โรคมะเร็งตับ ภัยเงียบใกล้ตัวกว่าที่คิด ไม่ดื่มก็เสี่ยง!
โรคมะเร็งตับ ภัยเงียบใกล้ตัวกว่าที่คิด ไม่ดื่มก็เสี่ยง!
มะเร็งตับ อาจฟังดูเหมือนโรคร้ายแรงที่ไกลตัวสำหรับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ความจริงแล้ว มันอาจอยู่ใกล้กว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มะเร็งตับเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ และสาเหตุก็ไม่ได้มาจากการดื่มเท่านั้น!
จากข้อมูลของกรมการแพทย์และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่ามะเร็งตับและท่อน้ำดีเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในคนไทย โดยมีผู้ป่วยรายใหม่มากกว่า 2 หมื่นรายต่อปี และในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1.6 หมื่นราย เกินครึ่งของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด
เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งตับ รวมถึงสาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง และวิธีป้องกัน เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุขภาพของตนเองและคนที่คุณรักได้ดียิ่งขึ้น
มะเร็งตับ ภัยร้ายอวัยวะสำคัญ
มะเร็งตับคือการเกิดเนื้องอกชนิดร้ายแรงในตับ ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กำจัดสารพิษในร่างกาย ผลิตน้ำดีช่วยย่อยไขมัน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด มะเร็งตับแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก
- มะเร็งตับปฐมภูมิ เกิดขึ้นจากเซลล์ในตับโดยตรง หรือเกิดจากเซล์ล์มะเร็งในท่อน้ำดีที่เชื่อมต่อกับตับโดยตรง
- มะเร็งตับทุติยภูมิ เกิดจากการแพร่กระจายของมะเร็งจากอวัยวะอื่น เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งรังไข่ โดยกระจายมาที่เนื้อตับในเวลาต่อมา
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง มะเร็งตับ
การเกิดมะเร็งตับมีสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ส่วนใหญ่เกิดในกลุ่มคนที่มีประวัติโรคเกี่ยวกับตับมาก่อน ดังนี้
- การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) และซี (HCV)
การติดเชื้อไวรัสเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งตับ โดยไวรัสสามารถทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและเกิดพังผืดในตับ (ตับแข็ง) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ ไวรัสตับอักเสบบีสามารถติดต่อผ่านทางเลือด การมีเพศสัมพันธ์ และการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูก
- ตับแข็ง (Cirrhosis)
ตับแข็งเกิดจากเนื้อเยื่อตับถูกทำลายจนแทนที่ด้วยเนื้อเยื่อพังผืด สาเหตุของตับแข็งมักมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หรือไขมันพอกตับ
- การบริโภคแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นเวลานานสามารถทำให้เกิดการอักเสบของตับและนำไปสู่ตับแข็ง
- การบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนสารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin)
สารอะฟลาทอกซินพบในถั่วลิสงหรือธัญพืชที่เก็บรักษาไม่ดีจนเกิดเชื้อรา สารนี้เป็นสารก่อมะเร็งที่มีผลโดยตรงต่อตับ
- ไขมันพอกตับ (Non-Alcoholic Fatty Liver Disease, NAFLD)
ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ เป็นผลจากโรคอ้วน เบาหวาน หรือภาวะดื้อต่ออินซูลิน หากไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ตับแข็งและมะเร็งตับได้
- ภาวะไขมันพอกตับ ต้นตอสู่ “มะเร็งตับ” พบมากเป็นอันดับ 1 ของคนไทย
- คุณหมอเล่าประสบการณ์ตรง ไขมันพอกตับ กลับเป็นปกติได้
- พันธุกรรมและประวัติครอบครัว
หากครอบครัวมีประวัติของมะเร็งตับหรือโรคเกี่ยวกับตับ ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับจะเพิ่มขึ้น
- สารพิษและสารเคมี
การสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด เช่น ยาฆ่าแมลง หรือสารหนู (Arsenic) อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งตับ
- โรคทางพันธุกรรมบางชนิด
โรคทางพันธุกรรมที่มีผลต่อตับ เช่น โรคเฮโมโครมาโทซิส (Hemochromatosis) ซึ่งเกิดจากการสะสมธาตุเหล็กในตับ
- การสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งตับและโรคมะเร็งอื่น ๆ
สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
โรคมะเร็งตับมักไม่มีอาการในระยะแรก แต่เมื่ออาการเริ่มปรากฏ ผู้ป่วยอาจมีนี้ หากสงสัยควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด
- อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- อาการปวดหรือแน่นบริเวณชายโครงขวา
- ตัวเหลือง ตาเหลือง (ดีซ่าน)
- ท้องบวมเนื่องจากน้ำในช่องท้อง
- คลื่นไส้หรืออาเจียน
หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
การป้องกัน ปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยง
แม้โรคมะเร็งตับจะดูน่ากลัว แต่คุณสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น:
- ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือหลีกเลี่ยงการดื่มอย่างสิ้นเชิง
- รับประทานอาหารที่สะอาดและปลอดภัย หลีกเลี่ยงอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อรา
- ควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่มีประวัติไวรัสตับอักเสบหรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
โรคมะเร็งตับอาจไม่ได้ไกลตัวอย่างที่หลายคนคิด การรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก หากคุณพบว่าบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมส่งต่อข้อมูลนี้ให้กับครอบครัวและเพื่อน ๆ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่ตระหนักถึงสุขภาพและป้องกันภัยเงียบที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราและคนที่เรารัก