เปิดความคิด "แก้ว จริญญา" หลังเปลี่ยนโฟกัสชีวิต ปลูกผัก ทำอาหารกินเอง

เปิดความคิด "แก้ว จริญญา" หลังเปลี่ยนโฟกัสชีวิต ปลูกผัก ทำอาหารกินเอง

เปิดความคิด "แก้ว จริญญา" หลังเปลี่ยนโฟกัสชีวิต ปลูกผัก ทำอาหารกินเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนจดจำศิลปินสาว "แก้ว-จริญญา ศิริมงคลสกุล" ในบทบาทนักร้อง นักแสดง เนื่องจากเธอคือหนึ่งในตำนานเพราะถือเป็นหนึ่งในสมาชิกเฟย์ ฟาง แก้วค่ายกามิกาเซ่ในเครือบริษัทอาร์เอส แต่ปัจจุบันหลังจากแก้วใช้ชีวิตคู่ร่วมกับ "โทนี่ รากแก่น" ก็ดูเหมือนว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเธอและโทนี่ปรับเปลี่ยนไปจากอดีต อย่างที่เราเห็นและติดตามในโซเชียลมีเดียทั้งคู่ปรับเปลี่ยนชีวิตมาปลูกผัก ทำอาหารทานเอง และใช้เวลาอยู่ที่บ้านเป็นหลัก ไลฟ์สไตล์ของทั้งคู่ที่ปรากฎในโซเชียลมีเดียอาจเป็นความฝันของใครหลายๆ คน สำหรับ "แก้ว จริญญา" เธอมีความคิดต่อชีวิตที่เปลี่ยนโฟกัสของตัวเองอย่างไร Sanook Women อยากชวนเธอมานั่งคุยกัน

โฟกัสชีวิตเปลี่ยน เพราะการสูญเสีย

หลังคุณพ่อของโทนี่ รากแก่นเสียชีวิตด้วยมะเร็งตับ ทำให้ทั้งคู่พูดคุยกันถึงการใช้ชีวิตอย่างจริงจังมากขึ้น จากในอดีตที่ไม่ค่อยใส่ใจ หรือเห็นความสำคัญเรื่องอาหารการกิน ก็กลับมาปรับเปลี่ยนมุมมอง และเริ่มลงมือทำ

"ตอนนั้นมันเร็วมาก หลังคุณพ่อของโทนี่เสียชีวิต ทำให้เราสองคนมาคุยกันเรื่องการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะเราเห็นทุกขั้นตอนตั้งแต่คุณพ่อเข้ารับการตรวจ ทราบผลการตรวจ แอทมิดเข้ารับการรักษา พอได้ใกล้ชิดทำให้เราเห็นความเจ็บปวดและความทรมานนั้น เราจึงคิดว่าลองเปลี่ยนวิธีกิน เพราะเดิมเราสองคนก็ทานแบบทั่วๆ ไป มั่วซั่วเลย ไม่สนใจเรื่องสุขภาพ แล้วการเริ่มต้นมันควรเริ่มจากอาหารเนื่องจากอาหารมันเป็นจุดเริ่มต้นของโรคต่างๆ สมัยนี้เราใช้ชีวิตเร่งรีบ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องการกิน ต้องรีบกิน รีบไป ทำให้เรามักทานอาหารแปรรูป อาหารฟาสต์ฟู้ดส์ และเราก็ป่วยเป็นโรค NCDs หรือ non-communicable diseases เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คือ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคและไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ แต่เป็นโรคที่เกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิตกันมากขึ้น หากย้อนกลับไปสมัยก่อนเรายังไม่ป่วยเป็นโรคเหล่านี้กันสักเท่าไร"

ภาพสวยงาม ที่เริ่มต้นจากศูนย์ และการวางแผน

เชื่อว่าหลายๆ คนเห็นภาพแก้ว จริญญาเก็บผัก ล้างผัก ทำอาหาร ดูแล้วก็รู้สึกชิล เป็นชีวิตที่สวยงาม แฮปปี้ สำหรับแก้ว จริญญา และโทนี่ กว่าจะมาลงตัวอย่างเช่นทุกวันนี้ผ่านการลองผิดลองถูก ลงมือทำ และเรียนรู้อยู่เป็นปี

"เราสองคนไม่มีความรู้เรื่องการปลูกผักมาก่อนเลย จริงๆ เราเริ่มมาตั้งแต่ประมาณช่วงโควิด ตอนนั้นเราหยุดทำงาน  WFH กัน แต่เราก็ยังสั่งอาหารมาทาน แล้วเราเห็นว่าพอเราสั่งอาหารมากิน มีขยะมากมายเกิดขึ้น ก็เกิดความคิดว่าในเมื่อเรามีพื้นที่ในบ้านตัวเองอยู่แล้วทำไมไม่ปลูกผักกินเอง จากนั้นก็เริ่มเรียนรู้จริงจัง ทั้งการปรุงดิน การปลูกผักทำอย่างไรไม่ใช้สารเคมี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราเจอปัญหาหลายอย่าง ปรับกันหลายสูตร หาหลายอาจารย์ กว่าจะลงตัว เพราะดินในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน ต้องใจสู้ และใช้เวลา"

แก้วยังฝากถึงคนที่มีความฝันเช่นเดียวกันกับเธอว่า " แก้วคิดว่ามันเป็นความฝันของใครหลายๆ คน ที่อยากจะใช้เวลาอยู่ที่บ้าน มีเวลาทำอาหาร ค่อยๆ ใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบ ออกไปรถติด แก้วว่าแก้วอาจจะโชคดีที่มีโอกาสเร็ว แต่จริงๆ มันก็ผ่านการวางแผน สำหรับใครที่ยังไม่มีโอกาสและยังทำงานอยู่ก็ทำงานต่อไป และอาจเริ่มวางแผนทำไปทีละเล็กทีละน้อย เดี๋ยวมันก็เกิดขึ้นเอง แก้วดีใจนะที่สิ่งที่แก้วทำเป็นแรงบันดาลใจ และทำให้หลายๆ คนมีความหวัง จึงอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนละกัน"

แรงขับเคลื่อนชีวิตเกิดจาก "สุขภาพดี"

แก้ว จริญญาเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 13 ปี ในช่วงเวลานั้นถือเป็นช่วงวัยรุ่น ที่เรื่องสุขภาพอาจจะเป็นเรื่องรองในความสนใจ แต่เรื่องงาน การหารายได้เป็นเรื่องหลัก เมื่อตอนนี้โฟกัสชีวิตของเธอเปลี่ยนมาเป็นเรื่องการใช้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ เพราะเธอเชื่อว่าสุขภาพดีเป็นพื้นฐานของพลังแห่งชีวิต

"ก่อนหน้านี้โฟกัสเราอยู่ที่การทำงาน หาเงินเป็นหลัก แต่มาถึงตอนนี้มันเหมือนแค่เราเปลี่ยนโฟกัสมาที่เรื่องสุขภาพของเรามากขึ้น เราต้องเลือก ต้องเสียสละในช่วงแรกๆ พอเรามาโฟกัสมาตรงนี้มันก็ต้องให้เวลา โชคดีที่เราทั้งคู่ทำแล้วไปให้สุดให้รู้ไปเลย โชคดีที่ผ่านมาเรามีความรู้เรื่องการเงินประมาณนึง ทำงานตั้งแต่อายุ 13 เราก็มีการบริหารการเงินของเรา พอเราเปลี่ยนมาตรงนี้เหมือนกับทำงานน้อยลง เราก็ยังมีเงินที่สะสมมาหลายปี เรายังใช้ชีวิตได้ประมาณนึง สำหรับแก้วพอมาสนใจเรื่องนี้ จริงๆ แล้วการที่เราจะมีสุขภาพดีสำคัญมากเพราะถ้าเราอยากทำงาน ออกไปข้างนอกเพื่อทำงานแก้วว่าพื้นฐานเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ มันทำให้เราไปทำอะไรได้มากกว่าเดิม ทำให้เรามีแรง มีใจ มันชิลมากขึ้น"



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook