10 กฎเหล็กสำหรับคู่รัก
กฎข้อที่ 1 อย่าต้องการมากเกินไป คนเราลองรักกันแล้วก็ควรให้อิสระแก่กันด้วย ไม่ใช่ว่าพอตกลงเป็นแฟนปุ๊บ ก็ห้ามไม่ให้ไปสุงสิงกะใครปั๊บ แหม...ทำอย่างกะชีวิตรักเป็นชีวิตคุกก็ไม่ปาน แล้วอย่างงี้จะไปกันไหวรื้อ สู้บางเวลาให้แต่ละฝ่ายมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง และบางคราก็หวานแหววกับแฟนมั่ง หากแบ่งสันปันส่วนเวลาส่วนตัวกับส่วน รวมได้อย่างนี้ ความรักก็ยังอยู่กะคนทั้งคู่ รับรองว่าแฟนไม่หนีไปไหนหรอก การเกาะติดกันเป็นปาท่องโก๋ของคู่รัก ความจริงก็ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะคนเราลองพิศวาสบาดอุรากันแล้วไซร้ ก็ย่อมอยากอยู่ด้วยกัน เป็นธรรมดาโลกน่ะโยม แต่ก็อีกนั่นแหละ ที่ไม่ช้าก็เร็ว "การอยู่ติดกันเป็นตังเม" ก็อาจทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียโอกาสในการทำสิ่งต่างๆ ที่ตัวเองอยากทำหรือชอบทำลำพังคนเดียวก็ได้นะ เช่น อดดูหนังเรื่องที่คุณชอบเพราะแฟนไม่ชอบด้วยจึงไม่ยอมไปเงี้ย เพราะฉะนั้น จงอย่าเรียกร้องความต้องการที่จะอยู่ด้วยกันมากเกินไปนะจ๊ะ เดี๋ยวเบื่อเร็วไม่รู้ด้วย!
กฎข้อที่ 2 การทำอะไรเล็กๆน้อยๆ ร่วมกัน ย่อมแสดงถึงความเป็นคู่ ไม่ว่าจะเป็นการไปทานอาหารในโอกาสพิเศษที่ภัตตาคารโปรด หรือแค่นั่งทานข้าวโพดคั่วขณะดูทีวีอยู่ที่บ้านด้วยกัน กิจกรรมที่เห็นว่าเล็กน้อยพวกนี้กลับมีพลังมหาศาลที่ช่วยสร้างความผูกพัน ซึ่งเชื่อดิว่าอย่างอื่นก็ไม่สามารถทดแทนได้ วิธีการของคุณๆอาจไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่อลังการเสมอไป แค่อาบน้ำด้วยกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือชวนกันหนุงหนิงไปออกกำลังกายทุกวันศุกร์หลังเลิกงาน เท่าเนี้ยก็รักษาความผูกพันกันไว้ได้แล้ว
กฎข้อที่ 3 อย่าคิดว่าความสัมพันธ์คราวนี้ "เป็นของตาย" อย่าให้ความรู้สึกเป็นกันเองพัฒนาไปสู่ "การปล่อยตัวตามสบายจนเกินไป" เช่น แม้ทั้งคู่จะโทรศัพท์หากันได้ทุกเมื่อที่อยากจะฝอยแหลกให้อีกฝ่ายฟัง หรือสนิทซะจนต่างฝ่ายต่างช่วยซักกางเกงในให้กันและกันได้ก็เหอะ คุณก็ไม่ควรปล่อยให้ความรู้สึกเป็นกันเอง กลายเป็นจะทำไงต่อดาร์ลิ่งก็ได้โดยปราศจากความเกรงใจ หรือเลิกพูดคำหวานๆ และหยุดที่จะให้กำลังใจกันอีกต่อไปเพราะคิดตื้นๆ ว่าไม่จำเป็น แต่จริงๆแล้วยังจำเป็นนะ
กฎข้อที่ 4 ยังจูบประทับใจกันอยู่เลย การจูบแบบดื่มด่ำฉ่ำหวาน เป็นการช่วยให้ไฟรักของคุณโชติช่วงชัชวาลในความสัมพันธ์ของคุณ ด้วยเหตุที่ว่า การจูบเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับความรักและความโรมานซ์ ฉะนั้น จงยุติการจุ๊บปากชนปากแบบนกจิกซะ แล้วเปลี่ยนเป็นจุมพิตแบบดูดดื่มมิรู้ลืมดีกว่า รับรองจะเรียกคะแนนนิยมจากหวานใจได้อีกเพียบ
กฎข้อที่ 5 ตระหนักว่า การทะเลาะนั้นมีไว้เพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่เพื่อเอาชนะ การทะเลาะเบาะแว้งเป็นสัจธรรมของการมีชีวิตคู่ ฉะนั้นไม่ต้องกระต่ายตื่นตูมจนเกินไป หากว่าคู่รักจะมี ปากเสียงกันเพียงเล็กน้อยแล้วคิดว่า ตายแล้ว สงสัยจะเป็นลางร้ายของชีวิตคู่แล้วไหมล่ะ...ขืนคิดแบบนี้ก็มองโลกในแง่ร้ายเกินไปนะเจ๊ รู้เปล่าว่า การทะเลาะกันบางครั้งกลับทำให้คู่รักใกล้ชิดกันเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ ไม่ใช่มีแล้วจะทำให้แตกแยกเสมอไปก็หาไม่ แต่การทะเลาะกันก็มีเคล็ดลับตรงที่ควรมุ่งเน้นเพื่อความก้าวหน้า หรือปรับปรุง พัฒนาให้คู่ของเราดีขึ้น ไม่ใช่เพียงต้องการเอาชนะเพื่อความสะใจ เดี๋ยวเหอะ คงได้กลับไปเป็นโสดอีกหรอก
กฎข้อที่ 6 อย่าแค่พูด แต่ลงมือทำ คำพูดอาจดูสวยหรู แต่คำพูดจะหมดความหมายถ้าคุณทำไม่ได้ดังที่พูด เพราะฉะนั้นแทนที่จะโม้ว่าคนที่คุณรักมีความหมายสำหรับคุณแค่ไหน คุณควรลงมือแสดงความรัก, ความอ่อนโยนและความยอมรับนับถือในตัวสุดที่รักออกมาเลยไม่ดีกว่าหรือ
กฎข้อที่ 7 อย่ากดดันดาร์ลิ่งมากไป การผลักให้แฟนทำบางสิ่งที่คุณต้องการ เช่น เรื่องบนเตียงหรือเซ็กซ์ๆ เอ็กซ์ๆ มันเป็นการบังคับขืนใจกันเกินไปรึเปล่า ต้องคิดถึงใจเขาใจเราด้วยน้า การกดดันสุดที่รักให้ทำในสิ่งที่ไม่พร้อม เท่ากับไปฝืนความรู้สึก แล้วความสัมพันธ์จะลงเอยกันด้วยดีได้ไง ทางที่ดีควรปล่อยให้อะไรๆเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่ามั้ย
กฎข้อที่ 8 อย่าพูดว่า "รักเธอ" ถ้าไม่รู้สึกตามนั้นจริงๆ เพราะมันเสียความรู้สึกน่ะเซ่ แถมยังบาปอีกต่างหาก ฉะนั้นถ้าไม่รักก็อย่าลวงให้ช้ำ ยังไม่อยากเสียตังค์ซื้อน้ำใบบัวบก แก้ช้ำใน ทราบไว้ซะด้วย
กฎข้อที่ 9 อย่าให้ของขวัญตามอำเภอใจคนให้ การเอาใจแฟนด้วยการรีบให้ของขวัญ แหงล่ะ ไม่ว่าใครย่อมชอบด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งถ้าคุณอยากให้อะไรแก่ หวานใจก็ให้ไปเถอะ แต่มั่นใจหน่อยนะว่าได้ให้ของที่แฟนชอบด้วย ไม่ใช่ให้อะไรก็ไม่รู้ ซึ่งหล่อนไม่มีวันแกะมันออกมาใช้ ก็อย่าให้ดีกว่า นอกจากจะเปลืองแล้วยังทำให้รู้สึกไม่มีความหมายอะไรด้วย
กฎข้อที่ 10 อาศัยความลึกลับชวนให้น่าค้นหา ทำตัวให้มีความลึกลับซะบ้าง บางครั้งก็ดีเหมือนกัน การจะมีความสัมพันธ์กันอย่างยาวนานได้จะต้องมีสัมผัส แห่งการไม่รู้เป็นศิลปะในการเก็บงำความลับเพื่อให้แฟนได้คาดเดาเอาไว้บ้าง เผื่อจะจูงใจให้แฟนอยากค้นหาคุณไง จำไว้เหอะว่า ความไม่เด่นชัดจะยิ่งปลุกปล้ำ เอ๊ย ปลุกปั้นคุณให้น่าสนใจมากกว่าแบไต๋ให้อีกฝ่ายรู้ใจคุณไปซะหมด
ตรงนี้สรุปเป็นสมการได้ว่า ความคาดหวัง+ความสงสัย จะเท่ากับความรัก ไงจ๊ะ
ข้อมูล : Forward Mail