ล้วงลึก มิสทิฟฟานี่ สิ่งที่ยากสุดในชีวิตคือ "การเป็นตัวเอง"
ล้วงลึก มิสทิฟฟานี่ สิ่งที่ยากสุดในชีวิตคือ "การเป็นตัวเอง"
ที่จั่วหัวขึ้นมาแบบนี้ เพราะนี่คือ "คำตอบ" ที่ทำให้ "ใบหม่อน โสภิดา ศิริวัฒนานุกูล" ตอบคำถามชนะใจคณะกรรมการในรอบประกวด 3 คนสุดท้ายมิสทิฟฟานี่ 2015
ในค่ำคืนนั้น หลังจากสิ้นเสียงของเธอ เสียงปรบมือก็ดังขึ้นกระหึ่ม และในไม่กี่วินาทีถัดมาพิธีกรก็ประกาศให้โสภิดา ศิริวัฒนานุกูล เป็นผู้คว้ามงกุฎมิสทิฟฟานี่ 2015 เป็นผู้ที่สวยพร้อมทุกองค์ทั้งภายในและภายนอก ตรงตามคอนเซ็ปต์การประกวด Beauty Re′al
คำถามในวันนั้นมีอยู่ว่า สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นมนุษย์คืออะไร?
ใบหม่อนตอบว่า "สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นมนุษย์ นั่นก็คือตัวของเรา การที่เราเป็นตัวของเราเอง เพราะคนเราทุกคนจะชอบเลียนแบบคนอื่น หรือชอบเลียนแบบต่างชาติ ดังนั้น ตัวเราก็จะไม่เป็นตัวเรา สิ่งที่ยากที่สุด นั่นคือการเป็นตัวของเราเอง" มิสทิฟฟานี่ 2015 ย้อนเล่าถึงวันประกวดระหว่างที่เดินสายขอบคุณสื่อมวลชน พร้อมกับรองอีก 2 คน "อลิซ" กานต์ชญา กัญจ์ชนะกุล
และ "แซน" พิมพ์นรา อธิพัฒน์เดชากร น้ำเสียงของเธอสดใส ใบหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้ม
"มงกุฎมิสทิฟฟานี่เป็นความฝันของสาวประเภท 2 ทุกคน ใบหม่อนมาถึงตรงนี้ได้ ถือว่าเกินฝันแล้ว" เธอออกตัว
ย้อนกลับไปในช่วงวัยเยาว์ ใบหม่อนก็เหมือนกับสาวประเภท 2 หลายคนที่ไม่ได้รับการยอมรับจากคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้เป็น "บิดา"
"ใบหม่อนเป็นลูกคนเดียว และที่บ้านมีแต่ผู้หญิง จะมีผู้ชายอยู่ 2 คนคือคุณตากับคุณพ่อ จึงทำให้ตัวเองติดพฤติกรรมผู้หญิง อีกทั้งที่บ้านไม่ชอบลูกชายที่เฮ้วฮ้าว ไม่ชอบเกเร จึงเป็นคนเรียบร้อยมาตั้งแต่เด็ก จนแม่รู้ว่าชอบเป็นผู้หญิง แม่ก็ไม่ว่าอะไรและสนับสนุน แต่ขอให้เป็นเด็กดี อย่าดื้ออย่าซนกับแม่ และเราเป็นแบบนี้ สังคมข้างนอกจะมองว่าเราไม่ดี เราต้องทำตัวให้ดีๆ"
กานต์ชญา กัญจ์ชนะกุล, พิมพ์นรา อธิพัฒน์เดชากร
ถึงผู้เป็นมารดาจะเข้าอกเข้าใจ แต่ "พ่อ" ที่อยากได้ลูกผู้ชายก็พยายามที่จะสอนให้ลูกมีชีวิตเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป
"พ่อไม่อยากให้เราตุ้งติ้ง ก็อยากทำให้พ่อสบายใจ เลยลองไปเล่นกับเด็กผู้ชาย เผื่อว่าจะกลับมาเป็นผู้ชายจริงๆ แม้ในใจลึกๆ จะขัดกับความรู้สึก แต่พอเล่นแล้ว ไม่ใช่ กลับบ้านหัวโนทุกวัน เพราะเด็กผู้ชายเล่นกันรุนแรง ก็ได้แต่บอกว่า หนูไม่เอา ไม่เอาแล้ว หนูไม่ชอบอะไรแบบนี้"
ด้วยใจรักที่อยากจะเป็นผู้หญิง แต่ก็อยากทำให้ "พ่อยอมรับในสิ่งที่เป็น" จึงพยายามตั้งใจเรียนและทำกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน
"ใบหม่อนตั้งใจเรียนมากๆ สอบได้ที่ 1 มาตลอด พยายามแข่งกับเพื่อน แข่งกับตัวเอง ทำให้ตัวเองเป็นเด็กดีในสายตาพ่อ ซึ่งพ่อก็ยอมรับส่วนตรงนี้ได้ เพราะเวลาพ่อไปไหนก็มีแต่คนชมเราให้พ่อฟังว่า ลูกเป็นเด็กกิจกรรม เรียนก็เก่ง ได้ลูกดีแล้ว"
นอกจากจะสู้เพื่อที่จะได้เป็น "ตัวเอง" แล้ว ใบหม่อนยังสู้เพื่อ "ความฝัน" ซึ่งก่อนจะมาประกวดมิสทิฟฟานี่ เธอเดินสายประกวดเวทีสาวประเภท 2 ต่างๆ ทั่วประเทศมาแล้วกว่า 50 เวที เพื่อนำเงินรางวัลจากการประกวดมา "ส่งตัวเองเรียนหนังสือ"
"ที่บ้านฐานะไม่ได้ดีมาก และไม่อยากรบกวนแม่ ก็เดินสายประกวดตั้งแต่เรียนอยู่ปี 2 เป็นการประกวดสาวประเภท 2 ตามงานต่างๆ ทั้งงานสงกรานต์ งานลอยกระทง ก็มีทั้งได้รางวัลบ้าง ไม่ได้รางวัลบ้าง ตกรอบแรกก็มี แต่ไม่ว่าจะเงินรางวัลมากหรือเงินรางวัลน้อย เหนือ อีสาน กลาง ใต้ เราก็ไป เหมือนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เวทีไหนจะสมหวัง ไม่สมหวัง ก็เป็นประสบการณ์ให้อดทนและเข้มแข็ง"
เธอเดินตามความฝันทีละก้าว ทีละก้าว ทั้งเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย มีบ้างที่ท้อแท้ หากนั่นก็ไม่ทำให้ท้อถอย และวันนี้เธอก็ได้ "รางวัลชีวิต" ที่ไม่ได้มาด้วยเส้นทางที่โรยกลีบกุหลาบ แต่ได้มาเพราะความตั้งใจและอดทน
ภายหลังได้รับตำแหน่ง ใบหม่อนวัย 22 บัณฑิตคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาธารณสุขชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา บอกว่า นอกจากจะตั้งใจเตรียมตัวเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล ควีน 2015 (Miss International Queen 2015) ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
สิ่งหนึ่งที่มุ่งมั่นจะทำคือ สร้างความเข้าใจกับสังคมให้เข้าใจสาวประเภท 2 มากขึ้น
"ใบหม่อนมีประสบการณ์เยอะ เพราะทำงานอยู่กับชุมชน สังคม เวลาเข้าไปในชุมชน ทุกคนไม่รู้หรอกว่าเป็นสาวประเภท 2 แต่พอเราแนะนำตัวเมื่อไหร่ ทุกคนจะรู้ทันที เพราะเราต้องแนะนำตัวว่าเป็น "นาย" ให้ทุกคนได้รู้ชื่อจริงของเราว่าเราเป็นใครมาจากไหน พอรู้ ทุกคนก็จะมีทัศนคติกับสาวประเภท 2 ว่าต้องเป็นคนที่ดัดจริต เยอะ ต้องอะไรตลอด ไม่เอา แอนตี้ ไม่ชอบ สาวประเภท 2 ไม่เอา จริตเยอะเกินไป"
"ทั้งหมดนี้เราไม่ได้อยากได้ความเห็นใจ แต่อยากให้เข้าใจ เหมือนใจแลกใจ เราสาวประเภท 2 ทุกคนไม่เคยหาเรื่องใครก่อน มีแต่ว่าทุกคนจะชอบว่าแรงๆ กับเรา ร่างกายของเราเป็นผู้ชายก็จริง แต่ใจเป็นผู้หญิง ใจจะอ่อนแอตลอด แค่คำหยาบบางคำก็ทำให้สะเทือนใจ พยายามอย่ามองเราว่า "ต่าง" ในเรื่องเพศ ให้มองที่ความสามารถ ทำอย่างไรที่เราจะอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข"
ชีวิตมาถึงวันนี้ ใบหม่อนบอกว่า "ยังไม่ใช่ที่สุดของชีวิต"
"เราทุกคนไม่ว่าจะประสบความสำเร็จอะไรแล้ว เราฝันอะไรแล้ว แล้วเราประสบความสำเร็จอะไรแล้ว เราอย่าหยุดฝันแค่นั้น เราต้องต่อยอดตัวเองไปให้ได้อีก เช่น ใบหม่อนได้เป็นมิสทิฟฟานี่ ถ้าหยุดอยู่แค่ตำแหน่งนี้ ไม่ก้าวต่อ ไม่คิดที่จะทำงานวงการบันเทิง ไม่อยากที่จะช่วยสังคม ทุกอย่างก็จะหยุด เหมือนโลก ถ้าโลกหยุดหมุน ทุกอย่างบนโลกก็จะหยุดหายไป แต่ถ้าโลกยังหมุนอยู่ ทุกอย่างมันก็ยังดำเนินชีวิตต่อไป"
นี่คือ "ตัวตน" ของมิสทิฟฟานี่คนล่าสุด ที่ทำสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตคือ "คง" ความเป็น "ตัวเองที่ดี" จนกระทั่งได้รับ "มงกุฎงาม" เป็นรางวัลชีวิต
ขอบคุณภาพประกอบ : อินสตาแกรม sopida_bimon
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