ประสบการณ์จริง หนังตาตกผลข้างเคียงของการฉีดโบทอกซ์
เรื่องจริงของการฉีดโบทอกซ์ในอีกมุมที่คุณสาวๆ ยังไม่รู้
ผู้หญิงและความสวยเป็นของคู่กัน การทำศัลยกรรมในสมัยนี้ จึงเกิดขึ้นได้ง่าย เพียงแค่ตัดสินใจมีเงินค่าใช้จ่ายให้เพียงพอ ก็สามารถสวยเปลี่ยนชีวิตได้ แต่การจะสวยด้วยศัลยกรรมนั้นต้องศึกษาข้อมูลให้ดีพอก่อน เพราะผลเสีย หรือผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นตามมาเป็นสิ่งที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับเธอคนนี้ หญิงสาวผู้รักสวยรักงาม นามแฝงว่า ^KiriKo_Gobanjo^ สมาชิกจาก pantip.com ผู้มาแชร์ประสบการณ์ตรงของความสวยด้วยการ "ฉีดโบทอกซ์"
แบ่งปันประสบการณ์หนังตาตกผลข้างเคียงของการฉีดโบทอกซ์
สวัสดีค่ะ เข้าเรื่องกันเลย ตอนนี้เราอายุ 33 ปี มีตีนกาเล็กน้อย และติดชอบขมวดคิ้วทำให้ดูหน้าดุ เลยเริ่มเดินทางเข้าหาน้องโบ(โบท็อกซ์)ครั้งแรกปี56 เดือนพย. ฉีดเฉพาะใบหน้าส่วนบน ตีนกา หว่างคิ้ว หน้าผาก รวมแล้ว ประมาณ 30 ยูนิต ครั้งแรกก็แปลกๆ หน้าตึงๆ คิ้วยกนิดหน่อยรู่สึกตาโตขึ้น แบร๊วซ์ๆ ขมวดคิ้วไม่ได้ โกรธใครไม่เป็น ก็พึงพอใจในผลที่ได้รับ แต่แอบรู้สึกว่าเยอะไป คราวหน้าถ้าฉีดอีกจะบอกหมอว่าขอน้อยกว่านี้ จะได้ดูไม่แข็งมาก น้องโบ ก็เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา จวบจนเมื่อต้นเดือนตค. ปีนี้
นาง ( คือเราเอง ) นางก็วิตกจริตคิดมาก ว้ายยย ตีนเริ่มมาเกาะตาแล้วค่ะ คิ้วดิชั้นขมวดอีกแร้ววว นางหาเรื่อง หาเหตุ นางส่องกระจกมากไป นางเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น นางเลย ไปพึ่งน้องโบอีกครั้ง
ผลที่นางได้รับนั้น ยิ่งกว่าตีนกา แต่เหมือนโดนตีนใครเหยียบหน้า หนังตาตกค่ะ แล้วนางทำยังไงบ้าง เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังค่ะ
แก้ข่าวนิดนึง หลังจากไปค้นดูประวัติตัวเองอย่างจริงจังพบว่า เราฉีดวันที่ 20 กันยา 57 เวลา บริเวณที่ฉีดคือ ตีนกาข้างละ 3 จุด หว่างคิ้ว 3 จุด แค่นั้น รวมแล้ว ประมาณ 15 ยูนิต
แต่ด้วยเหตุผลกลใดมิทราบ หรืออาจจะเกิดจากตัวเราเองที่ Sensitive กับยามาก คือ โดนนิดเดียวเป็นซะเยอะ
วันที่ฉีดเป็นวันเสาร์ เราเริ่มรู้สึกนิดๆ ถึงความเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ ว่าตาข้างซ้ายมันเล็กลงนิดนึง และเริ่มหนักหน้า แต่ก็คิดว่าเป็นตามปกติของฤทธิ์โบทอกซ์
จนวันพุธ มันเริ่มตกลงมากอย่างเห็นได้ชัด เราปรึกษาหมอที่ฉีดให้ หมอบอกว่ามียาช่วยกระตุ้นการทำงานของเปลือกตาบน อาจจะพอช่วยได้ และหายาให้เรา ยาหายากเป็นยาเฉพาะโรคตา ซึ่งเราเข้าใจอยู่แล้วว่าอาการตาตกอาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่คิดว่าเราจะเป็น เพราะฉีดไปนิดเดียวเอง
ก็เลยSearch google หาผู้ร่วมชะตากรรมได้ความว่า ให้ประคบร้อนบ่อยๆ ทำเลเซอร์ หรือใช้คลื่นกระตุ้นบริเวณนั้นให้โบสลายเร็วๆ ทำอะไรๆที่โบไม่ชอบ โบไม่ชอบความร้อน กับ แอลกอฮอล์
ระหว่างนั้นวันศุกร์ 26 กย. เราไปหาหมอที่รัตนิน เผื่อจะมียาที่ตามหา ปรากฏว่า ไม่มียานั้น เนื่องจากไม่มีบริษัทยานำเข้ามาขายในไทย หมอที่รัตนินแนะนำให้ประคบอุ่นบ่อยๆ เพราะฤทธิ์โบทอกซ์ จะเสื่อมเร็วขึ้นเมื่อโดนความร้อน
หมอบอกว่าน่าจะดีขึ้นใน 2-4 สัปดาห์ อ้อ แล้วตาเรามันข้างขวาดูโตกว่าเดิม ส่วนข้างซ้ายก็ตก ดูพิกลพิการมาก แต่หมอบอกว่า จริงๆ ข้างขวาเราปกติ แต่เนื่องจากข้างซ้ายมันตก ร่างกายเลยบังคับโดยอัตโนมัติให้พยายามเบิ่งตาให้กว้าง
ทำให้เปลือกตาด้านขวาที่ทำงานปกติมันเบิ่งมากขึ้น ในขณะที่ด้านซ้ายมันอ่อนแรงลืมได้แค่นั้น
ตอนนั้นเราเมื่อยตามาก เวลาลืมตาต้องใช้แรงเยอะ ตกเย็นจะปวดตา เวลาเดินต้องเงยหน้า เพราะมันลืมตาไม่ค่อยขึ้น
มาต่อๆ ค่ะ เอาให้จบ วันเสาร์ 27 ครบ 7 วัน ได้ยามาค่ะ ยานี้ช่วยได้ในด้านที่ทำให้เราลืมตาสบายขึ้น คือจะไม่เมื่อยลูกกะตามาก แต่หนังตาก็ไม่ได้ดูขึ้นแต่อย่างใด คือตอนแรกคิดว่ามันจะช่วยให้หนังตายกขึ้น แต่ใช้ไป1 อาทิตย์ไม่ต่าง
มันเป็นยาสำหรับคนเป็นต้อ ใช้นานๆอาจมีผลต่อความดันลูกตา เราก็ไม่อยากให้มีปัญหาแทรกซ้อนก็ใช้แค่ให้มันลืมตาง่ายขึ้น หยอดทุก 4-5 ชม.
พอวันที่ 9 หลังฉีด เรานับแบบนี้ละกันนะคะ เราก็ไปทำทรีทเม้นหน้า เป็นแบบกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า แบบที่จะรู้สึกกระตุกๆ หลังทำหนังตา ก็ดีขึ้นนิสสสสส นึง แทบไม่รู้สึก ก็คิดว่า อืมมม มันต้องใช้เวลา ระหว่างนั้น ก็ประคบอุ่นเมื่อมีโอกาส
วันที่10 วันนี้หนักสุด เหมือนโบออกฤทธิ์ พีคในวันนี้ เราลืมตาแทบไม่ขึ้น หน้าผากถลกแทบไม่ขึ้น ทั้งๆ ที่ไม่ได้ฉีดหน้าผากเลย รู้สึกแบบมันค่อยๆแย่ลงอ่ะ ชาวบ้านชาวเมืองก็ทัก แรกๆ ก็แอ๊บว่าตัวไรกัด หลายวันเข้าขี้เกียจละ บอกเลยไปฉีดโบมา แล้วเป็นเงี้ย ทุกคนถามว่าจะหายมั้ย
ก็มีผลกับการทำงานเหมือนกัน แต่เราก็ใช้มั่นเข้าว่า เดี๋ยวก็หายคิดไว้งี้ แปลกนะ ในตอนนั้นเรากลับไม่ค่อยกังวล ทำใจว่าเออ ก็เป็นไปแล้ว ก็ต้องรอให้มันหาย ทั้งๆที่ตาปรือน่ากลัวกว่าตอนก่อนฉีดตั้งเยอะ ใครๆเห็นก็ตกใจ แต่ตัวเราเองไม่เห็นจะแคร์ แล้วตอนแรกมาแคร์ไรกะอีแค่ตีนกาเล็กๆ ไม่มีใครทักซักคน คิดได้ดังนั้น ก็เลยว่าไม่เอาละ ต่อไปนี้ ปล่อยมันไปตามธรรมชาติเห๊อะ เรามั่นหน้าซะอย่าง 5555
พอวันที่ 11 มันก็ยังหนักอยู่แต่ดีกว่าเมื่อวาน วันที่12-14 ก็เริ่มคลายละบริเวณหน้าผากที่ย่นไม่ได้ แต่ตาก็ยังไม่ค่อยขึ้นเหมือนเดิม เวลาดูอะไรก็ต้องหลุบตาลงต่ำ งดออกสื่อ เวลาออกสื่อก็ใส่แว่นตาดำค่ะ กลางค่ำกลางคืนก็ใส่ ประหลาดมนุษย์ยิ่งนัก ก็ครบ2 อาทิตย์แล้ว เหมือนจะเริ่มชิน
พอวันที่ 17 เราไปทำทรีทเม้นท์ กระตุกหน้าอีกรอบ ด้วยหวังว่าโบจะสลายเร็วขึ้น แต่จริงๆ มันก็ไม่ได้ช่วยไรเท่าไหร่ คือไม่รู้สึกแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ เราก็เริ่มทำใจละ ปล่อยมันตามยถากรรม
พอถึงวันที่20 มันเริ่มมองเห็นเป็นปกติละ แต่หนังตาก็ยังตกอยู่ ชนิดที่เห็นชัดเจน หนังตามันเริ่มมีแรงนิดนึงละ สังเกตว่าเริ่มเห็นมันมีรอยพับ
* วันที่14 เราลองเอากาวติดขนตาปลอมมาติดเปลือกตาบนให้มันติดกัน ช่วยมัน ก็เหมือนจะดูดีขึ้น แล้วก็ลองสติ๊กเกอร์ตา2ชั้นด้วย ก็พอได้ แต่ก็ดูไม่ปกติ แล้วทำสำคัญตกเย็นเมื่อยตามาก ต้องลอกออก สรุปปล่อยมันตามยถากรรมคือดีสุด T_T
หลังๆไม่ทำไรแระ ปลง เพราะว่าทำไรก็ไม่เห็นต่าง สุดท้ายต้องให้เวลาเยียวยาทุกอย่าง รอ...... เท่านั้น
ช่วงนั้นเราก็ไปเที่ยวลั้นลา ลางานยาวเลย ก็ดี ไม่ต้องพบปะผู้คน มันก็ค่อยๆดีขึ้นค่ะ มันมีแรงขึ้นวันละนิด วันละนิด วันที่ครบ 4 สัปดาห์ นี่ดูค่อนข้างปกติตามทฤษฎีเลย แต่ก็ยังดูเล็กกว่ากันเล็กน้อย
พอตาข้างซ้ายค่อยๆโตขึ้นตาข้างขวาก็ค่อยๆเล็กลงตามที่หมอบอก
สรุป แว่........... ทำอะไรก็ไม่ช่วยจ้าาาาาา ต้องรอให้มันหายเองงงงง แงงง..... จนถึงวันนี้ของเราก็ประมาณ 6 สัปดาห์แล้ว ก้อยังไม่เท่ากันเป๊ะ เหมือนเดิม ก็รอเวลาโบหมดฤทธิ์ทั้งหมดต่อไป แล้วคงไม่เอาแล้ว จนกว่าหน้าจะยับเท่าหมาปั๊ก
รูปนี้คือสภาพปัจจุบันเปรียบเทียบกับก่อนทำ
อันนี้เป็นประสบการณ์ของเรานะคะ มันมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่ว่าเกิดกับทุกคน รู้ไว้เป็นข้อมูล และเลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคลค่ะ
ขอบคุณข้อมูล : pantip.com จากคุณ ^KiriKo_Gobanjo^