คุยเพลินเรื่องกิน กับคู่หวานไฮโซ

คุยเพลินเรื่องกิน กับคู่หวานไฮโซ

คุยเพลินเรื่องกิน กับคู่หวานไฮโซ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

CELEBRITY GUIDE & RECIPE
คุยเพลินเรื่องกิน กับคู่หวานไฮโซ
"ปอ ศีกัญญา – กอล์ฟ ณ ชนก"
เรื่อง : กรองกาญน์ ชัยยะปะปัง ภาพ : พีระพัฒน์ พุ่มลำเจียก สไตล์ : ปรางรัตน์ ฤกษ์สง่า

ฉบับนี้พามาเข้าครัวพร้อมพูดคุยกับคู่รักคนดังจากแวดวงสังคมธุรกิจ "คุณปอ ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์" ทายาท Renaissance Bangkok Hotel Ratchaprasong สาวสวยผู้บริหารแบรนด์ Kipling ประเทศไทย
และคุณกอล์ฟ ณ ชนก รัตนทารส ทายาทโรงเรียนอำนวยศิลป์ นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของร้านอาหารชิงช้าชาลี เห็นเป็นหนุ่มสาวที่ไฮโซอย่างนี้ แต่เรื่องตระเวนหาของอร่อยกินคู่นี้เขาลุยมาก-ก-ก สวมชุดทักซีโด ควงคู่ราตรียาวไปลิ้มรสอาหารข้างทางก็เคยมาแล้ว

ทีมงานมีนัดกับคุณปอและคุณกอล์ฟณ ร้านชิงช้าชาลี สาขาสยามพารากอนที่หนุ่มกอล์ฟเป็นเจ้าของ “ร้านนี้นอกจากบริหารงานแล้วผมยังรับหน้าที่เป็นไพเรตเชฟ (Pirate Chef) ด้วยครับ” คุณกอล์ฟเกริ่นนำถึงหน้าที่ของตนเองให้ฟัง ซึ่งชื่อนั้นก็แปลกจนเราต้องถามถึงความหมายของ‘ไพเรตเชฟ’

“เดิมทีผมร่วมกับหุ้นส่วนเปิดร้านอาหารไทยในศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียมมาตั้งแต่ปี 1997 ต่อมาจึงขยายมาเปิดที่สยามพารากอน (และขยายร้านอาหารอื่น ๆ ในเครืออีกหลายแห่งในปัจจุบัน) ที่เข้ามาทำตรงนี้เพราะเป็นคนชอบกิน เวลาไปไหนไม่ว่าในหรือต่างประเทศผมชอบเสาะหาของอร่อย แล้วรวบรวมเอาเมนูเหล่านั้นมาเสิร์ฟในร้าน ทีมงานเลยลงความเห็นว่าผมน่าจะได้ชื่อว่าเป็นไพเรตเชฟ ซึ่งตรงกับนิสัยผมที่ใช้ชีวิตสบาย ๆ อยากไปไหนก็ไปตามใจเรา เดินทางโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อได้ลองสิ่งที่ดีที่สุด อย่างเรื่องอาหารในร้านชิงช้าชาลี ผมก็ได้เมนูอร่อยมาจากท่วั ประเทศ ดังนั้นภายในร้านจึงมีอาหารไทยทุกภาค รวมถึงสตรีทฟู้ดแบบไทย ๆ”

คู่รักนักชิม
ไม่ใช่แค่คุณกอล์ฟที่ชอบไปชิมอาหารตามสถานที่ต่าง ๆ ศรีภรรยาคนสวยอย่างคุณปอก็หลงใหลเรื่องการกินไม่แพ้กัน “ปอกับคุณกอล์ฟชอบหาของอร่อยกินด้วยกันท้งั คู่ช่วยกันคิดตลอดว่าวันนี้จะไปกินอะไรที่ไหนเวลาได้วางแผนไปกินอะไรที่แปลกใหม่แล้วมีความสุข แต่ถ้าร้านไหนพลาด คือไปกินแล้วไม่อร่อย ก็จะมองหน้ากันแล้วหัวเราะ เอิ่ม...เดี๋ยวกลับไปต้มมาม่ากินกันดีกว่า (หัวเราะ) เราจะไม่โทษกัน ไม่หัวเสียใส่กัน”

ประสบการณ์กินสุดเหวี่ยง
“พื้นฐานปอเป็นคนชอบลองของอร่อยอยู่แล้ว พอมาเจอกับคุณกอล์ฟจึงลงตัวเราไปกินอาหารด้วยกันได้ทุกที่ ริมทางนั่งตุ๊ก ๆ เรือข้ามฟาก ไปได้หมด แต่ปอขอแต่งตัวลุยหน่อยนะ ไม่ใช่ใส่เดรสยาวกับส้นสูง 5 นิ้ว คงไม่ไหว (หัวเราะ) แต่ก็เคยมีที่แต่งตัวสวยแล้วไปกินริมทางนะคะ เราไปงานกาล่าดินเนอร์ด้วยกัน คุณกอล์ฟใส่ชุดทักซีโด ปอสวมชุดราตรียาวสีแดงใส่เครื่องเพชรระยับเลย แต่กินในงานไม่อิ่มเพราะมีอาหารแค่ 3 คอร์ส คุณกอล์ฟถามปอไปกินหูฉลามกันไหม เราบอกว่าได้ ปอก็ถอดเครื่องเพชรเก็บในรถ แล้วลากชุดราตรีไปนั่งกินหูฉลามข้างถนนเลย หรืออีกครั้งเราไปร้านอาหารฝรั่งเศสกันก่อน แล้วคุณกอล์ฟเกิดอยากกินร้านก๋วยเตี๋ยวห่านที่สะพานเหลืองแต่ปอยังอยากดื่มแชมเปญอยู่ เราก็ขอเอาแชมเปญพร้อมกับยืมแก้วจากร้านนี้ไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวห่านกันต่อ” คุณปอเล่าอย่างอารมณ์ดีถึงวีรกรรมการกินของเธอกับสามี

เติมรักด้วยมื้ออาหาร
ทั้งคู่ยืนยันกับเราว่า การได้รับประทานอาหารร่วมกันช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่น แต่มีข้อแม้ว่า การออกไปชิมของอร่อยด้วยกันนั้นต้องมาจากความเต็มใจ “เราสองคนกินข้าวด้วยกันทุกวัน มื้อเช้ากลางวันอาจไม่ได้กินพร้อมกันบ้าง แต่มื้อเย็นกินด้วยกันตลอด ถ้าถามว่าสำคัญไหมที่สามีภรรยาต้องกินข้าวด้วยกัน ปอว่าสำคัญ แต่ควรทำโดยไม่มีคำว่า ‘ต้อง’ เพราะเมื่อไรที่เราสร้างเป็นกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับว่าต้องมากินข้าวด้วยกันทุกวันนะ มันคือการถูกบังคับ ไม่ได้ออกมาจากใจ กินไปก็ไม่อร่อย ปอเคยได้ยินเพื่อนบางคนพูดว่า วันนี้ฉันไปกินข้าวกับเธอไม่ได้แล้วนะ ต้องไปกับสามีแล้วทำหน้าเซ็ง ๆ ไม่อยากให้คู่เราต้องรู้สึกแบบนั้น”

2 เมนูความหมายหวาน ๆ
กล่าวจบไพเรตเชฟจึงควงภรรยาคนสวยลงมือปรุงอาหารให้ทีมงานได้ชิม “เมนูแรกคือ ปลาโฉมงาม เป็นเมนูไทยโบราณที่ผมว่าเหมาะกับคู่เราเพราะภรรยาผมสวย (หัวเราะ) อีกเมนูคือ ยำดอกกระเจี๊ยบ อันนี้ก็สีสวยโรแมนติกดี เป็นเมนูที่ผมกับคุณปอชอบรับประทานด้วย นำสูตรมาฝากแล้วอยากให้ลองปรุงกันดูครับ”

เก็บตกเรื่องกินสุดสวีท
สิ่งหนึ่งที่คุณกอล์ฟห่วงคุณปอมากคือการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลาและชอบอาหารรสจัด “ผมห่วงที่เขาชอบรับประทานเผ็ด ต้องเตือนตลอดว่าไม่ดี เพราะเขาเป็นโรคกระเพาะซึ่งเกิดจากกินอาหารไม่เป็นเวลา เวลาผมอยู่ด้วยก็จะกินเป็นเวลา แต่ถ้าผมไม่อยู่หรือแยกไปทำงาน เขาจะกินข้าวกลางวันบ่ายสามเลย” ประโยคนี้คุณกอล์ฟกล่าวพร้อมหันไปทำหน้าดุ (แต่อมยิ้ม) กับศรีภรรยาคุณปอบอกว่าเธอเป็นคนที่กินอาหารเยอะมาก-ก-ก แต่สาเหตุที่ไม่อ้วนอาจเพราะเธอไม่ชอบกินขนมหวานและของกินเล่นจุกจิกด้วยความที่คุณกอล์ฟเป็นเพื่อนรุ่นน้องของคุณแม่ แถมรู้จักกันมาตั้งแต่คุณปอยังเด็ก เธอจึงติดปากเรียกคุณกอล์ฟว่า “น้ากอล์ฟ” มาจนถึงปัจจุบันเวลาอยู่บ้านคุณกอล์ฟมักปรุงเมนูง่าย ๆ อย่างสเต๊กให้ภรรยารับประทาน

ส่วนคุณปอชอบปรุงเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรายการทำอาหารในทีวี “ปอไม่ค่อยทำอาหาร จะทำบ้างเวลาเปิดดูช่องฟู้ดเน็ตเวิร์ค แล้วก็จะบอกว่า อุ๊ย! น้า ๆ เจมี่ โอลิเวอร์ ทำได้ ทำไมหนูจะทำไม่ได้” ครั้งหนึ่งคุณปอเคยปรุงเมนูเด็ดอย่างเบิฟบูร์กียง (Boeuf Bourguignon) แล้วเกิดเรื่องเล่าที่เธอยังขำทุกครั้งที่นึกถึง “เรื่องเบิฟ บูร์กียง เคยทำคุณกอล์ฟสยองมาแล้ว เพราะในสูตรเขาให้ใส่ไวน์ 3-4 ขวด แต่ปอใส่หมดขวดเลยเพราะคิดว่าน่าจะหอมดี ซึ่งไวน์แดงที่ปอใช้ก็บอกคุณกอล์ฟแล้วก่อนเอาไปปรุง ทีนี้ปอก็ไม่รู้ขวดไหนเป็นขวดไหนเห็นเป็นไวน์แดงก็หยิบไป ปรากฏขวดนั้นราคาเป็นหมื่น คุณกอล์ฟเลยบอกว่าวันไหนจะทำ
เมนูนี้อีกบอกก่อนนะจ๊ะจะได้เอาไวนืไปซ่อน”


ปลาโฉมงาม ผมว่าเหมาะกับคู่เรา เพราะภรรยาผมสวย อีกเมนูคือ ยำผลกระเจี๊ยบ อันนี้ก็สีสวย โรแมนติกดี เป็นเมนูที่ผมกับคุณปอชอบรับประทานด้วย


ยำดอกกระเจี๊ยบ
ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่) เตรียม 10 นาที ปรุง 10 นาที
• กุ้งสดเด็ดหัวแกะเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก 3 ตัว
• ดอกกระเจี๊ยบแดงสด 15 ดอก
• หอมหัวใหญ่ซอยละเอียด 1-4 ถ้วย
• กระเทียมซอยบาง 1-4 ถ้วย
• พริกชี้ฟ้าหั่นฝอย 1-4 ถ้วย
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• น้ำมะกรูด 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาวและเกลือ อย่างละเล็กน้อย

วิธีทำ

1. นำกุ้งสดคั้นเข้ากับน้ำมะนาวและเกลือ พักไว้
2. แกะกลีบดอกกระเจี๊ยบออกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ลวกในน้ำเดือดให้พอสุก
3. คลุกเปลือกกระเจี๊ยบลวกหอมหัวใหญ่ กระเทียม และกุ้งเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำตาลทราย น้ำมะกรูด จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ


ปลาโฉมงาม
ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่) เตรียม 10 นาที ปรุง 20 นาที
• เนื้อปลาเก๋า
• หั่นชิ้นพอคำ 300 กรัม
• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• ขิงอ่อนซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ต้นหอมหั่นเป็นท่อน 1-4 ถ้วย
• พริกชี้ฟ้าแดงซอยเป็นเส้นบาง 1 ช้อนโต๊ะ
• เต้าเจี้ยว 1-2 ถ้วย
• น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 1 ช้อนชา
• น้ำสต๊อก 1-2 ถ้วย
• หอมเจียว 1-4 ถ้วย
• แป้งข้าวโพด 1-2 ถ้วย
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกแห้งทอด ต้นหอม และผักชีสำหรับโรยหน้า
• น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1. คลุกปลาเข้ากับแป้งข้าวโพดให้ทั่ว ทอดในน้ำมันร้อนจัดพอเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้
2. ทำซอสโดยตั้งน้ำมันในกระทะพอร้อน ใส่กระเทียมผัดจนหอมตามด้วยขิง จากนั้นใส่เต้าเจี้ยวแล้วผัดต่อสักครู่ ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำส้มสายชู น้ำตาลปี๊บ น้ำปลาใส่น้ำสต๊อกแล้วเคี่ยวจนซอสข้น ปิดไฟใส่ต้นหอมและพริกชี้ฟ้าแดง
3. จัดเสิร์ฟโดยจัดปลาทอดลงจาน โรยหอมเจียว พริกแห้งทอดต้นหอม ผักชี เสิร์ฟเคียงกับซอส

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook