โรคมะเร็งตับ ภัยเงียบใกล้ตัวกว่าที่คิด ไม่ดื่มก็เสี่ยง!

โรคมะเร็งตับ ภัยเงียบใกล้ตัวกว่าที่คิด ไม่ดื่มก็เสี่ยง!

โรคมะเร็งตับ ภัยเงียบใกล้ตัวกว่าที่คิด ไม่ดื่มก็เสี่ยง!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรคมะเร็งตับ ภัยเงียบใกล้ตัวกว่าที่คิด ไม่ดื่มก็เสี่ยง!

มะเร็งตับ อาจฟังดูเหมือนโรคร้ายแรงที่ไกลตัวสำหรับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ความจริงแล้ว มันอาจอยู่ใกล้กว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มะเร็งตับเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ และสาเหตุก็ไม่ได้มาจากการดื่มเท่านั้น!

จากข้อมูลของกรมการแพทย์และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่ามะเร็งตับและท่อน้ำดีเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในคนไทย โดยมีผู้ป่วยรายใหม่มากกว่า 2 หมื่นรายต่อปี และในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1.6 หมื่นราย เกินครึ่งของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด

เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งตับ รวมถึงสาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง และวิธีป้องกัน เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุขภาพของตนเองและคนที่คุณรักได้ดียิ่งขึ้น

มะเร็งตับ ภัยร้ายอวัยวะสำคัญ

มะเร็งตับคือการเกิดเนื้องอกชนิดร้ายแรงในตับ ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กำจัดสารพิษในร่างกาย ผลิตน้ำดีช่วยย่อยไขมัน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด มะเร็งตับแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก

  • มะเร็งตับปฐมภูมิ  เกิดขึ้นจากเซลล์ในตับโดยตรง หรือเกิดจากเซล์ล์มะเร็งในท่อน้ำดีที่เชื่อมต่อกับตับโดยตรง
  • มะเร็งตับทุติยภูมิ  เกิดจากการแพร่กระจายของมะเร็งจากอวัยวะอื่น เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งรังไข่ โดยกระจายมาที่เนื้อตับในเวลาต่อมา 

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง มะเร็งตับ 

การเกิดมะเร็งตับมีสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ส่วนใหญ่เกิดในกลุ่มคนที่มีประวัติโรคเกี่ยวกับตับมาก่อน ดังนี้

  1. การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) และซี (HCV)

การติดเชื้อไวรัสเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งตับ โดยไวรัสสามารถทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและเกิดพังผืดในตับ (ตับแข็ง) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ ไวรัสตับอักเสบบีสามารถติดต่อผ่านทางเลือด การมีเพศสัมพันธ์ และการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูก

  1. ตับแข็ง (Cirrhosis)

ตับแข็งเกิดจากเนื้อเยื่อตับถูกทำลายจนแทนที่ด้วยเนื้อเยื่อพังผืด สาเหตุของตับแข็งมักมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หรือไขมันพอกตับ

  1. การบริโภคแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นเวลานานสามารถทำให้เกิดการอักเสบของตับและนำไปสู่ตับแข็ง

  1. การบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนสารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin)

สารอะฟลาทอกซินพบในถั่วลิสงหรือธัญพืชที่เก็บรักษาไม่ดีจนเกิดเชื้อรา สารนี้เป็นสารก่อมะเร็งที่มีผลโดยตรงต่อตับ

  1. ไขมันพอกตับ (Non-Alcoholic Fatty Liver Disease, NAFLD)

ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ เป็นผลจากโรคอ้วน เบาหวาน หรือภาวะดื้อต่ออินซูลิน หากไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ตับแข็งและมะเร็งตับได้

  1. พันธุกรรมและประวัติครอบครัว

หากครอบครัวมีประวัติของมะเร็งตับหรือโรคเกี่ยวกับตับ ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับจะเพิ่มขึ้น

  1. สารพิษและสารเคมี

การสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด เช่น ยาฆ่าแมลง หรือสารหนู (Arsenic) อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งตับ

  1. โรคทางพันธุกรรมบางชนิด

โรคทางพันธุกรรมที่มีผลต่อตับ เช่น โรคเฮโมโครมาโทซิส (Hemochromatosis) ซึ่งเกิดจากการสะสมธาตุเหล็กในตับ

  1. การสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งตับและโรคมะเร็งอื่น ๆ

สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

โรคมะเร็งตับมักไม่มีอาการในระยะแรก แต่เมื่ออาการเริ่มปรากฏ ผู้ป่วยอาจมีนี้ หากสงสัยควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด

  • อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • อาการปวดหรือแน่นบริเวณชายโครงขวา
  • ตัวเหลือง ตาเหลือง (ดีซ่าน)
  • ท้องบวมเนื่องจากน้ำในช่องท้อง
  • คลื่นไส้หรืออาเจียน

หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที

การป้องกัน ปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยง

แม้โรคมะเร็งตับจะดูน่ากลัว แต่คุณสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น:

  • ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เพื่อป้องกันการติดเชื้อ 
  • ลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือหลีกเลี่ยงการดื่มอย่างสิ้นเชิง 
  • รับประทานอาหารที่สะอาดและปลอดภัย หลีกเลี่ยงอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อรา 
  • ควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 
  • ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่มีประวัติไวรัสตับอักเสบหรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ 

โรคมะเร็งตับอาจไม่ได้ไกลตัวอย่างที่หลายคนคิด การรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก หากคุณพบว่าบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมส่งต่อข้อมูลนี้ให้กับครอบครัวและเพื่อน ๆ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่ตระหนักถึงสุขภาพและป้องกันภัยเงียบที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราและคนที่เรารัก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook