มุมดราม่าของ "มาดามมด"
ตั้งแต่ 4 ปีก่อนตอนปรากฏตัวในรายการ "ภาษาพลาซ่า" ความสวย (อย่างแตกต่าง) ที่จัดเต็มตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า บวกกับบุคลิก-ความสามารถเฉพาะตัวสุดฮาทำให้ชื่อ มาดามมด เป็นที่รู้จักติดอันดับ "คนดัง" ในเวลาอันรวดเร็ว
แถมตอนนี้ยังได้คว้าบทนักแสดงนำในซีรีส์ "มาลีเพื่อนรัก..พลังพิสดาร" ที่เตรียมออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 22.00 น. ทางช่องจีทีเอช ออนแอร์ และจีเอ็มเอ็ม 25 เริ่ม 25 ก.ค.นี้
"ชีวิตมดเริ่มจากเรียนจบคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ จากนั้นมาก็เป็นครูสอนคณิตศาสตร์ จนพี่ๆ ที่ จีทีเอช ให้โอกาส ได้มาทำรายการ และจากรายการ "ภาษาพลาซ่า" นี้ทำให้มีคนรู้จักมดมากขึ้น ถือว่าเป็นก้าวแรกที่ทำให้เรามีโอกาสได้ทำงานในก้าวต่อๆ ไป" เธอเล่าจุดเริ่มต้น
ก่อนบอกถึงผลงานล่าสุด "มดต้องปรับตัวในเรื่องของการแสดงเยอะมาก"
"ตั้งแต่เวิร์กช็อป เพราะมดต้องดีไซน์คาแร็กเตอร์ตัวละครว่าเราควรจะเล่นออกมาประมาณไหน พูดเลยว่ามดเครียดตั้งแต่ตอนนั้น"
ด้วย "ตัวตนของมดจริงๆ เป็นคนขี้อายนะคะ" ต่างจากเวลาที่ได้แต่งตัวหรือแสดงก็จะใส่เต็มที่ด้วยความสนุก
"อย่างซีรีส์มาลีฯ วันแรกมดอาจจะเครียด กดดัน ความเครียดที่น่ากลัวที่สุดสำหรับมดก็คือความคาดหวังที่ต้องการเห็นความตลก ความฮาจากเรา
"แต่พอเราได้เวิร์กช็อป ได้คิดอะไรใหม่ๆ ให้กับตัวละคร ได้เจอน้องๆ เพื่อนๆ นักแสดง มาร์ช (จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล), โอบ (โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์), กุ๊กไก่ (ภาวดี คุ้มโชคไพศาล) ทำให้เรารีแลกซ์ขึ้น จนทำให้รู้สึกว่ายิ่งเครียด ยิ่งคิดไม่ออก พอเราปล่อยสบายๆ สุดท้ายมันก็ออกมาเป็นการผสมผสานระหว่างมาดามมดกับคาแร็กเตอร์มาลีได้สำเร็จ
"ซึ่งเรื่องนี้มาลีเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากแอฟริกาที่มีหลายชนเผ่า มีหลายสำเนียง ต้องมีการดีไซน์เสียง สุดท้ายเราก็เลือกเป็นแฟนตาซีไปเลย สำเนียงเป็นการดีไซน์ของเราเอง เลยทำให้ไม่กดดัน"
เธอยังบอกถึงงานใหม่ด้วยว่า "การแสดงทำให้มดได้พัฒนาศักยภาพของตัวเองเยอะมาก"
"โดยเฉพาะเรื่องนี้ที่ทำให้เรียนรู้ทักษะการแสดง และยังเรียนรู้เรื่องอื่นๆ เรื่องการปรับตัว ความอดทน และที่สำคัญเราต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ เพราะความเหนื่อยมันพร้อมที่จะทำให้เราหลุดจากทุกสิ่ง รู้เลยว่าอาชีพนักแสดงไม่ง่ายเลยจริงๆ ฉากที่เห็นในละครเพียงไม่กี่นาที แต่จริงๆ ถ่ายทำกันเป็นชั่วโมงๆ
"ชีวิตช่วงนี้มดยอมรับเลยว่ามันทั้งหนักและเหนื่อยมากจริงๆ" มาดามมดโอดเบาๆ
ส่วนหนึ่งอาจเพราะปัญหาสุขภาพมีอาการปวดหัว ปวดคอจากการแต่งตัวจัดหนักจัดเต็มซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเวลาแสดง
"เพราะพอถึงเวลาผู้กำกับนับ 5 4 3 2 มดก็สามารถที่จะเป็นตัวนั้นๆ ได้ เรียกว่าองค์จะลงเวลาทรงเครื่อง ได้แต่งหน้า ทำผม เราก็ไม่เขิน ไม่อาย เราสามารถเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ต่างๆ ได้ตามชุดที่เราใส่"
ทว่า "มดเริ่มมีปัญหาสุขภาพ เริ่มปวดหัว ปวดคอ เลยรู้สึกว่าเราแต่งเยอะไปแล้วนะ อาจถึงเวลาต้องลดทอนการแต่งตัว แต่งหน้า ทำผมลงมาบ้าง"
และถึงจะเหนื่อยดั่งว่า แต่เจ้าตัวรีบบอก "มดไม่เคยท้อค่ะ"
"ซีรีส์มาลีฯ สอนให้มดรู้ว่าการทำงานที่หนักเราต้องปรับอะไรหลายอย่าง ฉะนั้นบางวันที่เรารู้สึกเหนื่อยจนไม่มีพลังแล้ว เพราะเวลามดแสดงเราจะทุ่มมันลงไปจนสุดพลังเลย พอพลังหมด มดจะนึกถึงผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส นึกถึงคนดู พอนึกถึงคนดูที่ได้ดูการแสดงของเรา รวมถึงมองไปเห็นพี่ๆ
ทีมงานอื่นๆ ทีมช่างไฟ เขาเหนื่อยกว่าเรา สิ่งเหล่านี้แหละค่ะ ที่สร้างพลังใจให้มดมีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง"
ขณะเดียวกัน "มดจะหาวิธีเติมพลังให้กับตัวเอง
"กำลังใจคือสิ่งที่คอยเติมเต็มให้กับตัวเราเองเสมอ"
เช่นเดียวกับพลังใจจาก"แฟนคลับ" ซึ่ง "เวลาที่เราเหนื่อยมากๆ เราจะรู้สึกขอแค่มีใครอยู่ข้างๆ คอยสนับสนุนเป็นกำลังใจให้เรา
"กำลังใจเหล่านั้นที่ทำให้มดรู้สึกยิ้ม หัวเราะ และมีพลังฮึดขึ้นมาได้ทุกครั้ง"
เพื่อมาสร้างรอยยิ้มให้สมกับเป็น "มาดามมด"