กูรูโยคะอินเดีย แนะ 5 ท่าช่วยให้มีบุตรง่าย

กูรูโยคะอินเดีย แนะ 5 ท่าช่วยให้มีบุตรง่าย

กูรูโยคะอินเดีย แนะ 5 ท่าช่วยให้มีบุตรง่าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัญหาการมีบุตรยากสำหรับสุภาพสตรีในปัจจุบัน นับวันจะมีอัตราเพิ่มจำนวนสูงขึ้น เนื่องมาจากหลายสาเหตุ "มาสเตอร์ นาวีน โจซี่" (Master Naveen Joshi) หรือ ครูนาวีน จากเมคเฟรนด์ โยคะ สตูดิโอ ครูสอนโยคะชื่อดังที่มาจากเมืองฤษีเกศ เมืองแห่งต้นกำเนิดศาสตร์โยคะ ประเทศอินเดีย บอกว่า โยคะถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในปัจจุบันสำหรับสุภาพสตรีที่มีบุตรยาก

ครู นาวีนแนะนำ 5 ท่าโยคะสำหรับสุภาพสตรีที่มีบุตรยากควรฝึกเป็นประจำ เพราะจะเน้นการบริหารร่างกายตั้งแต่ช่วงล่างนับจากสะดือไปจนถึงช่วงสะโพก หรืออุ้งเชิงกรานรอบๆ ตัว เพื่อให้ระบบสืบพันธุ์ทั้งหมดเกิดการเคลื่อนไหว สร้างการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงระบบการสืบพันธุ์ทำให้อวัยวะต่างๆ บริเวณนี้อุ่นขึ้น ส่งผลให้ไข่มีความสมบูรณ์ ไม่ฝ่อ ประจำเดือนมาตรงเวลา อีกทั้งยังช่วยรักษาสุขภาพในด้านต่างๆ ได้ด้วย

ท่า แรกคือ "ท่าผีเสื้อ" เริ่มจากนั่งหลังเหยียดตรง นำมือจับฝ่าเท้าทั้งสองข้างประกบเข้าหากัน ดึงเข้ามาหาลำตัว ยึดตัวตรงพร้อมกับการหายใจเข้า จากนั้นค่อยๆ โน้มตัวลงที่พื้นด้านหน้า พยายามกดเข่าลงให้ติดพื้น หายใจออก ท่านี้ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการทำงานของช่องท้อง ขยายสะโพกให้กว้างขึ้น ลดการปวดประจำเดือน

"ท่าสะพาน" นอนราบบนพื้น แยกขาทั้งสองข้างออกจากกันเล็กน้อย งอเข่าขึ้นดึงเท้าทั้งสองข้างให้เข้าใกล้กับก้นมากที่สุด และใช้มือจับที่ข้อเท้าหรือหากจับไม่ถึงก็วางมือลงบนพื้นให้ใกล้กับเท้ามาก ที่สุด จากนั้นหายใจเข้า ยกสะโพก ลำตัว และหน้าอกขึ้นจากพื้น จนให้หน้าอกแนบชิดคาง โดยห้ามใช้แรงข้อมือและแขนเป็นตัวดัน ค้างท่านี้ไว้สักประมาณ 5-10 วินาที แล้วค่อยๆ หย่อนก้นและลำตัวลงติดพื้น หายใจออก เหยียดเท้ากลับสู่ท่านอนหงาย ท่านี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง หน้าท้อง คอ และอุ้งเชิงกราน

"ท่าเทพธิดา" ยืนตัวตรง ค่อยๆ ย่อเข่า กางขาทั้งสองข้างออกให้กว้างทำมุมฉากกับพื้น นำมือทั้งสองข้างจับที่เอว ลำตัว และลำคอเหยียดตรง สายตามองตรงไปข้างหน้า ยืนค้างท่านี้ให้ได้นานที่สุด เพราะท่านี้จะช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นขารวมถึงสะโพก

"ท่านกอินทรี" ยืนตัวตรง ยกขาขวาขึ้นพร้อมงอเข่าวางซ้อนบนเข่าขาซ้าย ตวัดข้อเท้าขวาเกี่ยวบนข้อเท้าซ้าย และย่อเข่าซ้ายลงให้มากที่สุด พนมมือเหมือนการไหว้ให้ยกศอกขึ้นเท่ากับระดับไหล่หรือสูงกว่า ค้างท่านี้ไว้สักประมาณ 5-10 วินาที ค่อยคลายท่า และสลับข้าง ทำซ้ำท่าเดิม ท่านี้จะช่วยในเรื่องของสมาธิ ลดอาการปวดเมื่อยขา หัวไหล่ ป้องกันการเป็นตะคริว

"ท่าอาชา" เริ่มจากยืนตัวตรง ปลายเท้าชิดติดกัน หายใจเข้าออกอย่างช้าๆ ก้าวขาขวาเหยียดตรงไปด้านหลังปลายเท้าแตะลงบนพื้นยกส้นเท้าขึ้น ห้ามไม่ให้หัวเข่าแตะพื้น จากนั้นงอเข่าซ้ายลงทำมุม 90 องศา กดน้ำหนักลงไปที่สะโพก พนมมือค้างไว้ แล้วคลายท่า และสลับข้าง ทำซ้ำท่าเดิม ท่านี้ช่วยเพิ่มออกซิเจนภายในร่างกาย ช่วยลดอาการปวดต่างๆ ตามร่างกาย อาทิ ปวดหลัง ไหล่ คอ เอว เข่า น่อง ข้อเท้าได้

ครูนาวีนยังบอกเพิ่ม เติมว่าในการทำท่าโยคะทั้ง 5 ท่า ควรทำท่าละ 10-15 ครั้ง เป็นประจำ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ พร้อมกำชับว่า ควรฝึกโยคะควบคู่ไปกับเรื่องการฝึกลมปราณ คือการสูดลมหายใจเข้าและออก แต่ละครั้งควรสูดให้สุดถึงช่องท้องและปล่อยออกช้าๆ อย่าให้มีเสียง

และ การผ่อนคลายร่างกาย เช่น การฝึกท่าอาสนะศพ หรือท่านอนราบกับพื้นไม่เกร็งร่างกายเพื่อผ่อนคลายร่างกาย วันละ 15 นาที ก่อนเข้านอน จะช่วยให้คลายเครียดได้เป็นอย่างดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook