เมื่อเทคโนโลยีเจอกับพลังแห่งรัก ใครจะวิน?

เมื่อเทคโนโลยีเจอกับพลังแห่งรัก ใครจะวิน?

เมื่อเทคโนโลยีเจอกับพลังแห่งรัก ใครจะวิน?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเทคโนโลยีเจอกับพลังแห่งรัก ใครจะวิน?

กำลังสงสัยว่าเทคโนโลยีกับความรักนี่ถ้ามาเจอกันตัวต่อตัวแล้วเนี่ย ใครกันน้อ? จะเป็นฝ่ายชนะ อารมณ์สงสัยนี้ต่อเนื่องมาหลังจากได้ดูโฆษณาชิ้นล่าสุดของ Dtac ยอมรับเลยว่าแอบน้ำตาซึมนิดนึง โฆษณาความยาว 2 นาทีบอกเรื่องราวที่พ่อต้องอยู่บ้านเลี้ยงเจ้าลูกตัวน้อย ในขณะที่แม่ออกไปช้อปของใช้นอกบ้าน แต่คุณลูกดันมาร้องไห้จ้าไม่หยุด พ่อก็หาสารพัดวิธีเพื่อทำให้ลูกหยุดร้อง ทั้ง Facetime หาแม่ก็แล้ว เปิดการ์ตูนให้ดูก็แล้ว แต่ลูกก็ยังไม่หยุดร้องซักที จนสุดท้ายผู้เป็นพ่ออุ้มลูกขึ้นมา ลูกก็หยุดร้องทันที

ดูตอนแรกแอบเคืองนิดนึงว่าคุณพ่อนะคุณพ่อ มัวแต่ตกใจแทนที่จะรีบอุ้มลูก ดั๊นเลือกที่จะกดโทรศัพท์หาแม่ก่อนซะนี่ แม่เด็กก็สอนให้พ่อเปิดการ์ตูนให้ลูกดู ซึ่งอาจเป็นวิธีที่แม่เคยใช้บ่อยและได้ผล แต่พ่อลองแล้วลูกกลับไม่หยุดร้องซะนี่ จุดนี้โฆษณาสื่อให้เราเห็นชัดเลยว่า เทคโนโลยีสามารถมาเป็นตัวช่วยได้เป็นบางครั้ง แต่ไม่ได้แปลว่ามันจะได้ผลทุกครั้งไป

แต่ยังไงก็ขอชื่นชมไอเดียดีๆ จาก Dtac ที่ทำโฆษณาตัวนี้ออกมาเพื่อเตือนสติให้เราเห็นกันว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีมันก้าวเข้ามาจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราแล้วนะ ดูอย่างในโฆษณาผู้เป็นพ่อลืมนึกไปว่าเวลาเด็กร้องจะต้องทำอะไรก่อน จะชงนมหรือเปลี่ยนแพมเพิร์ส แต่พ่อกลับรีบโทรหาแม่ก่อนเลย พอรู้ว่าลูกติดแม่ไม่ได้ติดการ์ตูนก็รีบเปิด Facetime ให้แม่ได้เล่นกับลูกผ่านโทรศัพท์ โดยพ่อลืมนึกไปว่าสัมผัสจากพ่อนี่แหล่ะที่ลูกอยากได้ พออุ้มลูกขึ้นมากอดเท่านั้นแหล่ะลูกก็หยุดร้องทันทีเลย จริงๆ แล้วมันง่ายกว่าการกดโทรศัพท์หาแม่เด็กอีกใช่ป่ะ?

Dtac เค้าสื่อออกมาได้โดนใจจริงๆ ให้เห็นถึงพลังของความรักว่ามีอำนาจเหนือกว่าสิ่งอื่นใดในโลก ซึ่งแม้แต่เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาให้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราอย่างมากมาย ก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้กับพลังแห่งความรัก เห็นในโฆษณาพอพ่ออุ้มลูกขึ้นมาปุ๊บ เสียงร้องบาดใจเงียบในทันที เดาว่าพลังแห่งรักซินะที่มาแรงแซงโค้งจริงๆ

โฆษณาแค่ต้องการบอกกับคุณว่า ไม่ว่าคุณจะใช้เทคโนโลยีอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับความรู้สึกจริงๆ ความรู้สึกของผู้เป็นพ่อและความรักที่มีต่อลูกน้อย
ดูโฆษณาแล้วลองย้อนหันกลับมาดูตัวเราบ้างว่าทุกวันนี้เราวิ่งไล่ตามเทคโนโลยีกันจนละเลยคุณค่าของความรักกันหรือเปล่า?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook