6 อันตรายที่คาดไม่ถึงจากน้ำอัดลม Zero Calorie
หลายคนชอบดื่มน้ำอัดลม แต่ด้วยความกลัวอ้วน จึงหันไปดื่มเครื่องดื่มลดน้ำหนักต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่าเครื่องดื่มเหล่านั้นมีโทษอย่างบ้าง ChicMinistry จะพาไปดูกันครับ
1. ทำให้ปวดหัว
น้ำตาลเทียมที่เรียกว่า Aspartame ซึ่งถูกนำไปใช้แทนน้ำตาลที่มาจากธรรมชาติในน้ำอัดลมนี่แหละที่ทำให้มีอาการปวดหัว หรือไมเกรนขึ้นหลังจากดื่ม ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญกำลังทำการศึกษาว่าสารให้ความหวานชนิดนี้ว่ามีผลอย่างไร
2. ทำลายสุขภาพฟัน
หมอฟันโดยส่วนมากแล้วจะไม่แนะนำให้ดื่มน้ำอัดลมนะครับ นอกจากจะทำให้คุณติดแล้ว ความซ่าของน้ำอัดลมยังไปทำลายสารเคลือบฟันอีกด้วย เพราะในน้ำอัดลมประกอบด้วยกรดซิตริก ซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนฟัน ถ้าดื่มไปนานๆ เดี๋ยวคุณก็จะสังเกตได้ง่ายครับว่าจะมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้น
3. ทำให้เมาไวเมื่อผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยนอร์ท เคนทักกี้กล่าวว่า การผสมน้ำอัดลมไดเอทกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้น้ำตาลเทียมในน้ำอัดลมเข้าสู่กระแสเลือด และไหลเวียนไปยังสมองได้เร็ว จึงทำให้ผู้ดื่มมีอาการเมาไวกว่าปกติ
4. เกิดความเครียด
American Academy of Neurology ระบุว่าน้ำอัดลมไดเอทที่มี่ส่วนผสมของน้ำตาลเทียมจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความเครียดได้ จากการศึกษาพบว่าคนที่ดื่มน้ำอัดลมไดเอทเกิน 4 กระป๋องต่อวันจะมีความเครียดกว่าคนที่ดื่มเครื่องดื่มทำจากน้ำตาลธรรมชาติ ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญกำลังทำการศึกษาอยู่ว่าเพราะอะไร
5. ทำให้กระดูกเสื่อม
ทีมงานจากมหาวิทยาลัยเทิร์ฟพบว่าผู้หญิงมักมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าผู้ชาย น้ำอัดลมไดเอทจะทำให้กระดูกเสื่อม ขจัดวิตามินและเกลือแร่ต่างๆออกจากกระดูก ทำให้กระดูกเปราะง่ายขึ้น นอกจากนั้นวิตามินเกลือแร่ที่เราบริโภคเข้าไปจะไม่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกายเลย The American Journal of Clinical Nutrition จึงออกมาเตือนผู้บริโภคให้ลดการดื่มน้ำอัดลมครับ
6. น้ำอัดลมลดสมรรถภาพการทำงานของหัวใจ
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และมหาวิทยาลัยไมอามีรายงานว่าน้ำอัดลมจะส่งผลต่อการทำงานของระบบหลอดเลือดและโรคหัวใจได้ จากการสำรวจพบว่า 43% ของผู้คนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมจะมีปัญหาเกี่ยวระบบหลอดเลือด ซึ่งทางนักวิจัยกำลังหาสาเหตุต่อไปว่าเกิดจาดอะไรกันแน่
เห็นแบบนี้แล้ว ชาวชิคก็อย่าลืมลดปริมาณน้ำอัดลมที่ดื่มในแต่ละวันด้วยนะครับ เพราะเราจะได้มีสุขภาพแข็งแรงใช้ชีวิตแบบชิคๆต่อไป
Source: wmnlife.com
Translated & Edited by : ChicMinistry.com
ติดตามทุกเทรนด์ก่อนใครและอัพเดทข่าวชิคๆ
ได้ที่ www.chicministry.com, Facebook Fanpage : facebook.com/chicministry
Twitter : twitter.com/ChicMinistry, IG : instagram.com/chicministryofficial, Line ID : chicministryofficial