กู้ผิวหน้าเยิน ช่วงมีรอบเดือน

กู้ผิวหน้าเยิน ช่วงมีรอบเดือน

กู้ผิวหน้าเยิน ช่วงมีรอบเดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชื่อว่าทุกเดือนสาวๆ อาจมีช่วงเวลาที่ตื่นขึ้นมาพร้อมอาการงอแง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยเนื้อตัว เมื่อส่องกระจกในแสงยามเช้าซึ่งให้ภาพ “จริง” ที่สุดแบบไร้ซึ่งแอพใดๆ มาช่วย แล้วก็อาจร้องอุทานออกมาว่า “นี่หน้าฉันหรือนี่” หลังจากตั้งสติได้จากภาพน่าสะพรึง ก็พลันให้นึกได้ว่า “วันนั้น” ของเดือนกำลังจะมาถึง

ไม่ มีอะไรเจ็บปวดเท่ากับความรู้สึกว่า “ฉันไม่สวย” ในช่วงวันนั้นของเดือน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการปรับเปลี่ยนขึ้น - ลงของฮอร์โมนในของช่วงของการมีประจำเดือนส่งผลต่อสภาพผิวโดยตรงนั่นเอง

ช่วงผิวใสไร้ปัญหา
ใน ระยะเวลา 1 เดือนจะมีช่วงเวลาที่สาว ๆ ผิวดีสวยใสกว่าปกติ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่มีประจำเดือนไปแล้ว ร่างกายจะเข้าสู่ช่วงไข่สุก คือช่วงที่ฮอร์โมนเอสโทรเจน (Estrogen) สูงขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวแข็งแรงที่สุดสังเกตได้ว่าผิวจะสดใส เปล่งปลั่ง ไม่ค่อยมีสิว แต่งหน้าได้ติดทนนานถ้าอยากดูแลผิว สครับผิว ลองเครื่องสำอางใหม่ ๆ ควรทำในช่วงนี้เพราะผิวจะเปิดรับสารบำรุงต่าง ๆ ได้ดี ซึมซาบได้รวดเร็ว และนำไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ช่วงผิวอ่อนแอ แพ้ภัยฮอร์โมน
ช่วง เวลา 1 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน เป็นช่วงที่เจ้าฮอร์โมน ตัวแสบอย่างโพรเจสเทอโรน (Progesterone) ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น ผิวจะอ่อนแอลง รูขุมขนกว้าง ผิวมันกว่าปกติ สิวขึ้นง่าย ช่วงนี้สาว ๆ ควรงดการทดลองเครื่องสำอางใหม่ที่ไม่คุ้นเคย

ทำอย่างไรดี มีประจำเดือนแล้วฉันมักจะ…

• หน้าบวมไม่เป็นรูปทรง
ใน ช่วงนี้รูปหน้าแบบวีเชปอย่างที่ใฝ่ฝันอาจไม่เกิดขึ้น เพราะเป็น ช่วงเวลาที่ฮอร์โมนเอสโทรเจนกับโพรเจสเทอโรนไม่สัมพันธ์กัน ทำให้มีการกักเก็บของเหลวไว้ในร่างกายมากกว่าปกติ ส่งผลให้ทั้งใบหน้าและตัว ดูบวมจนสังเกตได้

How to fight it :
ก่อนเข้านอนนำผ้าขนหนูสะอาดบิดหมาด ๆ ใส่ภาชนะที่มิดชิด เช่น กล่อง ถุงพลาสติก นำไปแช่ตู้เย็นไว้ ก่อนล้างหน้าตอนเช้าหยิบผ้าเย็นมาลูบ เช็ดบริเวณใบหน้าเบา ๆ ความเย็นจะช่วยให้อาการบวมลดลง แถมคุณจะรู้สึกตื่นและสดใสขึ้นอีกครั้ง


• หน้าเหี่ยว หย่อนคล้อยลงกว่าปกติ

สำหรับบางคน แทนที่จะบวมกลับกลายเป็นตรงกันข้ามคือ ใบหน้าจะดูฟีบหย่อนคล้อย เพราะร่างกายที่อ่อนล้าส่งผลถึงผิว

How to fight it : การเลือกใช้สีบลัชออนเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถ กู้ความอ่อนวัย สดใส เปล่งปลั่ง กลับคืนมาอีกครั้ง หากช่วงวันนั้น ของเดือนผิวหน้าหมองจนผิวกลายเป็นสีอมเขียวหรือเทาจาง ๆ ลอง เลือกใช้บลัชออนสีชมพูสดใสให้ตัดกับความหม่นหมองของผิวหน้าปัดไล้เบา ๆ ที่พวงแก้มแล้วปัดขึ้น จะช่วยทำให้ใบหน้า ดูสว่างสดใส มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง


• หน้าซีดไม่สดใส ไร้เลือดฝาด

นอกจากอาการอ่อนเพลียแล้ว สีผิวยังอาจดูซีดลง เนื่องจากร่างกายเสียเลือด

How to fight it : ควรมาสก์หน้าโดย
ใช้ ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นทาลงบนผิวหน้า แล้วค่อย ๆ นวดเบา ๆ ให้ทั่วประมาณ 3 - 5 นาทีเพื่อเรียกให้เลือดฝาดกลับคืนมาเลี้ยงผิวหน้าให้ดูเปล่งปลั่ง แล้วค่อยล้างออก


• ผิวหน้ามันกว่าปกติ
เมื่อ ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนเพิ่มสูงขึ้น ผิวหน้าจะผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ นอกจากจะสร้างความหงุดหงิดใจให้ต้องคอยซับระหว่างวันแล้ว ยังเป็นเหตุให้แต่งหน้าไม่ติดทนนานอีกด้วย

How to fight it : ปรับเปลี่ยนสกินแคร์ในช่วงที่มีรอบเดือนให้เป็นชนิดเบาบาง อ่อนโยนขึ้น ใช้ไพรเมอร์ชนิดเนื้อแมตต์เพื่อช่วยควบคุมความมันให้รองพื้นติดทนนาน ลงรองพื้นเพียงบาง ๆ ทั่วใบหน้าเน้นให้หนาข้นึ เฉพาะส่วนคางหรือข้างจมูกท่มี ีรอยแดง ใช้แป้งฝ่นุ มากขึ้นเฉพาะบริเวณจมูกและคาง เพื่อช่วยดูดซับความมัน


• สิวอักเสบแบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อ ต่อมไขมันผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากในช่วงมีประจำเดือน ย่อมทำให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวได้ง่าย ไม่ว่าระวังอย่างไรก็ยากที่จะหลีกเลี่ยง

How to fight it : ใส่ใจการล้างหน้าให้มากขึ้น โดยเปลี่ยนมาใช้คลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก เพื่อการทำความสะอาดผิวที่หมดจด ช่วงมีรอบเดือนลองงดผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่เป็นประจำ สลับมาเป็นครีมที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการกำจัดแบคทีเรียและผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก เพื่อไม่ให้ไปอุดตันรูขุมขน ละเว้นครีมบำรุงเนื้อเข้มข้น เหนอะหนะ เพื่อลดปัญหาการอุดตันอันเป็นปัจจัยในการเกิดสิว ผ่านช่วงรอบเดือนแล้วค่อยกลับไปใช้ของเดิม


• ดวงตาบวมตุ่ย
ดวง ตาเป็นส่วนที่สามารถบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกได้ดีที่สุด แม้ช่วงมีประจำเดือนบางคนไม่มีสิวขึ้น แต่ถ้าร่างกายอ่อนล้าจนมีทั้งถุงใต้ตาและรอยคล้ำ อย่างไรก็ดูไม่สดใสอยู่ดี

How to fight it : นำอายครีมแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นสักพัก เมื่อเย็นได้ที่ ใช้นิ้วนางบรรจงทาอายครีมบริเวณใต้ตาให้เนื้อครีมค่อย ๆ ซึมซาบ ความเย็นจะช่วยให้หนังตาที่บวมหรือหย่อนคล้อยนั้นกลับยุบตัวลงและเต่งตึง ขึ้น


การแต่งตาแบบคัดเบ้ามีส่วนช่วยให้ดวงตาที่บวมดูยุบลงได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการทำสโมกกี้อายบริเวณตาล่าง เพราะจะยิ่งเป็นการเน้นให้ดูโทรม การใช้มาสคาราปัดขนตาให้ยาวแผ่เรียงเส้นจะช่วยทำให้ดวงตาดูสดใส เปล่งประกายมีชีวิตชีวาขึ้นทันตาเห็น

MUST-HAVE BEAUTY PRODUCTS DURING YOUR PERIOD

Concealer : สารพัดประโยชน์ เพื่อการปกปิดอาการบวม รอยคล้ำใต้ตา รอยแดง และสิวอักเสบ

Matte Setting Power : ใช้แป้งเนื้อแมตต์ปัดทับหลังลงคอนซีลเลอร์ เน้นแป้งบริเวณที่มีสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ จะช่วยลวงตา ลดการกระทบกับแสงของเม็ดสิว ช่วยให้อาการบวมดูน้อยลง

Matte Eyeshadow : ช่วงมีรอบเดือน การใช้อายแชโดว์เนื้อชิมเมอร์จะยิ่งเน้นให้ดวงตาดูบวม ลองแต่งตาด้วยอายแชโดว์ เนื้อแมตต์สีเข้ม ช่วยสร้างเงาให้อาการบวมดูลดลง

Bronzer : เลือกใช้บรอนเซอร์เนื้อแมตต์ปัดคอนทัวร์บริเวณกรอบหน้า เพื่อให้อาการบวมดูลดลง

Dry Shampoo : ช่วงมีรอบเดือนนอกจากผิวหน้าจะมันแล้ว ผมก็มักมีความมันมากกว่าปกติ การรักษาความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่หากสระผมอย่างเดียวเอาไม่อยู่ การใช้ดรายแชมพูสามารถช่วยลดความมันบนหนังศีรษะและผมจัดทรงได้ง่ายขึ้น

5 THINGS TO AVOID DURING PMS


ในช่วงที่ผิวอ่อนแอแพ้ง่ายกิจกรรมบางประเภทอาจส่งผลต่อผิวที่บอบบางได้อย่างคาดไม่ถึง ต่อไปนี้คือข้อควรระวัง

1. งดสครับ : ช่วงเวลาที่ผิวอ่อนแอ การสครับหน้ายิ่งเป็นการกระตุ้นให้รอยแดงเห่อหรืออาการแพ้บนใบหน้าเห็นชัดขึ้น

2. งดการแว็กซ์ / ถอนขนคิ้ว : ช่วงมีประจำเดือน การแว็กซ์หรือถอนขนคิ้วจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบได้ง่าย รอยแดงหายช้า อาจถึงขั้นเกิดตุ่มหนองจากการระคายเคือง แถมความที่คุณอารมณ์แกว่งหงุดหงิด มือไม่นิ่ง อาจทำคิ้วแหว่งแล้วจะยิ่งทำให้อารมณ์เดือดพล่านไปใหญ่

3. ลดแป้งและน้ำตาล : การรับประทานคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลมากเกินไปมีส่วนกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้น เพราะเป็นการกระตุ้นระดับอินซูลินในร่างกาย

4. เลี่ยงอาหารรสจัด : แม้จะชอบขนาดไหนก็ตาม โดยเฉพาะรสเค็ม เพราะเกลือทำให้เกิดอาการหน้าและตัวบวม

5. ลดกาเฟอีน : นักวิจัยระบุว่า การดื่มกาแฟในปริมาณมากทำให้ผู้หญิงที่มีประจำเดือนแสดงอาการต่างๆ ทั้งทางร่างกายและอารมณ์มากกว่าผู้หญิงที่ไม่ดื่ม หรือดื่มน้อยถึง 2 เท่า

ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.istockphoto.com/

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook