รู้จัก "ไส้เลื่อน" ในผู้หญิง เป็นอย่างไร ทำไมผู้หญิงวัย 40 + ต้องระวัง

หลายคนอาจเคยได้ยินความเชื่อที่ว่า "ผู้ชายที่ไม่สวมกางเกงชั้นในเสี่ยงต่อการเป็นไส้เลื่อน" ซึ่งความเชื่อนี้ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่า โรคไส้เลื่อนเป็นโรคที่เกิดจากการไม่สวมกางเกงชั้นใน และเป็นโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะในผู้ชายเท่านั้น ในความเป็นจริง โรคไส้เลิ่อนในผู้หญิงก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน และสาเหตุของการเกิดโรคไส้เลื่อนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสวมหรือไม่สวมกางเกงชั้นในแต่อย่างใด
โรคไส้เลื่อนมีทั้งชนิดที่ไม่รุนแรงและชนิดที่รุนแรงจนถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉิน หากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่การติดเชื้อและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ไส้เลื่อนคืออะไร
ไส้เลื่อน คือ ภาวะที่อวัยวะภายในช่องท้องเคลื่อนตัวออกมาจากตำแหน่งปกติ ผ่านจุดอ่อนแอของผนังกล้ามเนื้อหรือเยื่อบุช่องท้อง ทำให้เกิดเป็นก้อนนูนขึ้นมา มักพบได้บริเวณผนังหน้าท้องหรือขาหนีบ
กลไกการเกิดไส้เลื่อน
- จุดอ่อนแอ: ผนังกล้ามเนื้อหรือเยื่อบุช่องท้องบริเวณนั้น ๆ มีความอ่อนแอหรือฉีกขาด
- แรงดัน: แรงดันในช่องท้องที่เพิ่มขึ้น เช่น จากการยกของหนัก ไอ จาม หรือเบ่ง ทำให้เกิดการดันอวัยวะภายในออกมา
- การเคลื่อนตัว: อวัยวะภายใน เช่น ลำไส้ หรือไขมันในช่องท้อง เคลื่อนตัวผ่านจุดอ่อนแอนั้นออกมา ทำให้เกิดเป็นก้อนนูน
ทำความรู้จัก "ไส้เลื่อนในผู้หญิง"
แม้ว่าโรคไส้เลื่อนจะพบได้บ่อยในผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็สามารถเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสเป็นไส้เลื่อนมากขึ้น ได้แก่:
- แผลผ่าตัด:
- แผลจากการผ่าคลอดบุตร หรือการผ่าตัดบริเวณหน้าท้องอื่นๆ อาจทำให้ผนังกล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแอลง
- กิจกรรมที่เพิ่มแรงดันในช่องท้อง:
- การออกกำลังกายที่ใช้แรงเกร็งหน้าท้องมาก เช่น การซิทอัพ หรือการยกน้ำหนัก
- การไอหรือจามเรื้อรัง
- การยกของหนักเป็นประจำ
- ปัจจัยอื่นๆ:
- ความอ่อนแอของกล้ามเนื้อตามธรรมชาติ
- การตั้งครรภ์
ดังนั้น ผู้หญิงก็ควรใส่ใจดูแลสุขภาพ และสังเกตอาการผิดปกติของตนเอง หากพบก้อนนูน หรือมีอาการปวดหน่วงๆ บริเวณหน้าท้องหรือขาหนีบ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม
อาการของโรคไส้เลื่อนในผู้หญิง สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายระยะ ดังนี้
ระยะเริ่มต้น:
- ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการแสดงใด ๆ
- อาจสังเกตเห็นก้อนนูนเล็กน้อยบริเวณหน้าท้องหรือขาหนีบ
- ก้อนนูนนี้อาจมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อยืน นั่ง หรือออกแรง
ระยะลุกลาม:
- เริ่มมีอาการปวดหน่วง ๆ บริเวณที่เป็นไส้เลื่อน
- ก้อนนูนมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- อาจมีอาการแน่นท้อง หรือรู้สึกไม่สบายท้อง
ระยะรุนแรง:
- มีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่เป็นไส้เลื่อน
- ปวดท้องรุนแรง
- อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
วิธีรักษาไส้เลื่อน
โรคไส้เลื่อนเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ การรักษาที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และได้รับความนิยมในปัจจุบันคือการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง ซึ่งมีข้อดีหลายประการดังนี้
- แผลผ่าตัดขนาดเล็ก: ทำให้เจ็บน้อยลง และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- การฟื้นตัวที่รวดเร็ว: ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิด
- ความปลอดภัยสูง: เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น
ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบัน การผ่าตัดไส้เลื่อนจึงมีความปลอดภัยสูง ดังนั้น หากตรวจพบว่าเป็นไส้เลื่อน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด