนิ้วเท้าจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อราได้ง่ายมาก ซึ่งอาจแสดงอาการเป็นผื่นแดงและมีสะเก็ดสีขาวลอกในบริเวณที่ได้รับเชื้อ อาการดังกล่าวอาจแสดงอาการเป็นผิวหนังหนา ลอกล่อน และมีกลิ่นเหม็น เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่ง หากไม่ได้รับการรักษา การติดเชื้อราอาจแย่ลงและรักษาได้ยาก นอกจากนี้ การติดเชื้อราที่นิ้วเท้ายังทำให้ผิวหนังเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียมากขึ้นไปด้วยค่ะ  

2.น้ำกัดเท้า

โรคผิวหนังชนิดแรกที่เกิดขึ้นหลังจากสัมผัสน้ำสกปรกซ้ำ ๆ คือ น้ำกัดเท้า มักเชื่อกันว่าโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อราที่เท้า แต่ความจริงแล้วอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เนื่องจากเชื้อราต้องใช้เวลาพอสมควรในการเจริญเติบโต ก่อนที่จะทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ สาเหตุที่แท้จริง คือ การระคายเคืองผิวหนัง เนื่องจากความชื้นและการสัมผัสกับสารปนเปื้อน สารเคมีต่าง ๆ ในน้ำ ทำให้เกิดผื่นผิวหนังและการอักเสบ ผิวหนังอาจแตกและลอกออก มีรอยแดง อาการคัน และรู้สึกแสบร้อนตลอดเวลา

3.ติดเชื้อแบคทีเรีย

การติดเชื้อแบคทีเรียสามารถเกิดขึ้นได้หลังจากเกิดตุ่มน้ำพองที่เท้า บริเวณที่ผิวหนังลอกเป็นจุดที่แบคทีเรียในน้ำสกปรกสามารถเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย ทำให้ติดเชื้อได้เร็วขึ้น ผิวบริเวณฝ่าเท้ามีความชื้น เหี่ยวย่น และเกิดหลุมเล็ก ๆ อาจมีกลิ่นเหม็นหรือกลายเป็นตุ่มน้ำที่มีหนอง รูขุมขนอาจอักเสบ จนเชื้อแบคทีเรียเข้าไปได้ง่าย หากการติดเชื้อแพร่กระจายไปยังชั้นผิวหนังที่ลึกขึ้น อาจนำไปสู่กลุ่มโรคที่เรียกว่า Cellulitis ผิวหนังจะบวม แดง ร้อน เจ็บปวด และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปยังบริเวณใกล้เคียง อาจมีไข้สูงพร้อมกับต่อมน้ำเหลืองที่เต็มไปด้วยของเหลวที่บริเวณขาหนีบ โดยเฉพาะในกรณีของผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ หรือ HIV การติดเชื้ออาจจะรุนแรง ลุกลามอย่างรวดเร็ว และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

4.กลากบนผิวหนัง

กลากบนร่างกายที่พบได้ทั่วไปมีอยู่หลายจุด เช่น ช่องหูชั้นนอก ติ่งหู ใบหน้า บริเวณไต บริเวณหลังส่วนล่าง น่อง และอุ้งเท้า กลากเหล่านี้มีชื่อเรียกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่ง เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำให้เกิดอาการคันหนัก คันยิบ ๆ และมีอาการแสบตามมา ทั้งยังลุกลามไปสู่ผิวบริเวณอื่นได้ง่าย ผ่านการสัมผัส

5.กลากขึ้นเล็บ

การติดเชื้อแล้วทำให้เป็นกลากอาจเกิดขึ้นได้ทั้งที่เล็บมือและเล็บเท้า รวมถึงบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น มือและเท้า การติดเชื้อเหล่านี้มักแสดงออกมาในรูปของเล็บที่เปลี่ยนสีและหนาขึ้น โดยมีสีขาวหรือสีเหลือง ผิวเล็บหยาบและไม่เรียบ ทำให้เล็บเปราะและหักง่าย สาเหตุมักเกิดจากเชื้อราที่แทรกซึมจากปลายเล็บไปยังฐานเล็บ เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องได้รับการรักษาการติดเชื้อราที่เล็บก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายหนักกว่าเดิม

คำแนะนำในการดูแลผิวหลังประสบภัยน้ำท่วม คือ หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำโดยไม่จำเป็น หากต้องเดินลุยน้ำ ควรสวมรองเท้ากันน้ำเพื่อปกป้องเท้า แต่หากน้ำซึมเข้าไปในรองเท้า ให้ถอดรองเท้าออกและเช็ดเท้าเป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำขัง หลังจากเดินลุยน้ำ ให้รีบทำความสะอาดเท้าด้วยน้ำสะอาด สบู่ และเช็ดเท้าให้แห้งเสมอ โดยเฉพาะบริเวณระหว่างนิ้วเท้าต้องทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งเร็วที่สุดค่ะ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook