หมอเพชร แชร์ความรู้เรื่องการทำหัตถการพลาด เสี่ยงเบ้าหน้าพิการตลอดชีวิต เส้นเลือดอุดตันถึงตายได้จริงไหม ?

หมอเพชร แชร์ความรู้เรื่องการทำหัตถการพลาด เสี่ยงเบ้าหน้าพิการตลอดชีวิต เส้นเลือดอุดตันถึงตายได้จริงไหม ?

หมอเพชร แชร์ความรู้เรื่องการทำหัตถการพลาด  เสี่ยงเบ้าหน้าพิการตลอดชีวิต เส้นเลือดอุดตันถึงตายได้จริงไหม ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รายการ "On the way with Chom" สัปดาห์นี้พิธีกรคนเก่ง "ชมพู่ - อารยา เอ ฮาร์เก็ต" พาไปพบกับ หมอเพชร นพ.ชัยรัตน์ เสริมศิลป์ อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงามระดับนานาชาติ ที่จะมาให้ความรู้เรื่องหัตถการความงามในปัจจุบัน ถ้าทำหัตถการพลาด เบ้าหน้าพิการตลอดชีวิต เสี่ยงเส้นเลือดอุดตันถึงตายได้จริงไหม อยากสวยแต่ไม่อยากเสี่ยงต้องทำอย่างไร?

หัตถการความงามทุกวันนี้มีเยอะมาก จะได้ยินข่าวที่รู้สึกว่ามีอันตราย ไม่ได้มาตราฐานและที่ได้ยินกันบ่อยที่สุดเลยก็คือ ฟิลเลอร์ คือมีรุนแรงถึงขั้นตาบอด จริง ๆ แล้วหลักการของฟิลเลอร์คืออะไร แล้วผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้จากเบาที่สุดไปจนถึงแรงที่สุด ?

หมอเพชร : ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็ม ปัจจุบันฟิลเลอร์ที่เราใช้ก็จะเป็นประเภท Hyaluronic acid สารเติมเต็มประเภทนี้ เป็นมิตรกับผิวหนังเรานะครับ คือเติมเต็มในส่วนที่มันพร่องหายไป หรืออาจจะเสริมในส่วนที่เราต้องการ เช่น อายุที่เริ่มเยอะแล้ว ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม หายไป อันนี้ก็เสริมในส่วนที่หายไป ต้องการเพิ่มเติมคือส่วนไหน เช่น บริเวณริมฝีปาก บริเวณคาง แล้วก็เป็นส่วนที่เพิ่มเติมครับ ดังนั้น สารเติมเต็มประเภทฟิลเลอร์เป็นที่นิยมกันมาก ก็จะเจอของดีบ้าง จะเจอผลข้างเคียงบ้างครับ ผลข้างเคียงก็จะแยกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ เลย อันดับเล็ก ๆ อาจจะพบได้ในลักษณะ เข่น มีการบวมของฟิลเลอร์ในบริเวณที่เราฉีดไป

หมายถึงว่าแม้แต่ตัวที่ถูกต้อง ที่ถูกกฎหมายที่ อย.รับรอง ?

หมอเพชร : ใช่ ไม่ได้เรียกว่าผลข้างเคียงรุนแรงครับ อาจจะมีอาการบวม ๆ ยุบ ๆ ได้บ้าง แต่สักพักหนึ่งอาการพวกนี้จะดีขึ้น

เกิดขึ้นได้ ถึงแม้ว่าจะใช้ของจริง อาการปานกลาง ก็จะเช่น ในกรณีที่เราฉีดไป เกิดอาการติดเชื้อ พวกนี้อาจจะเป็นลักษณะ อาจจะใช้เวลาเป็นเดือน บางคนเป็น 6 เดือน บางคนเป็นปี ถึงจะแสดงอาการพวกนี้ออกมา

การติดเชื้อเกิดจากอะไร ?

