โสด ครองเมือง เทรนด์มาแรงของสาวยุคใหม่
โดย พนิดา สงวนเสรีวานิช
อะไรจะเกิดขึ้นถ้าโลกนี้มีแต่คนโสด?
ปัจจุบัน 2 สถานการณ์ใหญ่ซึ่งกำลังเป็นที่กังวลและหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นของโลกยุคนี้บ่อยครั้ง นอกจากการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อีกประเด็นคือการที่ผู้หญิงมีแนวโน้มของการครองตัวเป็นโสดมากขึ้นๆ และมากขึ้นทุกปี
แน่นอนว่า สองประเด็นนี้มีความเกี่ยวโยงกันอย่างแยกไม่ออก
ก่อนจะไปถึงเรื่อง "โสด" ว่ามีจำนวนมากขึ้นอย่างน่าปริวิตกอย่างไร ขอเอ่ยถึงสังคมผู้สูงอายุเสียก่อน
สืบเนื่องมาจากคนยุคใหม่นิยมครองตัวเป็นโสดมากขึ้น แต่จะโสดสนิทหรือเปล่า นั่นอีกเรื่องหนึ่ง
แน่นอนว่า การเป็นโสดหรือไม่โสดเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล แต่ประเด็นนี้น่าสนใจตรงที่ ผลจากความนิยมเป็นโสดกันมากขึ้น ในทางอ้อมเท่ากับเป็นการส่งเสริมภาวะสังคมผู้สูงวัยให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ตาชั่งระหว่างคนวัยทำงานกับคนสูงวัยค่อยๆ เทไปทางด้านคนสูงวัย
ซึ่งถ้าไม่มีการเตรียมการรับมือให้ดี ปัญหาที่จะเกิดตามมาคือวิกฤตเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากประชากรวัยทำงานของเจเนอเรชั่นต่อไปลดน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้สังคมในอีก 20-30 ปีข้างหน้าขาดแรงงานวัยทำงาน
กรณีเช่นนี้เกิดในหลายๆ ประเทศ ไม่เพียงประเทศทางฝั่งตะวันตก ปัจจุบันในอาเซียนมีตัวเลขของสาวโสดมากขึ้น
สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับนิตยสารมาร์เก็ตเทียร์ จัดงานสัมมนา "โสดสนิท ปริศนา New World of Single" มีตัวเลขเกี่ยวกับหญิงโสดที่น่าสนใจหลายตัวเลข เช่น
ผลการสำรวจของ U.S. Census Bureau, International Data Base ผ่านการวิเคราะห์โดยบริษัท MeetNLunch ระบุว่า
ในปี 2563 ประเทศไทยจะมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 1.5 ล้านคน โดยเฉพาะ "ผู้หญิงตัวคนเดียว" จะมีเพิ่มมากขึ้น โดยตัวเลขจะอยู่ที่ประมาณ 5.6 ล้านคน
แต่ในจำนวนนี้รวมถึงผู้หญิงที่เป็นม่ายและผ่านการหย่าร้าง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ผู้ชายมีแนวโน้มเสียชีวิตเร็วกว่า และมีแนวโน้มแต่งงานใหม่มากกว่าผู้หญิง จึงทำให้มีผู้ชายที่ผ่านการหย่าร้างและพ่อม่ายน้อยกว่า
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเอเชียระบุว่า สาวโสดไทยมีสัดส่วนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยสาวโสดไทยอายุ 30-34 ปี ยังครองความเป็นโสดสูงกว่าสาวๆ ในหลายประเทศอย่างน่าใจหาย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสาวโสดกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดที่หวานหอมยิ่งนัก
สาวโสดเป็นเทรนด์ใหม่
นิตยสารมาร์เก็ตเทียร์ทำวิจัยถึงพฤติกรรมของสาวโสดระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงเป็นโสดมากขึ้นมีด้วยกัน 6 เหตุผล คือ
1.พฤติกรรมต่อการมีชีวิตคู่ที่เปลี่ยนไป
ประเด็นนี้ สุวรรณดี ไชยวรุตม์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เถ้าแก่น้อยฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ยกตัวอย่างของผู้หญิงในเอเชียที่เห็นได้ชัดเจนคือ ญี่ปุ่น
ผู้หญิงญี่ปุ่นเมื่อก่อนรายได้ทั้งหมดจะมาจากสามี แต่ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นอยู่ในสังคมผู้สูงอายุ จึงมีการรณรงค์ให้ผู้หญิงออกมาทำงาน เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ขณะที่มีการยืดระยะเวลาเกษียณอายุออกไป ฉะนั้น สาวโสดจึงมีส่วนให้เศรษฐกิจไปเร็วกว่าปกติ
ปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดตามมาคือ การรวมตัวของผู้หญิงโสดเป็น "โซเชียล เอ็นเตอร์ไพรส์" มีการทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคม ซึ่งกระแสความนิยมนี้ส่งผลกระทบมายังประเทศไทยด้วย
2.จำนวนประชากรชายน้อยลง นอกจากนี้ยังรวมถึงมีจำนวนหนึ่งเป็นเกย์ บวช หรือมีภรรยาเป็นชาวต่างประเทศ
3.กลุ่มชายรักชายมีมากขึ้น ทำให้จำนวนชายหายไปจากตลาดสมรส ซึ่งในทางกลับกันลักษณะเช่นนี้ก็เกิดกับผู้หญิงด้วย
4.การเลื่อนการแต่งงานเพื่อให้มีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น ประเด็นนี้สุวรรณดีบอกว่าเด็กรุ่นใหม่มีความคิดเรื่องคู่ครองที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อถามถึงอนาคตจะนึกถึงเรื่องธุรกิจเป็นหลัก ส่วนหนึ่งเนื่องจากทุกวันนี้ค่าครองชีพสูงมากกว่าอดีต จึงมักรอให้ทุกอย่างพร้อมเสียก่อน
ที่น่าสนใจคือ ในผลสำรวจเพื่อทำวิจัยชิ้นนี้ยังระบุว่า 18% ของสาว "เจน วาย" ยืนยันความตั้งใจว่า "ฉันจะเป็นโสด"
5.การศึกษาที่สูงขึ้นทำให้ผู้หญิงหาคู่ครองยากขึ้น เพราะการตั้งมาตรฐานหนุ่มในสเปกที่สูง
กรณีนี้ สุวรรณดีแย้งว่า ถูกต้องเพียงส่วนเดียว แต่เหตุผลหลักเป็นเพราะการเลือกใช้เวลาไปกับการเรียนมากกว่า เพื่อเต็มเติมความฝันของตน และเป็นที่มาของข้อ 6. ที่ว่า ผู้หญิงที่เรียนสูงส่วนใหญ่จะอายุมากขึ้น ด้วย
ยิ่งเครียด ยิ่งช้อป
สำหรับพฤติกรรมของสาวโสด สุวรรณดีบอกว่า สาวโสดจะนิยมท่องเที่ยว โดยนิยมเดินทางเองไปกับกลุ่มเพื่อนแทนที่จะใช้บริการบริษัทท่องเที่ยว บางกลุ่มถึงกับแข่งขันกันเดินทางโดยใช้เงินน้อยที่สุด ซึ่งปัจจุบันการที่สังคมโลกเป็นสังคมของข้อมูลข่าวสาร สามารถค้นหาข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต เอื้อต่อการเดินทางท่องเที่ยวแบบสะพายเป้มากขึ้น
ความที่สาวโสดสามารถบริหารจัดการ "เวลา" ได้ โดยไม่มีสามี โดยเฉพาะลูก มาดึงเวลาไป ทำให้สามารถทุ่มเทเวลากับการทำงานได้เต็มที่
นอกจากการท่องเที่ยวแล้ว สาวโสดส่วนมากจะให้เวลากับการทำงาน งานตามมาถึงเตียง ทำให้เกิดความเครียดสูง และสิ่งที่ตามมาคือ ยิ่งเครียดยิ่ง
ช้อปปิ้งเป็นที่มาของ "ช้อปปิ้ง เทอราปี" เพราะเป็นสิ่งที่เธอสามารถควบคุมได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเผื่อเงินไว้สำหรับครอบครัว ปัจจุบันจะเห็นว่าตลาดนัดข้างตึก เช่น "ซอยละลายทรัพย์" จะผุดขึ้นในแทบทุกแห่งที่มีตึกสำนักงาน
ไม่เพียง "เวลา" เป็นตัวกำหนดการใช้เงินของสาวโสด "ช่องว่างในจิตใจ" ก็เป็นอีกสิ่งที่กำหนดพฤติกรรมการใช้เงินของเธอ
ช่องว่างนี้ก็คือ "ความเหงา" ซึ่งขึ้นกับแต่ละคนว่าจะบริหารจะ "ถม" ช่องว่างนั้นด้วยอะไร ด้วยเกม ด้วยธรรมะ ด้วยยา ฯลฯ ซึ่งลักษณะนี้ไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะโสดหรือไม่โสด เช่น โรบิน วิลเลี่ยมส์ นักแสดงวัย 63 ปี ที่ถมช่องว่างนั้นด้วยยา
ใครๆ ก็เป็นโสด...จริงหรือ?
อุษณีย์ เลาหะวรนันท์ ผู้จัดการ Consumer Insight-Affluent ธนาคารไทยพาณิชย์ แสดงตัวเลขเกี่ยวกับสถานการณ์โสดในอาเซียนได้อย่างน่าสนใจ
เทียบกับผู้หญิงอเมริกันที่เป็นโสด 45% อัตราส่วนของสาวอาเซียนมีแค่ 15-20% อาจดูไม่มาก แต่ตัวเลขนี้เท่ากับเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัวในรอบ 15 ปี
เมื่อเจาะลึกลงในรายเฉพาะประเทศ สถาบันวิจัยเอเชียที่มาของตัวเลขดังกล่าวระบุอีกว่า หญิงสาวอายุระหว่าง 30-34 ปี ในโตเกียวครองตัวเป็นโสดถึง 35% รองลงมาเป็นสาวฮ่องกง 28% อันดับ 3 ได้แก่สาวสิงคโปร์ 21% ส่วนสาวเกาหลีเป็นโสด 19% สาวอินโดนีเซียเป็นโสด 14%
แล้วสาวไทยล่ะ? คำตอบ...33%
ปัจจัยที่ส่งเสริมให้หญิงไทยเป็นโสดมากขึ้น อุษณีย์บอกว่า เป็นเพราะกระบวนการทางความคิดของผู้หญิงที่เปลี่ยนไป เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น อาทิ มั่นใจว่าฉันเรียนก็เก่ง ทำงานก็เก่ง มีเงินเดือนสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งสามี สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้ผู้ชาย
เมื่อเปรียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ผู้หญิงไทยมีสัดส่วนการทำงานนอกบ้านมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเมื่อชีวิตการงานประสบความสำเร็จ ทำให้มาตรฐานในการเลือกคู่สูงขึ้น และสิ่งที่ตามมาคือความคิดที่ว่า ไม่จำเป็นต้องมีลูกก็ได้
ฉะนั้น จะแต่งงานเมื่อไหร่ก็ได้ และถ้าไม่เจอคนที่ใช่ ไม่แต่งงานเลยก็ได้
แนวโน้มของผู้หญิงยุคใหม่จึงทำงานมากขึ้น กิน-เที่ยว-ช้อปกับเพื่อน แต่ก็ไม่ลืมที่จะดูแลตนเองทั้งในด้านสุขภาพและความงาม
เราจึงได้เห็นสินค้าในตลาดหมวดสินค้าเพื่อสุขภาพเพื่อความงามมากมายและมีกลยุทธ์ใหม่ๆมาจับใจผู้บริโภคกลุ่มสาวโสดตลอดเวลา
ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.istockphoto.com/