Kwan Usamanee Wallpaper : STAY THE NIGHT
ยิ่งโต ยิ่งสวยสะพรั่ง แถมยังน่ารัก สดใสเหมือนเดิม สำหรับ “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” นางเอกสาวที่โลดแล่นอยู่บนจอแก้วมานานถึง 20 ปีเต็ม เรียกว่าเติบโตมากับละครตั้งแต่เด็ก และด้วยความที่ทุ่มเทกับทุกบทบาทการแสดง บวกกับความรักในอาชีพนี้ จึงทำให้สาวขวัญสามารถครองใจผู้ชมได้ทั้งประเทศ ล่าสุดเธอกลับมาประกบคู่พระเอกรุ่นพี่ “ตุ้ย-ธีรภัทร์” อีกครั้ง ในละครรีเมคเรื่องใหม่ “ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท” ถึงแม้กระแสคู่จิ้นจะไม่ฟินเท่ากับหนุ่มกล้ามโต “อ๋อม-อรรคพันธ์” แต่คนดูก็ให้การตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน หลังจากที่ได้ฝากผลงานแห่งปีของช่อง 7 “ฟ้าจรดทราย” ที่เรียกเรตติ้งถล่มถลายมาแล้วนั่นเอง ส่วนผลงานอื่นๆ ทั้งพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ถ่ายแบบนิตยสารก็มีให้ติดตามกันอยู่เสมอ รับรองว่าแฟนๆ คงได้เห็นหน้าสวยๆ ของสาวคนนี้ไปอีกนาน
วงการบันเทิงเป็นเหมือนครอบครัว
“วงการนี้ให้อะไรกับขวัญหลายๆ อย่าง ทำให้ขวัญแกร่งขึ้น มีความมั่นคง ลงหลักปักฐานได้ ขวัญไม่เคยคิดว่าจะหันหลังให้วงการ ไม่ทิ้งไปไหนแน่นอน วงการบันเทิงเป็นเหมือนครอบครัว เพราะขวัญเข้าวงการตั้งแต่เด็ก ได้ร่วมงานกับคนเยอะ อย่างการเล่นละคร ขวัญเคยชินแล้ว มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เติบโตมาในกองละครเลย การที่ถ่ายไปออนแอร์ไป ขวัญมองว่าสบายมาก เมื่อก่อนเรียนไปด้วย ยังทำได้ ตอนนี้เรียนจบแล้ว ยิ่งสบายใจ กลับบ้านหัวถึงหมอนก็นอนเลย ทุกวันนี้อยู่ที่นี่ขวัญสบายใจ พอรู้ว่าใกล้หมดสัญญา ก็เซ็นเพิ่มเลย ขวัญไม่คิดจะไปไหนอยู่แล้ว ส่วนงานอื่นๆ อย่างงานหนัง งานอีเว้นท์ ก็มีคนติดต่อมาตลอด แต่ขวัญไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น งานหลักของขวัญคือการเป็นเด็กช่อง ต้องมีละครกับช่อง เงินก็อยากได้นะ (หัวเราะ) แต่บางอย่างเราไม่ได้รักแค่เงินอย่างเดียว บางทีกว่าเราจะโตขึ้นมาอย่างทุกวันนี้ เราต้องขอบคุณผู้มีพระคุณหลายๆ ท่าน ฉะนั้นเราต้องตอบแทนค่ะ”
ค่าของคนอยู่ที่คุณภาพของงาน
“ตอนนี้มีนักแสดงรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น บางคนก็มองว่าเราเป็นนางเอกรุ่นกลางไปแล้ว จริงๆ ยังคิดว่าตัวเองเด็กอยู่เลย (หัวเราะ) ขวัญยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม ตั้งใจอ่านบท ทำการบ้านทุกครั้ง ไม่ได้ไปแข่งกับใคร ขวัญว่าค่าของคนอยู่ที่คุณภาพของงาน ซึ่งคุณภาพของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นเราไปเปรียบเทียบกันไม่ได้ เรารู้ว่าเราถนัดอะไรก็ทำสิ่งนั้นให้เต็มที่ ไม่จำเป็นต้องพยายามทำทุกอย่างตามใคร อย่างบทบาทที่ได้รับในแต่ละเรื่อง ถึงไม่ใช่ตัวเรา แต่เมื่อเป็นนักแสดง เมื่อผู้ใหญ่ให้โอกาส เราก็ต้องทำ ขวัญไม่ได้เลือกบทเลย ในมุมมองของขวัญในฐานะของการเป็นนักแสดง ขวัญไม่ได้มองว่าบทไหนแรง บทไหนเบา แต่มันเป็นเหตุผลของตัวละครนั้นๆ ผู้ใหญ่ส่งบทไหนมาเล่นหมด ขวัญเคยพูดกับป้าแดง สุรางค์ ตอนที่มาอยู่ช่อง 7 ใหม่ๆ ว่าขวัญคงเล่นบทร้ายไม่ได้ แต่สุดท้ายก็เล่นได้ ป้าแดงบอกว่าเมื่อผู้ใหญ่เชื่อมั่นในตัวเราว่าเราทำได้ แล้วทำไมเราถึงเสื่อมศรัทธากับตัวเอง ปกติเราไม่อยากให้ใครมาดูถูก แต่การที่เราดูถูกตัวเองมันเป็นการหยามเกียรติยิ่งกว่า”
ไม่ปลื้มจูบจริง มีลิมิตให้ตัวเอง
“ตอนนี้กระแสนางเอกที่กล้าจูบจริงมาแรง ส่วนตัวขวัญเคยคุยกับป้าแดง ป้าแดงบอกว่านโยบายช่อง 7 ไม่ได้สนับสนุนให้จูบจริง เล่นจริง เป็นความสมัครใจของแต่ละคนมากกว่า สำหรับลิมิตของขวัญให้ได้แค่หอมแก้ม หน้าผาก แต่ปากไม่ให้ เราเองยังเด็ก อยู่ในสังคมไทย ครอบครัวขวัญเป็นคนไทย เกรงใจพ่อแม่ และคิดถึงคู่ของเราในอนาคต ไม่รู้ว่าครอบครัวของเค้าจะรู้สึกยังไง ฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ขวัญคงไม่เล่น การที่เรามาเล่นละครทุกเรื่องแล้วต้องจูบกับผู้ชายทุกคน ขวัญมองว่าเปลืองตัว ขวัญอยากให้คนที่ชอบเรา รักเรา รักที่เป็นตัวเรา ไม่ใช่กระแสแบบนั้น ขวัญขอพิสูจน์ฝีมือด้วยการแสดงดีกว่าค่ะ”
“อ๋อม-ขวัญ” คู่จิ้นแห่งวิกหมอชิต
“เรื่องคู่จิ้น ขวัญมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของวงการ เรื่องข่าวคราวแบบนี้ มันจะวนไปเรื่อยๆ พอแสดงละครกับใครก็จะมีคนอิน แล้วจิ้นกันนอกจอ อย่างพี่อ๋อม เราต้องขอบคุณบทประพันธ์ บทละครโทรทัศน์ ที่ทำให้หลายคนชอบ ขวัญมองว่าเค้าไม่ได้ชอบที่ขวัญเป็นขวัญ หรือพี่อ๋อมเป็นพี่อ๋อม แต่ชอบที่เราเป็นตัวละครนั้นมากกว่า อย่างเรื่อง เจ้าสาวสลาตัน กับ หัวใจเถื่อน ทุกคนก็ชอบ เรตติ้งดีพอๆ กับฟ้าจรดทรายเลย หลายคนตั้งตารอ รู้สึกขอบคุณแฟนคลับที่สนับสนุน คนดูยังไม่เบื่อ และให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น มันคงไม่มีอะไรจะรู้สึกดีไปมากกว่านี้แล้ว มีค่ากับคนทำงานมากๆ เพราะความสุขของนักแสดง คือการที่รู้ว่ามีคนชื่นชอบและรอคอยผลงานของเรานั่นเอง”
เป็นคนตรง แต่ไม่ก้าวร้าว
“เป็นคนตรงไป ตรงมา ทั้งคำพูดและการแสดงออก บางครั้งอาจทำให้มองว่าเป็นคนแรง แต่จริงๆ แล้วขวัญก็มีมุมที่อ่อนโยน อ่อนน้อม ถ่อมตน และไม่ได้ก้าวร้าวอย่างที่หลายคนคิด ขวัญเป็นคนที่เซนซิทีฟกับหลายๆ เรื่อง ถึงแม้จะดูแข็งๆ อย่างเวลามีข่าวแรงๆ เกี่ยวกับตัวขวัญ หรือเอาขวัญไปโยงกับคนนั้น คนนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องจริง ขวัญไม่คิดโต้ตอบ หรือให้ร้ายใคร เวลามีคนมาถามขวัญ ขวัญจะตอบในส่วนของขวัญ เพราะเชื่อว่าวันหนึ่งเรื่องจริงมันจะออกมาเอง บางข่าวก็ปล่อยไป ให้เวลาเป็นคำตอบ คนทำยังไงก็ได้อย่างนั้น อยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา บางเรื่องขวัญไม่จำเป็นต้องพูดมาก การที่พูดมากๆ ก็เหมือนเป็นการแก้ตัว โยนความผิดให้คนอื่น เราไม่จำเป็นต้องพูดประจาน เดี๋ยวนี้คนอ่านเค้ารับรู้ได้อยู่แล้วว่าข่าวแต่ละข่าวเป็นยังไง”
มีพ่อเป็นแบบอย่าง มีแม่เป็นกำลังใจ
“ขวัญมีคุณพ่อเป็นแบบอย่าง ทั้งวิธีคิด การใช้ชีวิต รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่เกิดมาในครอบครัวนี้ ทุกวันนี้ไม่มีคุณพ่อแล้ว ขวัญก็มีคุณแม่และพี่สาวที่คอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจมาตลอด คุณแม่เป็นทุกอย่างในชีวิต หลายคนมองว่าขวัญเป็นลูกแหง่ติดแม่ ตอนนี้แม่ปล่อยแล้วนะ (หัวเราะ) แต่ถ้าวันไหนมีแม่มาอยู่ด้วย ขวัญอาจจะป่วย หรืออยากให้มาช่วยดูแลความเรียบร้อยบางอย่าง แต่ปกติแม่จะอยู่บ้าน ปลูกต้นไม้ เลี้ยงหมา ทำงานที่เค้ารักไป แม่มักสอนให้ขวัญใช้ชีวิตแบบไม่ฟุ้งเฟ้อ รู้จักประหยัด ที่ผ่านมาขวัญไม่เคยมีเงินเก็บเลย ขอตังค์แม่ตลอด รายได้ของขวัญแม่เป็นคนจัดสรรดูแล ตอนเรียนแม่ก็ให้เงินใช้เหมือนเพื่อนๆ พอเรียนจบ แม่ก็ให้เงินเดือนเหมือนคนทำงาน เดี๋ยวนี้ขวัญเก็บออมมาเรื่อย ๆ จนมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง เวลาอยากได้อะไร ก็จะมีสติในการใช้เงินมากขึ้น ขวัญภูมิใจที่แม่เลี้ยงเราเหมือนคนอื่นๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเลิศเลอกว่าใคร หรือเป็นดาราแล้วต้องใช้ชีวิตหรูหรา เราเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งค่ะ (ยิ้ม)”
ความดีกับความรู้เป็นสิ่งที่ต้องยึดมั่น
“ตั้งแต่ขวัญเสียพ่อไป ขวัญมองว่าไม่มีอะไรมาปกป้องครอบครัวเราแล้ว นอกจากความรู้ เพราะบ้านเรามีแต่ผู้หญิง แล้วมีครั้งหนึ่งพี่สาวขวัญไปประสบอุบัติเหตุที่ต่างประเทศ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าสิ่งเดียวที่ช่วยครอบครัวเราด้วย ก็คือความรู้ อีกอย่างหนึ่งที่ขวัญมองว่าสำคัญ ก็คือ ความกตัญญูกตเวที ในโลกนี้สิ่งที่จะทำให้เราอยู่รอด ก็คือ ความดีกับความรู้ ตอนนี้ขวัญก็เรียนจบแล้ว จบโท MBA ม.กรุงเทพฯ ที่เลือกเรียนด้านนี้ เพราะจบออกมาแล้วอยากมีความรู้ด้านบริหาร ซึ่งไม่ได้ใช้ในแง่ธุรกิจอย่างเดียว แต่สามารถใช้ได้ทุกอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการใช้เงิน การจัดการชีวิต ทำให้มีระเบียบมากขึ้น ไม่แน่วันหนึ่งอาจจะหันไปทำธุรกิจตัวเองก็ได้ค่ะ”
ถ้าใช่ ก็ใช่ ต้องใช้เวลา
“ยังคุยกันอยู่ปกติ (อ้าย) ไม่ได้เรียกว่าแฟน หรืออะไร ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เราไม่ได้ห่างหายกันไปไหน ขวัญกับอ้ายรู้จักกันมาจะ 10 กว่าปีแล้ว ครอบครัวเราดีต่อกัน ส่วนเราสองคนก็ต่างคนต่างทำงาน ขวัญทำงานเป็นนักแสดง ส่วนเขาเป็นคนนอกวงการ เราก็ไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้มากนัก อีกอย่างเค้าก็ไม่อยากเป็นข่าว ขวัญอยากให้คนมองที่ผลงาน ไม่อยากขายเรื่องส่วนตัว วันหนึ่งถ้าขวัญจะแต่งงาน ขวัญอยากให้ครอบครัวฝ่ายชายภูมิใจในตัวเรา ไม่ใช่มองว่าผู้หญิงคนนี้มีแต่ข่าวเรื่องผู้ชาย เดี๋ยวรักๆ เลิกๆ กับคนนั้น คนนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ยอมรับว่ามีข่าวแบบนี้ค่อนข้างเยอะ แต่พอโตขึ้น ความคิดเริ่มเปลี่ยนไป ขวัญรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา ดูกันไปเรื่อยๆ ดีกว่า ยังไม่อยากรีบร้อน ถ้าใช่ มันก็ใช่แหละค่ะ”