หมอเพชร : อาจจะเป็นการปนเปื้อนขณะทำหัตถการครับ ไม่ว่าจะเป็น การทำความสะอาดผิว เพราะว่าเวลาเราฉีดเราต้องทำความสะอาดผิวก่อนใช่ไหมครับ อันที่สองเลยคือเทคนิคปราศจากเชื้อ หรือแม้กระทั่งตอนฉีด มือคุณหมอโดนหรือเปล่า เข็มสะอาดหรือเปล่า อาจจะนำพาเชื้อเข้าไปสู่ในบริเวณที่เราฉีด อันนี้ระยะเวลาในการเกิดตอบไม่ได้ อาจจะเป็นระยะเวลาเป็นเดือน ถึง 6 เดือน บางคนเป็นปี ถึงแสดงอาการพวกนี้ออกมา กรณีรุนแรงที่สุดก็จะเป็นเกี่ยวกับพวกเส้นเลือด ไม่ว่าจะเป็นการกดเบียดเส้นเลือด การเข้าไปในท่อเส้นเลือด พวกนี้จะเป็นอาการรุนแรงอันตราย และมักจะพบในข่าวครับ

ที่ว่าตาบอด นี่คือมันเกิดขึ้นได้ยังไง ?

หมอเพชร : พบได้ครับ เรียกว่าเป็น Case Report (รายงานผู้ป่วย) พวกเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ส่วนมากมักจะไม่มีวิจัยทำออกมาว่า คือเป็นอุบัติเหตุ ในการทำหัตถการแล้วเกิดขึ้น เวลาเราฉีดฟิลเลอร์เข้าไป ใบหน้าเรามีเส้นเลือดถูกไหมครับ กรณีเส้นเลือดที่เปราะบาง หรือบางครั้งเราฉีดเข้าไปโดนเส้นเลือดพอดี แล้วตัวโมเลกุลของฟิลเลอร์ สามารถวิ่งเข้าไปในท่อเส้นเลือดได้ ก็จะไปอุดตามตำแหน่งต่าง ๆ โดยเฉพาะพวกท่อเส้นเล็ก ๆ ที่พบเจอได้บ่อย แล้วก็เป็นข่าวดัง เช่น ในบริเวณเส้นเลือดของดวงตา เพราะว่าเส้นเลือดดวงตามันเล็กอยู่แล้ว ฉีดไปปุ๊ปภาพจอดับไปเลย ดวงตามองมองไม่เห็นเลยครับ ก็จะเป็น Case Report ออกมา หรือกรณ๊ที่เป็นรุนแรง เส้นเลือดอีกเส้นหนึ่งที่สำคัญของร่างกาย ก็คือ เส้นเลือดในสมอง พอฉีดไปสักพักหนึ่ง เป็นคล้าย ๆ ลักษณะของสโตรก เกิดการอัมพาตเลยทันทีครับ

มีรุนแรงกว่านี้ไหมคะ ?

หมอเพชร : ถ้าสมมติว่ากรณีเป็นสโตรกแต่ไปอุดในตำแหน่งที่อันตรายของสมอง สมองมีหลายส่วนใช่ไหมครับ บางส่วนไม่ใช่ไม่สำคัญ แต่สำคัญน้อย บางส่วนสำคัญมาก ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมการหายใจ การควบคุมการสั่งการของระบบประสาทของร่างกาย ถ้าไปอุดตรงนั้นก็ถึงแก่ชีวิต อันตรายมากเลย ในต่างประเทศก็มี Case Report ในลักษณะของประสบการณ์ที่ไม่ดีของฟิลเลอร์เช่นกัน แต่ทำเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ก็เป็น Case Report ว่าเกิดเหตุอะไรบ้าง ในประมาณ 3,000 กว่าเคส พบว่าประมาณ 0.1 เปอร์เซ็นต์ เป็นสโตรก ก็คือไปอุดตันเส้นเลือดได้ อีกประมาณ 0.1 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน มีอาการเสียชีวิตได้ ก็เลยคิดว่าอาจจะสอดคล้องกับสโตรกด้วยเช่นกัน ที่บอกว่าไปอุดในตำแหน่งสำคัญมาก ๆ ของบริเวณสมอง ทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ครับ

ฟิลเลอร์ที่ฉีดแล้วมันไหลมากองรวมกัน กระจุกเป็นก้อนเกิดจากอะไร ?

หมอเพชร : เราน่าจะเคยเห็นในอดีต บางคนฉีดฟิลเลอร์ บอกว่าฉันไปฉีดหน้ามา ปรากฏว่าผ่านไป 1 ปี 5 ปี 10 ปี ฟิลเลอร์จากด้านบน มากองอยู่ด้านล่าง ซึ่งพวกนี้ผมคาดเดาว่าจะเป็นพวกซิลิโคนฟิลเลอร์  เหมือนที่ผมเกริ่นไปว่าตัวฟิลเลอร์ที่เราใช้จะเป็น Hyaluronic Acid Filler ตัวนี้จะเป็นมิตรกับผิวหนัง เข้ากับผิวหนังได้ดี พวกนี้จะไม่ไหล แต่หากเป็นพวกซิลิโคนฟิลเลอร์ พวกนี้มันไม่เข้ากับผิวเรา ฉีดด้านบนสักพักหนึ่ง พอมันไม่เข้า ร่างกายเรากก็จะปล่อยลงมาเรื่อย ๆ ก็ตกมาบริเวณขอบกรอบหน้า หรือบางครั้งก็เกิดการอักเสบ เป็นตุ่ม เป็นคลื่นอย่างนี้ครับ หรือเป็นลักษณะ ขออนุญาตใช้คำว่า บางทีอาจจะเป็นหมอกระเป๋า หรือว่าเป็นผู้ที่ไม่ได้เป็นแพทย์เอาไปฉีด ก็เลยไม่รู้ว่าสารนี้ไม่ได้เป็นมิตรกับผิว ไม่ได้ปลอดภัยในการใช้ฉีดครับ

ถ้าเราเดินไปที่คลินิกต่างๆ จะรู้ไหมว่าเขาใข้ฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้ได้มาตราฐาน ยังมีโอกาสไหมที่เราจะไปเจอฟิลเลอร์สมัยก่อนที่เป็นซิลิโคน Hyaluronic Acid Filler ?

หมอเพชร : ปัจจุบันผมมั่นใจว่ายังมีอยู่บ้างครับ เขาเรียกว่ายาปลอม แต่ว่าในปัจจุบันบริษัทยา เขาก็จะพยายามทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองตรวจสอบได้ ว่ากล่องนี้คือยาแท้ มีความแตกต่างจากกล่องยาปลอม แต่ตัวยาปลอมเขาก็พัฒนาตัวเองพยายามเลียนแบบยาแท้ให้ได้เหมือนกัน จะมี QR code ให้สแกน รวมถึงอาจจะมีลักษณะเป็นกิมมิคต่าง ๆ เพื่อให้สแกนเป็น double check ว่าเป็นของแท้แน่นอน แกะกล่องต่อหน้า QR code ตรง ระหว่างกล่องกับตัวหลอดฉีด อันนี้ก็จะเป็นการเช็กกันเรื่อย ๆ เพื่อที่ว่าผู้ที่ได้รับหรือคนไข้ ต้องได้รับยาแท้

เราจะรู้ได้ยังไงว่าแท้ ของปลอมก็มีให้สแกนแล้วนะ ?

หมอเพชร : บางครั้งเขาเรียกว่าการสวม โดยส่วนมากยาปลอมเขาจะทำแบบนี้ไม่ได้เป๊ะ ๆ แต่เขาทำยังไง บางทีข้างนอกกล่อง มี QR code ของแท้ ในกล่องของปลอม อะไรอย่างนี้ก็มีครับ ดังนั้นต้องตรวจเช็กตั้งแต่เริ่มต้นด้วย เลือกคลินิกเลย คลินิกที่ได้มาตราฐาน ผ่านการรับรองทาง อย. ผ่านการรับรองทางสาธารณสุขว่า คลินิกนี้เป็นคลินิกเวชกรรมมาตรฐาน

มีอีกเคสหนึ่งที่เป็นข่าวค่อนข้างดังก็คือ ฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่เยอะมาก ๆ แล้วก็ทำให้หน้ามันบิดเบี้ยวผิดรูป คือ CC มันเยอะไปหรือว่ายังไง ?

หมอเพชร : คำว่าจำนวน CC ในการฉีดต่อครั้ง ไม่มีถูกไม่มีผิดเลย ไม่ได้หมายความว่าการฉีด 1 ครั้ง 30 ซีซี คือผิด การฉีด 1 ครั้ง 1 ซีซี คือถูก อยู่ที่ว่าความพึงพอใจของลูกค้า แล้วก็การวางแผนในการฉีดของหมอด้วย ผมสามารถวางแผนการฉีดว่าคนนี้สามารถใช้ 30 ซีซี ได้ แต่ว่าเราต้องประเมินกับคนไข้ไปด้วย เพราะว่าฟิลเลอร์เวลาเราเติม เห็นผลทันที เราสามารถประเมินแล้วก็พูดคุยกับคนไข้ได้ว่า หมอเติมไปแล้วนะ ประมาณนี้ ตอนนี้ 25 ซีซี สมมติเราตั้งใจว่า 30 ซีซีนะครับ ฉันเติม 25 ซีซีแล้วนะ โอเคไหม ถ้าคนไข้บอกว่า มันยังเหลือนิดหน่อย งั้นเพิ่มไหม อีกสัก 5 ซีซีที่บอกไป จะได้เป็นไปตามเป้าหมายที่เรากำหนดกันไว้ เราวางแผนกันไว้แบบนี้ครับ

กรณีอุดตันเส้นเลือดจนเนื้อตายจะเป็นยังไง ?

หมอเพชร : เนื้อเยื่อเราเนี่ยมันต้องมีเลือดเข้าไปเลี้ยงตลอดเวลาใช่ไหมครับ ดังนั้นถ้าสมมติว่าตัวฟิลเลอร์โมเลกุลเข้าไปอุดตัวเส้นเลือด จะเป็นสีคล้ำ ๆ สีดำ ๆ ไม่ว่าจะเป็น กรณีอุดหรือกรณีที่ไปกดเบียดทำให้ท่อเส้นเลือด เลือดไม่ไหลไปตรงตำแหน่งนั้น ผลลัพธ์ก็คือ ภายในวันเราจะรู้เลยว่าอุดตันหรือไม่อุดตัน อาจจะเห็นเป็นลักษณะของเส้นเลือดเป็นแผง ๆ ก่อน เพราะว่าตัวเส้นเลือด ไม่สามารถไหลกลับได้ เพราะเส้นเลือดมันต้องไปแดง ไปดำ ให้มันครบใช่ไหมครับ แล้วก็เวียนกลับไปเรื่อย ๆ สมมติเราอุดปุ๊ปวงจรเนี่ยโดนขัดแล้ว เส้นเลือดตรงนั้นจะคั่ง เลือดตัวนี้มันจะออกมาเป็นเส้นเลือดเล็ก ๆ ตามบริเวณผิวหนัง ผ่านไปประมาณ 2-3 วัน อาจจะมีตุ่มคล้าย ๆ เป็นสิวผดบริเวณตรงนั้นได้ บ่งบอกได้ถึงว่า บริเวณนั้นเริ่มมีการอุดตันของเส้นเลือดแล้วนะ ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน

ฟิลเลอร์สลายจริงไหม ?

หมอเพชร : ฟิลเลอร์สลายจริงครับ ประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์ได้ อีก 1 เปอร์เซ็นต์พอเขาสลายเสร็จก็จะมีส่วนที่เข้ากับเนื้อเราได้ ตรงตำแหน่งนั้นก็จะเป็นมิตรกับร่างกายเรา ไม่ได้ทำให้เกิดการตกค้างใดๆครับ

ฉีดฟิลเลอร์บ่อย ๆ ถ้าหยุดฉีดแล้วหน้าจะแก่ไหม ?

หมอเพชร : เรียกว่าคนที่ฉีดฟิลเลอร์มาต่อเนื่อง โดยส่วนมากเขามักจะชอบใบหน้าลักษณะแบบนั้น เลยทำให้เขาฉีดมาต่อเนื่องเรื่อย ๆ แต่ถ้าเกิดว่าช่วงทุนทรัพย์ลดลงเขาอาจจะต้องเลิกหรือว่าจะต้องเว้นระยะห่างไป โดยส่วนมากใครที่ฉีดฟิลเลอร์มาอย่างต่อเนื่องครับ ใบหน้าเขาจะโดนประคอง ไม่ให้ใบหน้านั้นเสื่อมหรือแก่ลงเยอะ นั่นหมายความว่า ถ้าสมมติว่าใบหน้าเดียวกัน แล้วเราฉีดข้างหนึ่ง ไม่ฉีดข้างหนึ่ง แล้วสมมติว่าผ่านไป 10 ปี ข้างที่ฉีดแล้วหยุดฉีด ผมมั่นใจว่าข้างที่ฉีดมาต่อเนื่องใบหน้าจะดูเด็กกว่าอีกข้างหนึ่ง เป็นการประคองใบหน้าไม่ให้ทรุดลงเกินไป เส้นเอ็นอยู่ตรงตำแหน่งนี้ ใบหน้า ชั้นไขมันตรงนี้ไม่ต้องลดลงเยอะเกินไปก็ทำให้ใบหน้าดูเด็ก หรือดูคงสภาพแบบนั้นได้นานกว่า

อีกหนึ่งอย่างที่ฮอตไม่แพ้กัน โบทูลินัม ท็อกชิน นอกเหนือจากเรื่องความงามแล้ว จริง ๆ แล้วเขาก็ยังมีประโยชน์ด้านอื่นในเรื่องของการรักษาโรคด้วย ?

หมอเพชร : โบทูลินัม ท็อกซิน ถูกค้นพบในด้านความงาม เป็นความบังเอิญ จริง ๆ แล้วเขาใช้ในการรักษากล้ามเนื้อกระตุกผิดปกติบนใบหน้าครับ ในคนไข้ของระบบประสาท แต่เผอิญว่าคุณหมอ เขาฉีดในบริเวฯใกล้ดวงตา เขาตรวจสอบว่าข้างที่เขาใช้ฉีดเนี่ย ริ้วรอยดูดดีกว่าอีกข้างหนึ่ง ก็เลยเป็นที่มาในการดูว่า ลายกล้ามเนื้ออยู่ตรงไหน ลองใช้ฉีดตรงตำแหน่งนี้ซิ มันสามารถเสริมความงามได้หรือเปล่า เป็นที่มาว่า ค้นพบโดยบังเอิญ

ใช้รักษา อาการเครียด ซึมเศร้า ได้ด้วย ?

หมอเพชร : ส่วนมากจะเป็นลักษณะ การเครียด ก็คือเป็นพวกกล้ามเนื้อ บางทีฉีดลดไมเกรน คอ บ่า ไหล่ หรือบริเวณขมับก็สามารถใช้โบทูลินัม ท็อกชินฉีดลดพวกนี้ได้ หรือแม้กระทั่งพวกออฟฟิศซินโดรม ความเครียดลดลง อาการปวดลดลง พวกซึมเศร้าพวกนี้อาจจะดีขึ้นด้วย

อีกหนึ่งหัตถการ ร้อยไหมค่ะคุณหมอ หลักการของการร้อยไหมคืออะไร ?

หมอเพชร : เป็นการร้อยเพื่อดึงในตำแหน่งของเนื้อเรา ใช้คำว่าเนื้อเลยแล้วกัน เพื่อโดยตำแหย่งนั้นไปสู่อีกตำแหน่งหนึ่ง เหมือนรั้งไว้ ดึงรั้งไว้ ไม่ให้มันห้อย ไม่ให้มันคล้อยลงมา เพราะสิ่งที่เรากังวลที่สุดของใบหน้าก็คือ ฉันไม่อยากให้หน้าฉันคล้อยลง ฉันไม่อยากให้หน้าเป็นแก้มยุ้ย ๆ อยากให้หน้าดูวี ดูเรียวตลอดเวลา ดังนั้นการร้อยไหมก็จะเป็นที่นิยมครับ หึตถการนี้เห็นผลเร็วครับ ร้อยเลยเห็นผลทันที อาจจะมีผลข้างเคียงได้บ้าง อาจจะเป็นลักษณะของการติดเชื้อได้บ้างที่พบบ่อย หรือแม้กระทั่งกการร้อยไหมไปแล้ว เกิดเลือดออกใต้ผิวหนัง เกิดอาการฟกช้ำ

ผลข้างเคียงเยอะไหมคะคุณหมอ การร้อยไหม ?

หมอเพชร : ติดเชื้อ บวมช้ำ หรือบางคนอาจจะเป็นลักษณะ เหมือนเคสที่กำลังดัง ทำให้ตัวปากกระตุกเวลายิ้ม อาจจะเป็นลักษณะว่าการร้อยไหมแล้ว ไปโดนเส้นประสาทหรือตัดเส้นประสาทให้เกิดการขาดออก ซึ่งพบได้น้อยนะครับ ถ้าพลาดในกรณีมันดึงรั้งเยอะไป เราสามารถผ่าตัดแล้วดึงออกได้ แต่กรณีที่เป็นพวกตัดเส้นประสาทพวกนี้ต้องรอเส้นประสาทฟื้น ถ้าเรารู้ถึงกายวิภาคของเราเส้นประสาทเราจะเติบโตได้ประมาณแค่ 0.1 มิลลิเมตรต่อเดือน ถ้าสมมติว่าเขาโดนตัดไป 1 เซนติเมตร แสดงว่าต้องรอการฟื้นฟูมากกว่า 10  เดือน หรือบางครั้งเส้นประสาทต้นกับปลายเขาฟื้นฟูมา มันไม่เชื่อมกัน คนนี้อาจจะไม่มีโอกาสกลับมาปกติได้ครับ แต่ว่าที่พูดมา พบน้อยครับ แต่พบได้

พวกเครื่องยกกระชับ การทำเลเซอร์ ดูเหมือนจะปลอดภัยกว่าไหม นอกจากความเจ็บปวดรวดร้าวแล้ว มันมีผลข้างเคียงอะไรที่เราต้องระวังไหมคะ ?

หมอเพชร : ข้อดีของพวกเครื่องยกกระชับ ไม่ต้องฉีดอะไรเข้าใบหน้า อันนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ก็จะมีผลข้างเคียงหรือข้อจำกัดบางอย่าง บางตำแหน่งเราก็ไม่สามารถใช้เครื่องกระตุ้นได้ บางตำแหน่งก็ไม่สามารถทำได้เลย เพราะว่าบางทีอาจจะมีความเจ็บมากเกินไป หรือบางครั้งตำแหน่งนั้นจะมีพวกเส้นประสาทเยอะอยู่ อาจทำให้เกิดกล้ามเนื้ออัมพฤกษ์อัมพาตได้ หรือบางทีคนที่ใช้เครื่องเขาจะรู้สึกเลยว่ามันมีความเจ็บรูปแบบหนึ่งที่เขาทนไม่ไหว สู้ฉันฉีดดีกว่า ฉันทนไหว แต่ว่าผลลัพธ์ทั้งสองอันไม่ว่าจะเป็นแบบฉีดหรือการใช้เครื่อง เขาออกแบบมาสนับสนุนซึ่งกันและกัน

อยากสวยแต่ไม่อยากเสี่ยง เราควรจะต้องทำยังไงบ้าง ?

หมอเพชร : เราก็ต้องเช็กครับ ข้อ 1 คือ คลินิกแท้ ข้อ 2 หมอแท้ ข้อ 3 คือยาแท้ เข้าไปที่คลินิกทุกคลินิกจะมีใบสี่เหลี่ยมแปะอยู่ ตัวใบนี้เขาจะเรียกว่า ใบเช็กจากสาธารณสสุขจังหวัด คลินิกนี้ได้รับการตรวจ ได้รับมาตราฐาน มีวันที่ มีตราปั๊ม อันที่ 2  หมอแท้ เว็บไซต์แพทยสภา สามารถเอาชื่อหมอเข้าไปเสิร์ชได้ว่า คุณหมอท่านนี้ หมอแท้หรือเปล่า แต่สำคัญชื่อนามสกุลต้องตรง สะกดให้ถูกก็จะขึ้นชื่อคุณหมอคนนั้น อันที่ 3 คือยาแท้ ยาแท้เช็กได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของกล่อง ลักษณะของฟอยล์ ของสติ๊กเกออร์ QR code รวมถึงอาจจะมีใบยืนยันจากบริษัทออกมาเพื่อลิงก์เข้าสู่เว็บไซต์ จะเป็นการคอนเฟิร์ม double check อีกครั้งหนึ่งครับ

สามารถติดตาม  "On the way with Chom"  ได้ที่ช่องทาง Podcast : Life Dot , Facebook: Life Dot , Youtube : Life Dot  วันจันทร์ (สัปดาห์เว้นสัปดาห์) เวลา 18.00 น.

คลิกชมรายการย้อนหลัง  :   https://www.youtube.com/watch?v=DkzUQRX7bb4&t=1773s&ab_channel=LIFEDOT

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook