เปิดเมนูอาหารต้านมะเร็ง ′สลัดกระเทียมอบ′ จาก ′เชฟน่าน′
พูดถึงปัญหาสุขภาพแล้ว "มะเร็ง" ย่อมเป็นโรคหนึ่งซึ่งใครต่อใครต่างหวาดกลัวเป็นแน่ เพราะเป็นโรคร้ายที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด และไม่มีใครรู้สาเหตุโดยแน่ชัด
คนสมัยนี้จึงหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ นอกจากออกกำลังกาย ทำจิตใจให้เบิกบานไม่เครียดแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
แต่พอนึกถึง "อาหารสุขภาพ" หลายคนก็จะรู้สึกว่า จะต้องเป็นอาหารจืดๆ ที่รสชาติไม่อร่อยถูกปาก แล้วก็จะพลอยทำให้ไม่อยากรับประทาน แต่ในงาน "เฮลท์แคร์ 2015" ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ภายใต้แนวคิด "สู้มะเร็งคนเมือง" จัดโดย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งผู้ประกอบการธุรกิจสุขภาพ ได้เชิญ "น่าน หงษ์วิวัฒน์" ผู้คลุกคลีอยู่กับอาหารเพื่อสุขภาพมาแนะนำ "เมนูอาหารต้านมะเร็ง" ทั้งเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์แถมยัง "อร่อย" อีกด้วย
ออกตัวว่าเป็น "เชฟสไตล์บ้านๆ" เพราะเพิ่งเข้ามาเป็น "เชฟ" เต็มตัวได้ประมาณ 7-8 ปี แต่เบื้องหลังไม่ธรรมดา
แรกเริ่มเชฟน่านสำเร็จการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะมุ่งหน้าไปเรียนบริหารธุรกิจ ที่ Weatherhead School of Management ที่ Case Western Reserve University รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อมาช่วยบริหารงานที่บ้าน ซึ่งเพราะตัวเขาเองเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของ สำนักพิมพ์แสงแดด ผู้ผลิตตำราอาหารมากมาย ทั้งยังเปิดร้านอาหาร นอสโตร ที่สยามสแควร์วัน เป็นที่มาให้เขานำความชอบในการทำอาหารตั้งแต่เด็กมาเป็นเรื่องจริงจังในที่สุด ก่อนตัดสินใจไปเรียนทำอาหารที่ สถาบันเลอ กอร์ดอง เบลอ ประเทศไทย เก็บเกี่ยวความรู้จนเป็นเชฟเต็มตัว
ทุกวันนี้เชฟน่านในวัย 36 ปี เรียกได้ว่าเป็นเชฟรุ่นใหม่ไฟแรง เป็นเจ้าของตำราอาหารหลายเล่ม คิดค้นเมนูอาหารมากมาย และยังเป็นคอลัมนิสต์ รวมทั้งมีรายการสอนทำอาหารเป็นของตัวเองกับรายการ CIY : cook it yourself ที่ช่องนิวทีวี ควบคู่ไปกับการเป็นครูสอนทำอาหารด้วย
โดยเชฟน่าน เปิด "คุ้กกิ้งคลาส" สอนทำเมนูต้านมะเร็งแบบง่ายๆ ซึ่งเจ้าตัวหยิบเอาเมนู "สลัดกระเทียมอบ" มาให้ลองทำตามไปพร้อมๆ กับการพูดคุยเรื่องสุขภาพจากอาหาร
"คุณพ่อผม ท่านเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งแพทย์ทุกคนก็คงพูดเหมือนกันว่าให้ตัดอวัยวะนั้นๆ ทิ้งไป ต้องฉายแสง ต้องทำเคมีบำบัดเยอะแยะ แต่ท่านคิดว่าไม่ใช่ จึงลองรักษามะเร็งด้วยตัวเอง โดยการเปลี่ยนวิธีการกิน เปลี่ยนอาหารใหม่ ออกกำลังกาย ทำให้ผมโตมาในสภาพแวดล้อมที่ดูแลสุขภาพไปด้วย และได้ศึกษาเรื่องพวกนี้ด้วย"
แล้วอาหารหลีกเลี่ยงโรคร้ายเป็นอย่างไร เชฟน่านบอกเอาไว้ให้เข้าใจง่ายๆ ว่า หากอยากหลีกเลี่ยงมะเร็งต้องมีพฤติกรรม 2 อย่างที่สำคัญคือ หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง และกินอาหารที่ช่วยต้านมะเร็งได้
"จากการศึกษาเราพบว่าแม้ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งจะมาได้หลากหลายสาเหตุ แต่ปัจจัยสำคัญก็คือการกินอาหาร อาหารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งเลยง่ายๆ ก็ให้คิดซะว่าเป็นอาหารที่กินแล้วอร่อย อาหารที่ปนเปื้อนสารเคมี หรือจะพูดอีกหน่อยก็คืออาหารที่ผ่านอุตสาหกรรมต่างๆ มาก ไปยืดอายุไม่เป็นธรรมชาติต่างๆ สำหรับผมมันน่ากลัว แน่นอนว่าหากเรากินไปเยอะๆ ของเสียก็เยอะ ร่างกายเราทำงานหนักก็ก่อให้เกิดโรค เช่นแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่หนัก หรือทานของปิ้ง ทอด ย่าง บุฟเฟต์ อันนี้ต้องระวัง"
"นอกจากนี้ เคยอ่านมาว่ามะเร็งเกิดจากกระบวนการของร่างกายที่รับเอาของผิดปกติเข้าไปเยอะ ก็ต้องเก็บรักษาเอาไว้ที่อวัยวะส่วนนั้นมากๆ เมื่อสะสมไม่ไหวมะเร็งก็จะกระจายไป มีความเสี่ยงมากอยู่แล้ว คนที่อยากป้องกันมะเร็งจึงต้องหันมาทานผัก ไม่ว่าจะสุกหรือดิบ เพราะจะมีสารบางอย่างไปช่วยป้องกันความเสี่ยง บางตัวมีอนุมูลอิสระไปจับเอาสารพิษพวกนี้ออกมาด้วย ทั้งมีกากใย ช่วยขับถ่ายของเสียด้วย"
ส่วนจานเด็ด "สลัดกระเทียมอบ" ที่ เชฟน่าน เล่าว่า เลือกเมนูนี้ขึ้นมาเป็นเมนูต้านมะเร็ง ก็เพราะส่วนผสมแต่ละชนิดอุดมไปด้วยสารอาหารต้านมะเร็งทั้งนั้น โดยเฉพาะกระเทียมที่ช่วยต้านมะเร็งได้ มีมะเขือเทศ ที่ขึ้นชื่อว่าป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก มีแครอต ผักสีส้มมีเบต้าแคโรทีนสูง ดูดซึมวิตามินซีได้ดี ต้านอนุมูลอิสระ มีเห็ดหอม และผักสลัดทั่วไป ซึ่งส่วนผสมแต่ละชนิดต่างหาได้ง่ายริมรั้ว และช่วยต้านมะเร็งได้
สำหรับเคล็ดลับความอร่อยของเมนูตะวันออกผสมตะวันตกจานนี้ อยู่ที่การนำเอากระเทียมไปอบเล็กน้อยเพื่อลดความเผ็ดและความหวาน ทำให้กินง่ายมากขึ้น ส่วนมะเขือเทศต้องกินสดๆ การผัดผักต่างๆ ก็ปรุงรสเพียงเกลือ พริกไทย ไม่ให้รสจัดมากเพราะเป็นเมนูสุขภาพ ขณะที่น้ำสลัดก็ต้องใส่น้ำมันมะกอกเข้าไปเล็กน้อย เพื่อให้น้ำสลัดไปเกาะเส้นผักต่างๆ ได้รสชาติทุกคำที่เข้าปาก ย้ำว่าส่วนผสมทุกชนิดควรมาจากธรรมชาติ และไม่ปรุงให้จัดจนเกินไป
ก่อนจะทิ้งท้ายไว้ว่า หากอยากจะทานเมนูอาหารเพื่อสุขภาพจริงๆ นอกจากจะต้องหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ อาหารหลักของโรคมะเร็งแล้ว หากเป็นไปได้ก็ควรจะทำอาหารรับประทานเองจะดีกว่า
"หากอยากทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ทางเลือกที่ง่ายที่สุดคือทำกินเอง ต้องคิดว่าไม่ยาก และมีประโยชน์มากมาย เพราะเราได้เลือกวัตถุดิบเองกับมือ ได้เลือกของที่ดีจริงๆ สมัยนี้สูตรอาหารหาไม่ยาก ทั้งนิตยสาร ยูทูบ มีรอบตัวที่จะช่วยรักษาสุขภาพเราได้จริง ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่ยาก แต่วินัยเป็นเรื่องสำคัญ" เชฟน่านทิ้งท้าย
สลัดกระเทียมอบ สูตรสำหรับ 2 คนรับประทาน
ส่วนผสม
เห็ดหอมแห้งขนาดใหญ่ แช่น้ำจนนุ่ม 5-6 ดอก
แครอตหั่นเป็นเส้น 1/4 ถ้วย
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร และพริกไทยดำบดใหม่ สำหรับปรุงรส
มะเขือเทศเชอร์รี่หั่นครึ่งลูกตามขวาง 10 ลูก
กระเทียมจีนแกะเปลือก 10 เม็ด
ผักชีลาว พอประมาณ
ผักสลัดสำหรับจัดเสิร์ฟ
น้ำสลัด
กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนชา
เกลือสมุทร 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 3/4 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำบดใหม่ 1/8 ช้อนชา
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1.นำกระเทียมใส่ถ้วย ราดน้ำมันมะกอก ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำบดใหม่ พอประมาณ นำเข้าเตาอบที่ 180 องศาเซลเซียส (หรือเตาอบขนมปังก็ได้) อบนาน 10-15 นาที จนกระเทียมสุก นำออกจากเตาอบ พักไว้
2.หั่นเห็ดหอมให้เป็นชิ้นพอคำ ใส่น้ำมันมะกอกลงในกระทะตั้งไฟกลางให้ร้อน ใส่เห็ดหอมลงผัดให้สุกและสีสวยตามด้วยแครอต ผัดให้เข้ากันเล็กน้อยโดยแครอตยังกรอบอยู่ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยพอประมาณ ปิดไฟ ตักใส่อ่างผสม พักไว้ให้คลายร้อน
3.เตรียมน้ำสลัดโดยผสมกระเทียม ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส เกลือ น้ำตาล น้ำมะนาว พริกไทย ในอ่างผสมใบเล็ก คนให้เข้ากันและน้ำตาลละลาย ค่อยๆ เทน้ำมันลงผสม ระหว่างเทตีน้ำสลัดให้เข้ากันเป็นจนมีลักษณะข้น ชิมรสให้ออกเปรี้ยวเค็มหวาน
4.ใส่มะเขือเทศ กระเทียม และผักชีลาว ลงในอ่างผสมเห็ดและแครอต ราดด้วยน้ำสลัดตามชอบ เคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จานที่รองด้วยผักสลัด เสิร์ฟ