เปิดใจ "กะเทยเลส" ตัวเป็นชาย ใจเป็นหญิงรักหญิง
เปิดใจ "กะเทยเลส" ตัวเป็นชาย ใจเป็นหญิงรักหญิง
โดย วรวิทย์ ไชยทอง
ถ้าพูดถึง LGBT หรือ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ในสังคมไทยขณะนี้ก็ต้องยอมรับว่า มีความเปิดกว้างมากขึ้นกว่าในอดีต ความรู้ที่ว่าโลกนี้มีเเค่เพศชาย กับ หญิง เท่านั้น ที่รักกันได้ และแต่งงานกันได้ เป็นเรื่องที่ผิด (แม้ในทางกฏหมายจะถูกต้องอยู่)
หลังจากบทความเรื่อง "กะเทยที่ชอบผู้หญิง : อีกหนึ่งในความหลากหลายของความหลากหลายทางเพศ" ที่เขียนโดย ปิยะธร สุวรรณวาสี ได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณะ สร้างกระแสฮือฮา พอสมควร ในฐานะผู้ที่มีรสนิยมทางเพศแบบกะเทย แต่ยืนยันว่าตนเองมีจิตใจเป็นหญิง เเละมีความรักเเบบหญิงรักหญิง มติชนออนไลน์ จึงติดต่อขอสัมภาษณ์ผู้เขียนบทความที่ออกมาเปิดเผยมุมมองความหลากหลายทางเพศ ของคนข้ามเพศที่อาจเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มใหม่ที่นอกเหนือจาก LGBT ที่เรารู้จักกันโดยปกติ ให้เป็นที่รับรู้ในสังคมคนแรกๆของประเทศ
@เล่าประวัติชีวิตตัวเองให้ฟังหน่อย ว่าตัวเองรู้สึกว่ามีรสนิยมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
มันเริ่มตั้งแต่ประมาณ 5 ขวบนะคะ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านย่านคลอง 5 จังหวัดปทุมธานี คือนั่งเล่นรถของเล่นอยู่ดีดี ก็วางและเอามือมาจับตัว แล้วก็รู้สึกกับตัวเองว่าเฮ้ย! ทำไมฉันถึงอยากเป็นผู้หญิง แล้วทำไมฉันรู้สึกชอบผู้หญิงด้วย ตอนนั้น จะมีเพื่อนบ้าน ถัดไปประมาณสัก 2 ถึง 3 หลัง คือก็ไม่ได้รู้สึกว่าชอบนะคะ แต่ก็รู้สึกดีมากๆ ซึ่งก็ก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน เพราะว่าถ้าเราพูดเรื่องนี้ให้ใครฟังใครเค้าจะเชื่อ ว่าเรามีความรู้สึกว่าตัวเราเป็นผู้หญิง แล้วเราก็รู้สึกดีกับผู้หญิงตั้งแต่ 5 ขวบ ในปี 2538 คงไม่มีใครเชื่อ. เลยยอมปิดเรื่องนี้และคิดจะเปิดเผยเมื่อตอนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว กลับไปนึกถึงตัวเองยังรู้สึกเลยว่าตัวเองเป็นจอมวางแผนตั้งแต่เด็ก
@ ตอนเรียนสมัยมัธยมก็ไม่มีใครรู้เลยหรอว่าเราเป็นกะเทย
สมัยมัธยมมีเพื่อนรู้ว่าเราเป็นกระเทยประมาณ10คนค่ะทุกคนรู้ว่าเราเป็นผู้ชายหมดเลยจริงๆ บอกได้เลยว่าทุกคนคิดว่าเราเป็นผู้ชายจนถึงมหาวิทยาลัยเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งเรียนจบจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร แล้วทำงานได้สักพัก เพราะสมัยเรียนปริญญาตรีก็แสดงออกแบบผู้ชายปกติ ใครมองดูก็น่าจะคิดว่าเป็นผู้ชาย
@ แล้วจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรากล้าแสดงออกเกิดขึ้นตอนไหน?
คือในบางครั้งเราก็เริ่มที่จะแต่งหญิงแต่หลายคนก็คิดว่าเราแต่งแค่แสดงไม่ได้จริงจังเช่นช่วงมหาวิทยาลัยก็เริ่มมีการนิดนึง เฉพาะเพื่อนบางคนก็เริ่มรู้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะโกหกตัวเองได้นาน เพราะในใจรู้ว่าตัวเองเป็นผู้หญิง และตั้งแต่นั้นมาก็ตัดสินใจว่าจะยอมทนไปก่อนให้ถึงเวลาที่พอเหมาะพอควร แต่ขออย่างเดียวก่อนอายุ 25 ปี เอ็งต้องทำให้ได้ต้องบรรลุเป้าหมายให้ได้
@ ตอนนี้ก็แสดงออกเต็มที่แล้วว่าตัวเองเป็นกะเทย และมีจิตใจเป็นหญิงรักหญิง เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าเพศสภาพในสภาวะแบบนี้มีลักษณะพิเศษยังไง?
ไม่ได้มีลักษณะพิเศษอะไรหรอกค่ะก็แค่คนข้ามเพศคนหนึ่งมีรสนิยมก็คือชอบผู้หญิงเท่านั้นเองไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย แต่ปัญหาที่มันเกิดขึ้นคือคนไม่เชื่อไง คนมันยึดติดไงคะ คนที่เขารับรู้เรื่องนี้เป็นครั้งแรกเขาก็จะตกใจว่ามันมีด้วยหรอคนแบบนี้ แต่ถ้าคนที่พอจะรู้อยู่แล้วว่าเพศสภาพกับรสนิยมมันไม่จำเป็นต้องไปด้วยกันเสมอ ความตกใจก็จะเกิดขึ้นไม่มากส่วนคนที่ตกใจก็เพราะเชื่อว่าคนข้ามเพศทั้งหลายรสนิยมจะต้องตายตัวเสมอ
@ ตอนนี้มีคนที่แสดงออกว่าเป็นกะเทยและมีรสนิยมชอบผู้หญิงกี่คน แล้วเป็นยังไง?
ตอนนี้มี 4 คนแล้วค่ะ คนแรกเจอกันข้างนอกเจอกันในงาน เครือข่ายเพื่อนกะเทยไทยเมื่อปีที่แล้ว ที่หอศิลป์กรุงเทพฯ ซึ่งมีการพูดและรณรงค์เกี่ยวกับเรื่อง พรบ.คู่ชีวิต ซึ่งตัวเองเป็นคนชอบเคลื่อนไหวเรื่องแบบนี้ ถามว่าทำไม? ก็คงต้องตอบว่า ไม่รู้เหมือนกันเพราะมันเข้ามาสู่ในวงจรแบบนี้แล้ว เรารู้สึกว่าเราอยากช่วยเราอยากเคลื่อนไหวกับเค้าบ้าง เพราะว่าส่วนหนึ่งก็คือ เราเป็นเพศที่ยังไม่ได้รับการยอมรับ หมายความว่า ทอม เกย์ เลสเบี้ยน ได้รับการยอมรับมากกว่าเรา
@เราเรียกกลุ่มคนที่มีรสนิยมทางเพศ แบบเราว่าอะไร ในฐานะที่คุณน่าจะเป็นคนแรกแรกที่ออกมาพูดเรื่องนี้?
มีคนตั้งให้แล้วค่ะ ไม่ได้เป็นคนคิดคำนี้ขึ้นมาเองด้วยแต่เป็นน้อง เค้าเรียกว่า "กะเทยเลส" คือคนที่มีจิตใจแบบเลสเบี้ยนชอบผู้หญิง
@ แล้วผู้หญิงที่เราชอบจะต้องเป็นกะเทยด้วยไหมหรือเป็นผู้หญิงก็ได้?
ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงก็ได้ค่ะขอให้เหมือนผู้หญิงจบเพราะปกติเลสส่วนใหญ่ก็ชอบอะไรที่เหมือนผู้หญิงอยู่แล้ว
@คนภายนอกมองมาจะรู้ได้ไงว่าเราเป็นกระเทยที่ชอบผู้หญิง?
เราเองจะมีอาการกิริยาอย่างไรก็ไม่สามารถตอบได้เอาเป็นว่าถ้ามีสาวๆเดินมาก็จะแอบมองจนไม่ละสายตาเลยทีเดียวคิดว่าไม่มีใครสามารถบอกได้ไม่มีใครรู้ เพราะโดยปกติทุกคนจะคิดว่ากระเทยมักจะชอบผู้ชายเวลามองผู้หญิง ผู้หญิงเลยมักจะไม่สนใจเท่าไหร่
@เคยรู้สึกชอบผู้ชายไหม?
ไม่เคยตั้งแต่เกิดมาจำได้ก็ชอบแต่ผู้หญิงอย่างเดียว
@เคยคบหาดูใจกับใครบ้างไหม
เคยมี 3 คนค่ะ ฮ่าๆๆ เป็นผู้หญิงทุกคนค่ะ คนแรกเจอกันตอนเรียนพอคบกันเราก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เราเป็นอย่างนี้นะเรามีรสนิยมแบบนี้ แกต้องทำใจนะถ้าสักวันหนึ่งฉันจะสวยกว่าแก แต่ยอมรับว่าแต่ละคนก็อยู่ไม่ค่อยยืดเท่าไร ส่วนใหญ่ไม่ถึงปีซักคน ตอนนี้ไม่มีแฟนแต่ก็จะใช้ชีวิตแบบนี้ คือประกาศตัวเองว่าเป็นกะเทยที่ชอบผู้หญิง
@คนที่เจอเรารู้จักเราครั้งแรก แล้วตั้งคำถามว่าเป็นผู้ชายก็ชอบผู้หญิงได้ทำไมต้องเป็นกะเทยคนที่ถามแบบนี้สะท้อนวิธีคิดยังไง
คิดว่าเป็นคำถามที่ออกมาจากจิตใต้สำนึกมันสะท้อนคนถามว่า1เขาคิดว่าแนวคิดเรื่องเพศสภาพของมนุษย์ถ้าเป็นอย่างไร รสนิยมทางเพศก็จะต้องเป็นเช่นนั้นเสมอ ในบุคคลข้ามเพศ 2 ทำไมคุณไม่คิดเหรอว่าคนอื่นเขาไม่สามารถฝืนใจตนเองได้ ไม่มีใครสามารถฝืนใจตนเองได้หรอกค่ะ คือไม่วันใดก็วันหนึ่งต่อให้อายุเค้าล่วงเลยจนถึง 50 ปี60 ปี 70 ปี ก็ต้องออกมา เพราะมันเป็นความรู้สึกของเรา และเรารู้ว่าตัวเราเป็นแบบนี้มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ลองคิดในมุมกลับนะ ภายนอกเพศสภาพเราดูเป็นผู้หญิงแต่คำนำหน้าเราเป็นนาย เวลาเราจะแต่งงาน มีประเทศไหนในโลกที่ไม่อนุญาตให้เราแต่ง เพราะมันเป็นนายกับนางสาว
@เคยศึกษาไหมว่าในระดับสากลมีคนแบบเราไหมยังไง
มันก็มีเช่นใน Facebook ก็มีเพจที่เป็นศูนย์รวมของคนที่มีรสนิยมแบบนี้ คือเป็นกระเทยเลสเบี้ยนในสหรัฐอเมริกาก็มี ตัวเองก็เปิดเพจในเฟสบุ๊คก็มีคนที่เหมือนกันแอดเฟรนเข้ามาบ้าง ถ้าเราเข้าไปในอินเตอร์เน็ตแล้วเสิร์ชหาบทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็จะค้นพบ เช่น ตัวเองก็เคยเจอบทความวิจัยที่เป็นรายงานทางวิชาการของประเทศสหรัฐอเมริกาเรื่องรสนิยมทางเพศของคนที่มีลักษณะข้ามเพศจากชายเป็นหญิงอันดับ1คือไบเซ็กซ์ชัล อันดับ 2 คือชอบผู้หญิงและอันดับ 3 คือชอบผู้ชาย นั่นแปลว่าจริงๆ แล้วมันเยอะเหมือนกัน แต่เขาอาจไม่แสดงออก ตอนนี้ตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้วมีคนมากดไลค์ 300 กว่าคน ก็จะเน้นการคุยกันเรื่องเกี่ยวกับความรักหลายทางเพศ เคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความหลากหลายทางเพศทั้งหมด บางทีก็ลงเรื่องเกี่ยวกับตนเองบ้าง เช่นเรื่องความคิดหรือเรื่องเพศอะไรแบบนี้ รวมถึงเรื่องสังคมอยากบ่นอะไรก็จะบ่น (หัวเราะ)
@ประเมินว่าตอนนี้สถานการณ์การยอมรับความหลากหลายทางเพศในประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้าง
ยังน้อยเกินไปชัดเจนปัญหาที่เห็นชัดๆเช่น 1. คือการตั้งแง่สงสัยว่าไอ้นี่มันจะทำอะไรเราหรือเปล่า หมายความว่าผู้ที่เป็นคนมีรสนิยมข้ามเพศมักถูกมองด้วยความหวาดระแวง เพราะรสนิยมทางเพศของผู้ที่มีลักษณะทางเพศถูกมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันสังคมก็ค่อนการเปิดและยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ
@ในระดับรัฐตอนนี้การเรียกร้องสิทธิในทางกฎหมายอยู่ในเรื่องใดหรือประเด็นไหนแล้ว
ในขั้นแรกทุกคนเห็นตรงกันว่ากลุ่มคนข้ามเพศหรือคนที่มีความหลากหลายทางเพศต้องการพระราชบัญญัติคู่ชีวิตที่อนุญาตให้ไม่ว่าเพศไหนก็สามารถที่จะแต่งงานกันได้อันนี้อยากได้เป็นสิ่งแรกเลยถ้าอันนี้ผ่านก็จะปลดล็อคข้อเรียกร้องหรือปัญหาไปได้อีกเยอะเลยกฎหมายนี้มีสาระสำคัญคือการอนุญาตให้ทุกคนแต่งงานกันได้ ส่วนเรื่องคำนำหน้าชื่อก็ยังคิดไม่หนักเท่าไหร่ โดยที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ามีข่าวที่คนข้ามเพศก็สามารถที่จะแต่งงานกันได้ แต่ก็อย่าลืมว่ามันไม่สามารถที่จะจดทะเบียนสมรสกันได้
@คิดว่าในอนาคตจะมีคนอย่างเราเพิ่มขึ้นไหม และเขาจะกล้าแสดงออกเปิดเผยตัวเองไหม
มีเพิ่มขึ้นหลายคนแน่ๆ แต่หลายคนยังอยู่ในกรอบคิดว่าถ้าเอ็งจะเป็นกระเทยทำไมถึงชอบผู้หญิง แล้วถ้าเอ็งชอบผู้หญิงทำไมเอ็งไม่เป็นผู้ชาย หลายคนโดนสังคมกดทับด้วยว่ากันแบบนี้หรือคิดอยู่แล้วว่าสังคมจะต้องคิดแบบนี้ ก็เลือกที่จะกดดันตัวเองเก็บกดและปกปิดตัวเอง แต่ถ้ามีคนกล้าที่จะออกมาเปิดเผยรสนิยมตรงนี้ มันก็น่าจะช่วยให้เกิดการคลี่คลายได้บ้าง อาจจะมีคนออกมาจากตู้เสื้อผ้าเยอะกว่านี้ก็ได้ จริงๆมีคนแอบมาบอกแล้วหลายคน คนก็ส่งข้อความเข้ามาบอก เขาก็ยอมรับว่าเค้าก็ไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวเองในสังคม
@หมายความว่าคนที่ออกมาเปิดเผยตัวเองมาเป็นทอม-เกย์-เลสเบี้ยน-ดี้ ตอนนี้สังคมก็เริ่มที่จะยอมรับได้มากกว่าหรือเปล่า
ใช่ค่ะคนที่ออกมาบอกว่าตัวเองเป็น LGBT จะกล้าเปิดเผยตัวตนต่อสังคมมากกว่าคนข้ามเพศที่มีความซับซ้อน 2 ชั้นอย่างกระเทยเลส ทั้งนี้เชื่อว่าคนข้ามเพศที่มีลักษณะซ้อน 2 อย่างรวมกันก็ยังมีอีกหลายรูปแบบในประเทศไทยก็ยังมีอีกเยอะเชื่อว่าด้วยสภาพสังคมและความคิดแบบนี้ก็คงไม่มีใครที่จะการเปิดเผยตัวเองมากนัก
@จริงๆ เราอยากจะสู้เรื่องไหนอยากจะบอกอะไรกับสังคม
เราอยากจะให้มันมีการยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้นอีกแล้วก็อยากให้คนรับรู้ว่ามันมีคนแบบนี้อยู่จริงๆคือการพยายามเรียกร้องมันเกิดจากการที่ถ้าเราไม่ยอมรับตัวเองมันก็จะเหมือนกับว่าตัวเองถูกกดอยู่ตลอดเวลาเราไม่อยากให้มีใครหรือสังคมมากดดันเราหรอกว่าเราจะต้องทำตามกรอบคิดของสังคมอยู่ตลอดเวลาในเรื่องเกี่ยวกับเพศมันไม่จำเป็นขนาดนั้น
ยืนยันว่าขณะนี้ประเทศไทยน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการยึดติดเรื่องเพศสภาพก็ยังปรากฏการไม่ยอมรับความหลากหลายทางเพศอยู่
@มุมมองชีวิตของตัวเองเป็นยังไงพอจะเล่าให้ฟังได้ไหมเช่นเรื่องความรักเป็นต้น
เรื่องความรักเราก็มีความรักเหมือนคนทั่วไปแหละค่ะวิธีคิดเรื่องความรักเราก็เหมือนกับเลสเบี้ยนปกติส่วนเรื่องชีวิตก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าใครก็เป็นปกติอย่างตัวเองแม้จะรู้ว่าเราเป็นผู้หญิงแต่ถ้าบอกไปก็คงไม่เชื่อว่าตัวเองเป็นคนชอบดูบอลมากและชอบสะสมเสื้อฟุตบอลเพราะเราโตมากับความเป็นผู้ชายอย่างเต็มที่แต่เราเข้าใจว่าระบบข้างในใจเรามันไม่ใช่ส่วนเรื่องหนังหรือหนังสือก็ชอบอยู่แบบคนปกติไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่จำเป็นไม่ต้องไปดูหนังทางเลือกอะไร
@เห็นน้องพูดเรื่องเพศและความหลากหลายทางเพศ น้องได้รับอิทธิพลความคิดหรือศึกษาจากใครอะไรบ้างไหม เช่น อาจจะชอบอ่านหนังสือหรือไปคุยกับใครหรือชอบในงานเสวนาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ เป็นต้น
ก็พยายามที่จะศึกษาหาความรู้ด้านนี้อยู่ ถามว่ามีแรงบันดาลใจจากอะไร ก็ตอบว่ามีแรงบันดาลใจจากตัวเองเพราะเรารู้ว่าตัวเองไม่เหมือนคนอื่นและเราก็ไม่ค่อยกล้าที่จะบอกใคร ส่วนใหญ่ก็คือการสืบค้นด้วยตนเองและการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเพื่อรู้ว่าโลกภายนอกมันมีคนแบบเราไหม ปรากฏว่ามันก็มี สหรัฐอเมริกาก็มีเยอะแยะไป แล้วที่ตลกคือที่รัสเซียก็มีเยอะด้วย โดยเฉพาะที่เคยออกข่าวไปสองสามครั้งเรื่องที่ผู้หญิง 2 คนแต่งงานกัน แต่ผู้หญิงหนึ่งในนั้นมีคำนำหน้าเป็นเพศชายอยู่ ขณะที่ทางการของรัสเซียก็พยายามที่จะห้ามแต่ก็ไม่สามารถทำได้
@ตอนนี้คิดว่าวงการสื่อสารมวลชนไทยเองมีการให้พื้นที่และยอมรับกับคนที่มีความหลากหลายทางเพศหรือคนข้ามเพศมากน้อยเพียงใด
คิดว่าก็มีการให้พื้นที่และยอมรับในส่วนหนึ่งถามว่าคนที่มีลักษณะทางเพศต้องการพื้นที่มากไหมก็ไม่จำเป็นต้องมากแต่จำเป็นที่จะต้องให้ความรู้ให้ดีกว่านี้ปัจจุบันมันยังมีการพาดหัวข่าวในลักษณะเชิงลดทอนความเป็นคนของคนที่มีลักษณะทางเพศ เช่น การพาดหัวข่าวว่างาน "คาร์นิวัลคนวิปริตผิดเพศ"แบบนี้เป็นต้นก็ยังมีให้เห็นอยู่น่าเสียใจและบางทีก็น่าโมโหมาก
@ในอนาคตมีความหวังว่าจะเคลื่อนไหวอะไรต่อไปบ้างไหม
ก็จะเคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องนี้ต่อไปจะต้องทำให้มันกลายเป็นเรื่องปกติให้ได้
@คำถามสุดท้ายคืออยากบอกอะไรกับคนไทยตอนนี้
คนเราเกิดมามีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ไม่มีใครเหมือนกันแม้แต่คนเดียวความหลากหลายทางเพศเป็นสิ่งนึงที่ต้องยอมรับว่ามันมีความแตกต่างกันและในความหลากหลายทางเพศนั้นก็ยังมีความหลากหลายทางเพศซ้อนไปอีกแน่นอนว่าคนที่มีความหลากหลายทางเพศกว่าเค้าจะเดินมาถึงจุดที่กล้าเปิดเผยตัวว่าเค้ามีรสนิยมแบบนี้มันยากกว่าคนธรรมดาหลายเท่าเพราะคนจะยึดติดอยู่ในกรอบกรอบของศาสนาหรือประเพณีและสังคมว่าคนมีรสนิยมความหลากหลายทางเพศคือสิ่งประหลาดแปลกปลอมขอให้ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรามากขึ้นก็พอ อย่าคิดว่าคนคนนี้จะต้องชอบเพศนี้เท่านั้น