สมัครมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2551 กว่า 300 คน

หลังจากที่กองประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส เปิดรับสมัครสาวงามอายุระหว่าง 18-25 ปี เพื่อเข้าร่วมการประกวดชิงมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2551 ที่ลานเอเทรียม ชั้น 2 ของคิงเพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ ถนนรางน้ำ กทม. มาตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. และปิดรับสมัครในเวลา 20.00 น. วันที่ 27 เม.ย. รวมเวลารับสมัคร 3 วันนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของการเปิดรับสมัครผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สวันสุดท้าย ปรากฏว่าตลอดวันที่ 27 เม.ย. มีสาวงามที่เดินทางมาพร้อมพ่อแม่ หรือไม่ก็พี่เลี้ยง เข้ามายื่นใบสมัครกับกองประกวด กันอย่างคึกคัก โดยแค่ครึ่งวันเช้าก็มีผู้สมัครรวมแล้วกว่า 200 คน แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า สาวส่วนใหญ่ที่มาในวันสุดท้ายนี้ คงแต่งกายในชุดสบายๆ ไม่ได้แต่งชุดเครื่องแบบนักศึกษามากรอกใบสมัครเหมือนเมื่อสองวันแรก ขณะเดียวกันก็มีสาวงามรายหนึ่งลงทุนสร้างสีสันด้วยการแต่งกายสไตล์ย้อนยุค นุ่งผ้าไทยมิดชิดมายื่นใบสมัคร ซึ่งก็เรียกความสนใจจากสื่อที่ไปรอทำข่าวได้ไม่น้อย สาวน้อยคนดังกล่าวเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ชื่อ น้องน้ำผึ้ง น.ส.ณิชาภา นิ่มละมัย อายุ 19 ปี เคยเข้าประกวดความงามจนได้ตำแหน่งเป็นประกันมาแล้วหลายรางวัล อาทิ รองมิสมอเตอร์โชว์ 2550 นางนพมาศสมุทรปราการ 2550 รวมถึงเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าเครื่องประทินผิวยี่ห้อดัง เมื่อปี 2549 ทั้งนี้ น้องน้ำผึ้ง ยังกล่าวถึงจุดประสงค์ที่เข้ามายื่นใบสมัครประกวดเวทีระดับชาติเวทีนี้ก็เพราะมาจากครอบครัวยากจน อยู่บ้านในซอยอุดมสุข หลังคาบ้านก็รั่ว และอนาคตน่าจะลำบากเพราะกำลังโดนไล่ที่ ขณะที่พ่อเป็นแค่ช่างเชื่อมให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง แต่ขณะนี้กำลังป่วยเป็นเกาต์ เดินเหินไม่สะดวก ส่วนแม่เป็นแค่แม่บ้านธรรมดา นอกจากนี้ ตนก็เพิ่งสอบติดที่ ม.ราชภัฏสวนสุนันทา คณะนิเทศศาสตร์ ดังนั้นจึงอยากเปลี่ยนแปลงชีวิต และหาเงินเรียนหนังสือกับเงินมารักษาพ่อ สำหรับผู้สมัครรายอื่นๆที่เข้าข่ายเรียกความสนใจจากกองประกวดได้ชนิดไม่น้อยหน้าใคร มีอยู่หลายคน อาทิ น้องกิ๊ฟท์ น.ส.วรรณธณี เบียดขุนทด อายุ 18 ปี นักกีฬาบาสเกตบอลของจังหวัดนครราชสีมา และเคยผ่านเวทีประกวดไทยซูเปอร์โมเดล โดยคว้าตำแหน่งอิดิเตอร์ ช้อยส์ มาครอง คนต่อมาได้แก่ น้องเก๋ น.ส.อรณ์ชชา ไกรสมสุด อายุ 18 ปี นร. ม.6 จากโรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม ที่มาในชุดสาวฮิปปี้ น้องไนซ์ น.ส.สิรินทรา วีระพงศ์ อาย ปี นิสิต ม.เกษตรศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้า ชั้นปีที่ 4 ที่มีตำแหน่งธิดาผ้าไหมปักธงชัย เมื่อปี 2548 เป็นหลักประกันความงาม ตามด้วย น้องบี น.ส.ซาบีนา เชเซอร์ อายุ 19 ปี สาวลูกครึ่ง พ่อเยอรมัน แม่ไทย ทำอาชีพมัคคุเทศก์อยู่ที่ จ.ภูเก็ต ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับ ปวช. ม.อาชีวะภูเก็ต และเคยเข้าประกวดเวทีคนพันธุ์อามาแล้ว จากนั้นในช่วงเย็นบรรยากาศการรับสมัครยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น เมื่อมีสาวไทยผิวสีน้ำผึ้งเดินเข้ามาขอกรอกใบสมัคร แต่เมื่อทางกองประกวดขอเอกสารประกอบการสมัคร ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน สาวคนดังกล่าวกลับยื่นหนังสือเดินทางให้แทน ซึ่งเมื่อเปิดดูก็พบว่าชื่อ น.ส.ประภัสสรย์ จงกล สัญชาติอเมริกัน และในหนังสือเดินทางมีการประทับตราเดินทางเข้าออกประเทศในย่านเอเชียมาแล้วหลายประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างรวบรวมเอกสารการสมัครอยู่ น.ส.ประภัสสรย์ จงกล ที่มีชื่อเล่นว่า แจน ได้ เปิดเผยรายละเอียดส่วนตัวแบบกระท่อนกระแท่น เนื่องจากพูดไทยไม่คล่องว่า ปัจจุบัน อายุ 21 ปี พ่อแม่เป็นคนไทยที่เปลี่ยนสัญชาติไปเป็นอเมริกันแล้ว และตัวเองก็เกิดที่วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เคยเข้าประกวดความงามจนได้ตำแหน่งมิสวอชิงตัน เมื่อปี 2548 ปัจจุบันเดินทางมาไทยเพื่อฝึกงานด้านสปาให้กับบริษัทในเครือเซ็นทรัลพัฒนา และที่เดินทางไปๆมาๆหลายประเทศก็เพื่อศึกษาดูงานนำไปประกอบธุรกิจส่วนตัวในอเมริกา น้องแจนกล่าวอีกว่า อยากมาประกวดเพื่อหาประสบการณ์ และหากได้เก็บตัว 1 เดือน ก็จะได้เที่ยวเมืองไทยได้ทั่ว และได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับไป นอกจากนี้ หากสามารถเข้าไปถึงรอบ 5 คนสุดท้าย ก็จะได้อยู่เมืองไทยถึง 1 ปี ซึ่งใจจริงก็อยากอยู่เมืองไทยมากกว่าที่จะกลับไปอเมริกา อย่างไรก็ดี ระหว่างนั้นได้มีนางอรพินธ์ จันจารุ ที่ระบุว่าเป็นแม่ของน้องแจนเข้ามาหา เพื่อมาตามลูกสาวกลับอเมริกา แต่น้องแจนยืนยันอยากหาประสบการณ์ ทำให้นางอรพินธ์ต้องเซ็นรับรองว่า น้องแจนอยู่เมืองไทยมาเกิน 6 เดือน ตามระเบียบของการสมัคร นอกจากนี้ ในใบสมัคร น้องแจนยังระบุในช่องสัญชาติว่า ไทย พร้อมกับบอกกับกรรมการผู้รับสมัครว่า ได้ยื่นเรื่องขอโอนสัญชาติเป็นไทยแล้ว และจะได้เอกสารการโอนสัญชาติก่อนวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่จะมีการคัดตัวให้เหลือผู้เข้าประกวดเพียง 44 คน และจะนำเอกสารมาให้กรรมการทันแน่นอน ด้านนางอรพินธ์กล่าวว่า ใจจริงอยากมาพาตัวลูกสาวกลับไปทำงานที่อเมริกา แต่เมื่อเห็นว่าลูกอยากเข้าประกวด เพราะบริษัทที่ทำงานส่งเข้าประกวด ก็เลยเห็นว่าลูกโตแล้ว บังคับกันไม่ได้ คงต้องตามใจ แต่ถ้าผิดหวังจากการประกวดก็คงต้องกลับไปวอชิงตัน ต่อมาในเวลา 18.45 น. ขณะที่บรรยากาศการรับสมัครเริ่มเบาบางลง ก็มีสาวงามชื่อ น้องต้นหลิว-น.ส.ศศิภา ทองพานิชย์ อายุ 19 ปี นศ.ม.ราชมงคลตะวันออก คณะบริหารการตลาด ปี 2 เข้ามายื่นใบสมัคร แต่ขณะรอให้กองประกวดถ่ายภาพทำประวัติอยู่นั้น ก็มีโทรศัพท์เข้ามา ซึ่งหลัง น้องหลิวรับสายแล้วก็ปล่อยโฮร่ำไห้ออกมา สร้างความตื่นตะลึงให้กับกรรมการและสื่อมวลชนที่ไปรอทำข่าว เข้าไปปลอบใจและสอบถามได้ความว่า เดินทางมาจากจ.ลพบุรี ตั้งใจมาสมัครเพื่อฉลองให้กับตัวเองที่อายุครบ 19 ปี พอดีในวันที่ 27 เม.ย. แต่เมื่อครู่พี่ชายได้โทร.มาบอกว่า คุณยายที่เลี้ยงดูตนเองมา ชื่อคุณยายสุธี เหล็กเพชร อายุ 72 ปี และป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ได้เส้นเลือดในสมองแตก เสียชีวิตแล้วที่ รพ.ในตัวจังหวัดลพบุรี ซึ่งคงต้องรีบเดินทางกลับลพบุรีไปร่วมงานศพคุณยาย ที่ก็เกิดในวันที่ 27 เม.ย.เหมือนกัน กระทั่งเวลา 20.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดการรับสมัคร เจ้าหน้าที่กองประกวดฯ เปิดเผยจำนวนผู้เข้าสมัครชิงมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2551 ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 318 คน แยกเป็นสมัครใน กทม. 265 คน จากต่างจังหวัด 53 คน ซึ่งถือว่ามากกว่าเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา จากนี้ก็จะมีการคัดใบสมัคร และจะมีการคัดเลือกให้เหลือแค่ 44 คน ในวันที่ 9 พ.ค. เพื่อเข้าสู่การทำกิจกรรมเก็บตัว ซึ่งปีนี้จะทำกันใน กทม.ไม่มีการออกไปเก็บตัวที่ต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังจะไม่มีการเดินโชว์ชุดว่ายน้ำอีกด้วย จากนั้นจะขึ้นเวทีตัดสินรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ณ โรงละครอักษรา โรงแรมพูลแมน