"หน่อย บุษกร" เผยทริคดูแลตัวเอง กินอะไร ไม่กินอะไร ออกกำลังกายแบบไหน จึงทำให้วัย 50+ ยังดูดี
"หน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์" นักแสดง นางแบบ ผู้จัดละคร อีกทั้งยังเป็นภรรยาของ "เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" ปัจจุบันหน่อยในวัย 55 ปี แต่กลับมีรูปร่าง ผิวพรรณ และบุคลิกภาพที่ดูสดชื่น มีพลัง จนสัมผัสได้ถึงพลังบวกจากเธอ Sanook Women จึงชวนเธอพูดคุยกันสั้นๆ เกี่ยวกับเคล็ดลับการดูแลตัวเองในวัย 55 ปี แต่ยังคงเหมือนสต๊าฟความสวยไว้เมื่อครั้งเธอเป็นนางแบบ และนักแสดง
วิธีดูแลตัวเองของหน่อย บุษกร วงศ์พัวพันธ์
เริ่มต้นวันใหม่ด้วย "น้ำเปล่า"
หลังอายุเข้าเลข 3 หน่อยคิดว่าอยากลองปรับเปลี่ยนตัวเอง เพราะก่อนหน้านั้นคิดว่าตัวเองใช้ชีวิตมาอย่างหนัก ทั้งถ่ายละคร เดินแบบจึงเริ่มหันมาดูแลตัวเองทั้งเรื่องอาหาร ออกกำลังกาย การพักผ่อน ดังนั้นจึงทำแบบนี้มาประมาณ 20 ปีแล้ว
ทุกวันนี้หน่อยตื่นนอนเวลาประมาณ 6-7 โมงเช้า แต่ถ้าวันไหนเหนื่อย หรือมีถ่ายละครก็อาจจะตื่น 8 โมง หลังจากนั้นดื่มน้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิปกติจำนวน 3 แก้ว แล้วเข้าห้องน้ำ จากนั้นทานข้าวเช้าแบบจริงจังเป็นกับข้าว หน่อยไม่เคยข้ามมื้อเช้าเลย และทำแบบนี้มานานแล้ว บางครั้งมื้อเช้าอาจจะเป็นโจ๊ก ข้าวต้ม หรือขนมปังถ้าเราเดินทางไปต่างประเทศ แต่โดยปกติจะทานข้าวจริงจังไปเลย จากนั้นดื่มกาแฟดำร้อน ไม่เติมน้ำตาล หน่อยจะดื่มกาแฟหลังทานข้าว แต่ไม่ดื่มน้ำอัดลม น้ำแข็ง
ขนม ไวน์ ของทอด ไม่ได้เว้น
หน่อยเป็นคนที่ทานอาหารครบทั้ง 3 มื้อ และทานแบบจริงจัง สำหรับมื้อเย็นอาจจะทานน้อยลงเพราะเดี๋ยวก็เข้านอน แต่หลังอาหารก็จะทานขนมไทย ขนมหวานเล็กน้อยเพราะติดที่ต้องทานแบบนั้น แต่ไม่ทานมาก หรือมื้อเย็นอาจจะดื่มไวน์ 1-2 แก้ว จริงๆ แล้วไม่ได้ซีเรียมเรื่องการทานอาหารสักเท่าไร แต่จะรู้ว่าอะไรควรทานไม่ควรทาน อย่างอาหารแปรรูปก็จะไม่ทาน จะทานหมู ปลา ไก่ที่เป็นเนื้อแบบนั้นอย่างแท้จริง ของทอดก็ทาน
เลือกใช้ "โยคะ" ดูแลตัวเอง
เราเลือกโยคะเป็นการออกกำลังกาย จะไม่ชอบการออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจเต้นแรง เราเลือกเรียนโยคะแบบฝึกลมหายใจ สำหรับช่วงเวลาที่เล่นโยคะก็ขึ้นกับความสะดวก แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แต่ก็จะมีกิจกรรมอื่นเช่นการทำสวนมาเป็นกิจกรรมทดแทน ดังนั้นจึงเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ได้หนัก แต่ต้องออก ไม่ได้ซีเรียสกับการออกกำลังกายขนาดนั้น
จัดการความเครียดด้วย "การปล่อยวาง"
เมื่อต้องพบปัญหา ความเครียดเน้นเรื่องการปล่อยวาง ฟังธรรมะ อ่านธรรมะถามว่ามันก็ทำไม่ง่าย ตอนหลังจะใช้คำว่า "ช่างมัน" เดี๋ยวก็พรุ่งนี้แล้ว ช่างมันไปเรื่อยๆ เวลาเจอเรื่องที่ต้องโกรธก็โกรธ แต่เราก็รู้ว่าโกรธ แต่ก็รู้ว่ามันคือ toxic ก็เลยว่าช่างมันๆๆๆๆๆ เราโกรธก็ไม่มีใครรู้ ความโกรธอยู่กับตัวเราเอง หายใจเข้าลึกๆ
