สาวๆ โปรดอ่าน!! 7 วิธีประหยัดเงินค่าเสื้อผ้า
สาวๆ คงรู้ดีกว่า การช็อปปิ้ง โดยเฉพาะการซื้อเสื้อผ้า เป็นกับดักทางการเงินที่ทุกคนหลวมตัวไปติดอยู่เรื่อย แน่นอนว่าเคล็ดลับการประหยัดเงินเรื่องต่าง ๆ สาว ๆ จะปฏิบัติตามได้หมด แต่พอมาถึงเรื่องเสื้อผ้าเมื่อไหร่ล่ะก็...เฟลทุกที ยิ่งทุกวันนี้ เทรนด์เสื้อผ้าเปลี่ยนแปลงเร็วมาก และสาว ๆ ก็อยากจะตามให้ทัน จึงต้องจ่ายเงินไปกับการช็อปปิ้งเสื้อผ้าใหม่บ่อย ๆ โดยเฉพาะหากคุณชอบของแบรนด์เนมราคาแพงนั้นยิ่งสาหัสเลย แต่จะทำยังไงล่ะ ถ้าอยากนำเทรนด์และประหยัดเงินในเวลาเดียวกัน?? วันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว! และนี่คือ 7 วิธีประหยัดเงินค่าเสื้อผ้าที่จะตอบโจทย์สาว ๆ ครับ
1.ช็อปตอน sales สิ
ห้างร้านต่าง ๆ มักจะจัดรายการลดราคาเฉพาะฤดูกาล (end-of-season sales) หรือลดล้างสต็อก (clearance sales) ปีละ 1-2 ครั้ง ดังนั้น ราคาเสื้อผ้าฤดูร้อนจะต่ำลงมากถ้าคุณซื้อในช่วงฤดูหนาว หรือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะซื้อบิกินีหรือชุดว่ายน้ำก็คือช่วงเดือนธันวาคม - มกราคม เป็นต้น
2.ช็อปไม่เลือกแผนก
ทำไมต้องช้อปแยกแผนกกันล่ะ? ถ้าราคาเสื้อผ้าในแผนกผู้หญิงราคาสูงเกินไป ลองเดินเข้าไปดูเสื้อผ้าแผนกผู้ชายดู คุณอาจจะได้เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืดเก๋ ๆ มาใส่ในราคาถูกกว่าเดิม หรือแม้กระทั่งแผนกวัยรุ่น หากคุณเป็นคนร่างเล็ก แค่นี้ก็ได้เสื้อผ้าดี ๆ ในราคาถูกกว่าปกติแล้ว
3. คิดถึงเลข 3 เข้าไว้
เวลาช็อปเสื้อผ้า ต้องจำเลข 3 นี้ไว้ดี ๆ ซึ่งหมายถึง ก่อนตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับใด ๆ ขอให้นึกถึงตอนคุณสวมใสมัน ว่าสามารถนำไปใส่กับเสื้อผ้าชิ้นอื่น ๆ ได้เกิน 3 ชุดหรือไม่ หรือสามารถใส่ไปไหนมาไหนได้เกิน 3 ครั้งหรือไม่ ถ้าคำตอบที่ได้คือไม่ ก็อย่าซื้อชิ้นนั้นเลยครับ เพราะมันจะทำให้ตู้เสื้อผ้าของคุณรกเสียเปล่า ๆ
4.ตู้เสื้อผ้าแบบแคปซูล
ตู้เสื้อผ้าแบบแคปซูลคือตู้เสื้อผ้าที่มีไอเท็มโปรดของคุณอยู่ไม่เพียงกี่ชิ้นแต่คุณสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ไอเท็มเล่านั้นได้ไม่เบื่อโดยเริ่มจากการเลือกเสื้อผ้าเครื่องประดับ และรองเท้า ที่คุณชอบใส่มากที่สุดไว้ด้วยกัน และโละชิ้นอื่นๆ ที่ไม่ได้ใส่ออกไปเพื่อขาย แลกเปลี่ยน หรือบริจาคต่อไป
5. เข้าหนึ่ง ออกหนึ่ง
หากคุณซื้อเสื้อผ้าเข้าบ้านมา 1 ชิ้น ให้หยิบ 1 ชิ้นที่คุณมีอยู่แล้วออกไป ถ้าคุณซื้อมาใหม่ 3 ตัว ให้หาตัวเก่าออกไป 3 ตัวเช่นกัน ที่ให้ทำเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าให้โยนตัวเก่าทิ้งตลอด แต่ให้นำเสื้อผ้าเก่า ๆ เหล่านั้นไปให้คนรอบข้าง เช่น น้องสาวคุณแทน หรือจะนำไปบริจาคก็ดีไม่แพ้กัน
6. D.I.Y.
คุณอาจเรียนรู้วิชาเย็บปักถักร้อยแบบง่าย ๆ ซึ่งเป็นทักษะที่มีประโยชน์อย่างมาก ถ้าเสื้อผ้าที่คุณซื้อมาขนาดไม่พอดี คุณสามารถปรับแก้เสื้อผ้าด้วยตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งช่างตัดเสื้อเลย ยิ่งถ้าได้เรียนการตัดเย็บเองจากหนังสือหรือยูทูป คุณจะยิ่งได้ประหยัดกว่าเดิม เพราะการซื้อผ้ามาตัดเองนั้นราคาถูกกว่าซื้อสำเร็จเป็นไหน ๆ แถมคุณยังดีไซน์แบบเองได้ตามใจอีกตังหาก
7.เปลี่ยนโฉมเสื้อผ้าด้วยตัวคุณเอง
ถ้าคุณไม่ได้มีเวลาตัดเสื้อผ้าเองคุณอาจลองดัดแปลงจากสิ่งที่มีอยู่แก้เบื่อแทนเช่นการนำเสื้อเชิ้ตสีขาวที่คุณเบื่อแล้ว มาติดเครื่องประดับ หรือการตัดเสื้อยืดตัวยาวให้กลายเป็นคร้อปท้อป หรือซื้อหินสีต่าง ๆ มาร้อยเป็นเครื่องประดับเอง ฯลฯ ซึ่งสาว ๆ สามารถหาไอเดียต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ทางอินเทอร์เน็ต คุณอาจจะขายเสื้อผ้าที่คุณทำเองนี้ได้ด้วยซ้ำ!
ถ้าคุณนำข้อแนะนำเหล่านี้ไปใช้ รับรองเลยว่าคุณประหยัดเงินช็อปปิ้งเสื้อผ้าได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ตู้เสื้อผ้าก็ไม่เต็มจนหาอะไรไม่เจอ และปัญหา "ไม่มีอะไรจะใส่" ก็จะหมดไปครับ!
นอกจากนี้ การเก็บรักษาเสื้อผ้าให้ดีก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายของคุณได้ เพราะแฟชั่นเป็นสิ่งที่ผ่านมา ผ่านไป แล้วสักพักก็กลับมาอีก เสื้อผ้าที่คุณคิดว่าตกเทรนด์แล้ว หากเก็บไว้สักพักอาจจะนำกลับมาใส่อีกได้ ดังนั้นการเก็บเสื้อผ้าอย่างดีก็ทำให้คุณประหยัดเพราะไม่ต้องคอยซื้อใหม่อยู่ตลอดครับ
หากคุณสนใจเคล็ดลับทางการเงินและความรู้เรื่องประกันรถยนต์อื่นๆสามารถเข้าไปอ่านได้ที่บล้อกของ MoneyGuru ครับ
ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.istockphoto.com/