"กระเจี๊ยบเขียว" ผักที่ว่าประโยชน์เยอะ กับ 6 ผลข้างเคียงที่ไม่รู้มาก่อน
กระเจี๊ยบเขียว เช่นเดียวกับผักชนิดอื่นๆ มีประโยชน์ต่อสุขภาพเนื่องจากมีใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระสูง อย่างไรก็ตาม การรับประทานกระเจี๊ยบเขียวมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของบางคนได้
6 ผลข้างเคียงกระเจี๊ยบเขียว
1.ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร: ฟรุคแทน เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่พบในกระเจี๊ยบเขียว ซึ่งอาจทำให้ปัญหาเกี่ยวกับลำไส้รุนแรงขึ้นในผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวน
2.อาการปวดข้อ: กระเจี๊ยบเขียวมีสารพิษชนิดหนึ่งชื่อ โซลานีน ซึ่งอาจทำให้อาการปวดและการอักเสบรุนแรงขึ้นในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อ เช่น โรคข้ออักเสบ
3.นิ่วในไต: กระเจี๊ยบเขียวมีปริมาณออกซาเลตสูง และแคลเซียมออกซาเลตเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดนิ่วในไต อาหารที่มีออกซาเลตสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตสำหรับผู้ที่เคยมีประวัติเป็นนิ่วมาก่อน
4.ผลกระทบต่อผู้ป่วยเบาหวาน: มีการศึกษาพบว่า กระเจี๊ยบเขียวอาจไปรบกวนการดูดซึมยาเมตฟอร์มิน ซึ่งเป็นยาลดน้ำตาลในเลือดที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มักมีปัสสาวะเป็นกรด ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตเมื่อบริโภคกระเจี๊ยบเขียว
5.การแข็งตัวของเลือด: วิตามินเค ช่วยในการแข็งตัวของเลือด และกระเจี๊ยบเขียวมีวิตามินเคสูง ซึ่งอาจมีปฏิกิริยากับยาละลายลิ่มเลือด เช่น คูมาดิน (วาร์ฟาริน) ผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือดควรระมัดระวังและปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะนำกระเจี๊ยบเขียวมารับประทาน
6.อาการแพ้: แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้น้อย แต่บางคนอาจมีอาการแพ้หรือไวต่อกระเจี๊ยบเขียว อาการที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่ คัน ผื่นลมพิษ รู้สึกเสียวซ่าบริเวณปากหรือรอบปาก หายใจลำบาก และคัดจมูก