เตือนแล้ว! ทาสแมวอย่าทำ 10 พฤติกรรมเหล่านี้ เหมียวเหมียวไม่ชอบ
แมวอาจจะไม่แสดงความไม่พอใจออกมาตรงๆ เหมือนมนุษย์ แต่พฤติกรรมบางอย่างของเจ้าของมักจะทำให้แมวรู้สึกรำคาญใจ หากคุณมีเพื่อนรักเป็นแมว การทำความเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับแมว และช่วยให้แมวมีความสุขมากขึ้น
10 พฤติกรรมทาสแมวอย่าทำ เหมียวไม่ชอบ
1.การลูบท้องแมว เมื่อแมวหงายท้องให้เห็น อาจดูเหมือนเป็นการเชิญชวนให้เราลูบท้อง แต่แท้จริงแล้วมักจะไม่เป็นเช่นนั้น ในธรรมชาติ การโชว์ท้องเป็นสัญญาณของการยอมจำนนหรือความกลัว ไม่ใช่การขอให้ลูบท้อง เนื่องจากท้องเป็นที่อยู่ของอวัยวะสำคัญ การสัมผัสท้องอาจกระตุ้นให้แมวป้องกันตัวและอาจทำให้ถูกข่วนได้
2.การละเลยความไวของหนวดแมว แมวมีหนวดที่ไวต่อสัมผัสอย่างมาก โดยมีเส้นประสาทที่ให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมรอบตัว การกระตุ้นเป็นเวลานาน เช่น การใช้จานอาหารและน้ำที่ลึกหรือแคบ อาจทำให้เกิดความรู้สึกไวเกินไป หรือที่เรียกว่า ความเมื่อยล้าของหนวด ซึ่งอาจนำไปสู่การปฏิเสธอาหารหรือการเลือกกินอาหาร ดังนั้นควรเลือกใช้จานที่กว้างและตื้นเพื่อให้แมวรู้สึกสบาย
3.การใช้ตัวชี้เลเซอร์มากเกินไป ตัวชี้เลเซอร์เป็นของเล่นที่สนุกและช่วยให้แมวได้ออกกำลังกาย แต่หากใช้บ่อยเกินไป อาจทำให้แมวรู้สึกหงุดหงิด เพราะไม่มี "ของเล่น" จับต้องได้ให้เล่นในตอนท้ายของการเล่น แมวอาจเกิดความวิตกกังวลหรือมีพฤติกรรมที่หมกมุ่นได้ ดังนั้น ควรจบการเล่นด้วยเลเซอร์ด้วยของเล่นที่แมวสามารถจับได้ เพื่อตอบสนองสัญชาตญาณในการล่าของแมว
4.การทะเลาะหรือตะโกน แมวมีความไวต่อสิ่งรอบตัวและอารมณ์ของมนุษย์เป็นอย่างมาก เสียงทะเลาะหรือการตะโกนเสียงดังจะสร้างความเครียดและความวิตกกังวลให้กับแมว ซึ่งชอบสภาพแวดล้อมที่สงบและคาดเดาได้ เพื่อให้เพื่อนเหมียวของคุณรู้สึกผ่อนคลาย ควรหลีกเลี่ยงบรรยากาศที่ตึงเครียด
5.การรักษาอุณหภูมิให้ต่ำ แมวซึ่งสืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย จึงชอบความอบอุ่น อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับแมวอยู่ที่ประมาณ 30-36 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าที่มนุษย์ชอบมาก การจัดเตรียมที่นอนที่อบอุ่น เช่น เตียงอุ่น หรือมุมที่มีแสงแดดส่องถึง จะช่วยให้แมวรู้สึกสบายและมีความสุข
6.การจ้องตา ในขณะที่การจ้องตาอาจดูเหมือนเป็นการแสดงความรักสำหรับมนุษย์ แต่การสบตากันนานๆ สำหรับแมวแล้วถือเป็นการท้าทายหรือการข่มขู่มากกว่า ลองกระพริบตาช้าๆ ให้แมวดูแทน ซึ่งเป็นท่าทางที่เหมือนกับการ “จุ๊บ” แมว ถ้าแมวกะพริบตาตอบ หมายความว่าแมวไว้ใจและรักคุณ
7.การไม่สนใจเสียงร้องของแมว แมวแทบจะไม่ร้องเรียกกันเองเลย พฤติกรรมนี้มักใช้เพื่อสื่อสารกับมนุษย์เป็นหลัก การไม่สนใจเสียงร้องของพวกเขาอาจทำให้แมวรู้สึกหงุดหงิดและสับสน เพราะพวกเขากำลังพยายาม "พูดคุย" กับคุณ การใส่ใจในบริบทของเสียงร้องของพวกเขาจะช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณแข็งแกร่งขึ้น
8.การลูบหน้าโดยตรง ใบหน้าของแมวมีปลายประสาทที่ไวต่อสัมผัสจำนวนมาก การลูบหน้าโดยตรงจึงอาจทำให้แมวรู้สึกรุกล้ำและไม่ชอบใจ แมวทักทายกันด้วยการดมจมูกและแก้มซึ่งเป็นการเคารพพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน ดังนั้น ควรลอกเลียนแบบพฤติกรรมของแมว โดยเข้าใกล้แมวอย่างเบามือและหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยตรง
9.การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นแรง แมวมีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่ไวกว่ามนุษย์ถึง 14 เท่า ทำให้พวกเขาไวต่อกลิ่นสังเคราะห์เป็นอย่างมาก น้ำหอมที่มีกลิ่นแรง ผลิตภัณฑ์ปรับอากาศ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สามารถระคายเคืองจมูกของพวกเขาได้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลิ่น หรือมีกลิ่นอ่อนๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นของพวกเขา
10.การรบกวนเวลาหลับของแมว แมวสามารถนอนหลับได้นานถึง 16 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อประหยัดพลังงานสำหรับการล่า (หรือการไล่เล่นของเล่นในสภาพแวดล้อมภายในบ้าน) สนับสนุนการเจริญเติบโต และรักษาภูมิคุ้มกันที่ดี การรบกวนเวลาพักผ่อนของพวกเขาจะทำลายวงจรที่สำคัญนี้ ปล่อยให้แมวนอนหลับอย่างสงบ พวกเขาจะตื่นขึ้นมาพร้อมที่จะมาอ้อนและเล่น การเคารพความชอบและสัญชาตญาณเฉพาะตัวของแมว จะช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ที่กลมกล่อมและรักใคร่ยิ่งขึ้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะทำให้เพื่อนเหมียวของคุณรู้สึกขอบคุณคุณในแบบของพวกเขาเอง