คะน้า จากเด็กล้างจาน กลายเป็นเศรษฐี 100 ล้าน

ชีวิตต้องสู้ อดีตนางเอกมิวสิค "คะน้า ภัทร์ภัสสร" จากเด็กล้างจาน กลายเป็นเศรษฐี 100 ล้าน เผยเคยถูกดาราชื่อดังโกง!

เปิดชีวิตรันทด อดีตนางเอกมิวสิคและอดีตนางงามเดินสาย คะน้า ภัทร์ภัสสร ธนาเสฎฐ์หิรัญ เผยชีวิตเคยตกต่ำถึงขั้นเป็นเด็กรับจ้างล้างจาน เก็บขยะขาย รวมถึงเป็นเด็กล้างห้องน้ำตามร้านอาหาร และที่เลวร้ายไปกว่านั้นเคยมีเสี่ยขอซื้อบริการและรับเลี้ยง เธอเผยชีวิตต้องสู้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ จนวันนี้กลายเป็นเศรษฐี 100 ล้าน

“คะน้าเคยเล่นมิวสิควีดีโอของพั้นค่ายแกรมมี่ ตอนนั้นพอดีคะน้าไปฝึกงานที่แกรมมี่ พี่ๆ ที่นั้นเห็นว่าคะน้าหน้าตาดี ก็เลยจับเล่นมิวสิค แต่พอดีว่าคะน้าไม่ค่อยชอบวงการเท่าไหร่ ก็เลยไม่สานต่อ เมื่อก่อนเคยเป็นอดีตนางงามเดินสายตามเวทีต่างๆ เคยได้ที่ 1บ้าง ที่ 2 บ้าง ที่ 3บ้าง สลับกันไป ตอนนั้นแม่จะชอบให้คะน้าประกวด เพราะมันเป็นวิธีหาเงินที่ได้เงินเยอะเหมือน

ถามว่าเมื่อก่อนคะน้าลำบากขนาดไหน บอกเลยว่ามาก ครอบครัวฐานะไม่ค่อยดี ต้องช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่เด็ก รับจ้างล้างจาน ล้างห้องน้ำ เก็บขยะขายทำหมดทุกอย่าง ทำเป็นอาชีพด้วย ทำอยู่หลายปีเหมือนกัน

จนได้มีโอกาสเรียนระดับมหาวิทยาลัย ก็มารับจ้างพิมพ์รายงาน ทำเอกสาร ส่งตัวเองจนเรียนจบ ตอนนั้นก็มีเสี่ยมาขอเลี้ยงดูเหมือนกันนะ เขาเห็นคะน้าจากมิวสิค บางคนก็มาขอซื้อบริการ คะน้าตกใจมากทำไมเขาถึงกล้าแบบนี้ คะน้าไม่ได้สวย ไม่ใช่นางเอก และก็ไม่ใช่คนดังอะไร ตอนนั้นกลัวมาก คะน้าเป็นเด็กต่างจังหวัดกลัวว่าเขาจะมาดักทำร้าย ก็เลยกลับไปอยู่ต่างจังหวัดกับแม่ดีกว่า

จากเด็กล้างจาน กลายเป็น เศรษฐี 100 ล้าน

เรื่องมันยาวมาก คะน้าเริ่มจากธุรกิจเล็กๆ จากเงินที่เราเก็บมาตลอดชีวิต พอจะรวมเงินลงทุนทำครีมครั้งแรกไม่กี่หมื่นบาท ขายในอินเตอร์เน็ต facebook นั่นแหละ พอมีแฟนคลับเยอะขึ้น ลูกค้าใช้ดีจริงก็ติดใจ ติดตามคะน้ามาตลอด ยอดขายก็ดีขึ้น จากที่ลงทุนครั้งแรกไม่กี่หมื่นบาท ก็เริ่มลงทุนหลักแสน และก็หลักล้าน กว่าจะมาถึงวันนี้ก็สู้มาเกือบ 10 ปีนะ

เรื่องนี้ต้องขอขอบคุณทาง ซีพีออล์ล มากเลยค่ะที่ให้โอกาสคะน้าได้มาจับธุรกิจอย่างจริงจัง พอได้มีโอกาสร่วมธุรกิจกับซีพีออล์ล ก็เลยขอทำแบรนด์ใหม่เป็นครีมหน้าขาวชื่อ “เดิมมาดิก” กับ ”วิตามินหน้า” ก็มีเข้าแล็บทดลองกันจนทางซีพีออล์ลเชื่อถือว่าของเราดีจริง เราก็เลยได้เข้าไปขายในเซเว่นฯ ทั่วประเทศ จนทุกวันนี้คะน้าพอใจมาก ตลอดชีวิตที่เราสู้มาคุ้มถึงคุ้มที่สุด ไม่ต้องไปขายตัวให้เสี่ยเลี้ยงให้เสื่อมเสีย เลี้ยงดูพ่อแม่ได้ซื้อบ้านซื้อรถ ทุกคนญาติพี่น้องสบาย

คะน้าอยากให้เรื่องของคะน้าเป็นอุทาหรณ์กับน้องๆที่อยากเข้ามาจับธุรกิจความงาม ความจริงแล้ว เราไม่ต้องมีทุนมากหรอกค่ะ หลักพันก็ทำได้ ขอแหล่งผลิตครีมดีๆที่ดีจริงๆนะไม่ใช่ทำมาหลอกขายลูกค้า แล้วก็สู้อย่างค่ะนี่แหละ จากหลักหมื่นกลายเป็นหลักแสนจนถึงหลักล้าน บอกตามตรงเลยว่าคะน้าได้แรงบันดารใจจากเถ้าแก่น้อยมาเยอะค่ะ

เคยถูกดาราชื่อดังโกง และเกือบเจ้ง

เรื่องนี้เป็นอะไรที่เจ็บใจมากๆ เพราะความที่คะน้าเป็นคนเชื่อคนง่าย คิดว่าทุกคนคงจะดีกับเรา ตอนนั้นคะน้าทำครีมยี้ห้อหนึ่งอยู่ แล้วก็เอาดาราคนหนึ่งมาเป็นพรีเซนเตอร์ ในสัญญาบอกว่าอย่ารับงานที่เป็นสินค้าเหมือนเรา ปรากฏว่างานวันเปิดตัว ดาราคนนั้นก็ไม่ยอมมา บอกว่าจะทำครีมของตัวเอง คราวนี้ก็งงซิ คุณอยู่ในสัญญาของเราทำไมทำตัวแบบนี้ และอีกไม่นานดาราคนนี้ก็เปิดสินค้าตัวเองเป็นครีมนำเข้าจากเกาหลี ตอนนั้นหลายคนบอกให้ฟ้อง คะน้าเองก็ไม่อยากมี เรื่องก็เลยยอมๆ ไป

และก็มีอีกเรื่องหนึ่ง ตอนนั้นคะน้าทำสบู่สำหรับน้องสาว เอา ออย ศรุตา มาเป็นพรีเซนเตอร์ เปิดตัวใหญ่โตเป็นข่าวออกทุกช่องทุกสื่อ คะน้าดีใจมากคิดว่างานนี้เราคงประสบความสำเร็จแหง หลักจาที่ถูกดาราคนนั้นโกงไปครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า มีรายการชื่อดังช่องดัง เอาข่าวในงานวันเปิดตัวของเราไปเม้าท์ บอกว่าอวัยวะเพศหญิงไม่จำเป็นต้องเอาอะไรล้าง แค่เอาน้ำเปล่าล้างก็ได้ โหแค่นั้นแหละ ตัวแทนจำหน่ายแคนเซิลหมดเลย

งงมากทำไมต้องทำร้ายเราด้วย เราไปทำอะไรให้เขาเจ็บช้ำเหรอ คุณจะเม้าท์ก็เม้าท์ไปแต่เอาข่าวในงานของเราไปเม้าท์ เอาชื่อ "ออย ศรุตา" ไปเม้าท์ ทุกอย่างเราเจ๊งหมดเลย จากนั้นคะน้าคิดว่าคะน้าจะไม่จับสินค้าอะไรที่มันเกี่ยวกับอวัยวะเพศหญิงแล้วไม่กล้ากลัวเจอเม้าท์อีก