หมอลำสาวเน็ตไอดอล "แอน อรณี" กับเส้นทางสู่วงการหมอลำดังแห่งดินแดนที่ราบสูง
หมอลำสาวเน็ตไอดอล "แอน อรณี" กับเส้นทางสู่วงการหมอลำดังแห่งดินแดนที่ราบสูง
เด็กน้อยตาบ๊องแบ๊วที่เติบใหญ่มากับเสียงเพลง และเสียงดนตรี เวลานี้เธอกำลังถูกยกให้เป็นนางเอกหมอลำฮอตฮิตที่สุดคนหนึ่งของภาคอีสาน
"แอน อรณี" คือชื่อของเธอในเวลานี้ แต่ใครที่ติดตามผลงานของสาวน้อยคนนี้ตั้งแต่ต้น เธอมีชื่อในวงการมาหลายชื่อ
ผลงานโดดเด่นสมัยศึกษาอยู่ที่โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม อ.กระนวน จ.ขอนแก่น บนเวทีใหญ่และดังที่สุดในช่วงนั้นอย่าง "ชิงช้าสวรรค์" ปีที่ 5 ทางช่อง 9
ทำให้ชื่อเสียงของเธอเริ่มเป็นที่รู้จักมาก่อนที่จะเป็นใบเบิกทางให้สาวน้อยจากเมืองหมอแคนคนนี้ก้าวเข้าสู่วงการหมอลำแบบเต็มตัว
จากจุดเริ่มต้นในวันก้าวเข้าสู่วง "ประถมบันเทิงศิลป์" วงดนตรีหมอลำชื่อดังของภาคอีสาน จากการมอบโอกาสให้ของ "สันติ บุญถม" หรือ "ดาบ ส." เจ้าของวงฯ
หลังจากนั้นไม่กี่ปี "แอน อรณี" ได้ย้ายไปยังบ้านหลังใหม่ กับ วง "ศิลปินภูไท" ภายใต้การดูแลของ "วีระพงษ์ วงศ์ศิลป์" นักร้องดังทางภาคอีสาน พร้อมกับเปลี่ยนมาใช้ชื่อใหม่ว่า "ฝ้าย ณิชนันทน์"
ช่วงเวลานี้ทำให้ชื่อของเธอโด่งดังขึ้นมา เดินไปไหนมาไหน มีคนรู้จักมากขึ้น แถมยังได้รับบทเป็นนางเอกตัวหลักของวงอีกด้วย
สิ่งหนึ่งนอกเหนือจากน้ำเสียงของเธอ คือบุคลิกหน้าตาน่ารัก และจิ้มลิ้ม จนทำให้มีแฟนคลับ รวมถึงแฟนหมอลำพันธุ์แท้ ตามให้กำลังใจทุกครั้งที่เดินสายออกแสดงไปทั่วภาคอีสาน
ช่วงต้นปี 2558 ที่ผ่านมา เธอตัดสินใจย้ายกลับมายังบ้านหลังเก่าอย่าง "ประถมบันเทิงศิลป์" อีกครั้ง และ ยังคงได้รับความนิยม
เส้นทางสายนักร้องของเด็กหญิงบ้านนอกคนหนึ่งที่ตั้งหน้าตั้งตาหาโอกาส และเพียรสร้างมันขึ้นมาให้ตัวเองพุ่งชนกับความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองรักคือสิ่งที่เธอภูมิใจ
วันนี้ Sanook! Women ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอ ถึงเรื่องราวมากมายในชีวิต ซึ่งน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายคน ที่อยากเป็นดั่งหมอลำเน็ตไอดอล "แอน อรณี"
จุดเริ่มต้นของการเป็นศิลปินเริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร
ตั้งแต่จำความได้แอนก็ได้ยินเสียงเพลงเลยค่ะ สมัยตอนที่ยังเด็ก คุณปู่มีวงหมอลำค่ะ คุณพ่อเป็นนักดนตรี(เล่นเบส) ส่วนแม่ร้องเพลงเพราะกว่าแอนอีก ตอนเด็กก็ไปกับวงของปู่ตลอด แต่ยังเด็กค่ะเลยไม่ได้ขึ้นเวที พอโตขึ้นมาหน่อย คุณปู่ คุณย่าก็จับหัดร้อง หัดรำ หัดเต้นเลยค่ะ
วันหนึ่งโรงเรียนจัดประกวดร้องเพลงประมาณว่าเป็นทักษะทางวิชาการ ค่าสมัครคนละ 10 บาท ชนะเลิศได้ 100 บาท แอนก็เลยลองสมัครดู มีคนมาสมัครเยอะนะคะ ตอนนั้นไม่ได้หวังอะไร ทำไปเพราะว่าชอบ แต่ปรากฏว่าวันนั้นแอนชนะค่ะ ตั้งแต่วันนั้นมา คนทั้งโรงเรียนก็เลยรู้จัก
จากนั้นแอนเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ โดยที่แอนเองไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เรียนที่นี่
แต่เพราะอาจารย์ผู้ควบคุมวงดนตรีลูกทุ่งรู้ว่าแอนร้องเพลงได้ จึงให้โควตาเข้าเรียนที่นี่ค่ะ ชีวิต ม.ปลายก็เป็นไปอย่างปกติ มีออกงานกับวงดนตรีเรื่อยๆ ประกวดตลอดค่ะแต่ไม่เคยเข้ารอบซักที (555)
แต่ก็ไม่ยอมแพ้นะคะ มีโครงการประกวด อบรมเกี่ยวกับวงดนตรีที่ไหน อาจารย์พาไปหมด เพราะอยากให้แอนได้ประสบการณ์
จนมาถึงช่วงจะขึ้น ม.6 (ช่วงปี 2553-2554) ทางโรงเรียน และผู้อำนวยการโรงเรียน ท่านเห็นความตั้งใจของวงดนตรีลูกทุ่งที่ซ้อมตลอดหลังเลิกเรียน ทั้งที่มีงานและไม่มีงานก็ยังซ้อมกันเหมือนเดิม
ท่านเลยให้โอกาสไปร่วมแข่งขันวงดนตรีลูกทุ่งชิงช้าสวรรค์ปีที่ 5 (ช่อง9) ซึ่งในรอบแรกเพลงที่ใช้แข่งคือ พระบารมีปกเกล้า ในรอบนี้ผลคือ ชนะค่ะ
วงของเราพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย มีแฟนคลับ มีคนรู้จักมากขึ้น ที่สำคัญมีงานนอกเพิ่มขึ้น และได้ค่าจ้างของวงเพิ่มขึ้นด้วย อันนี้แอนดีใจมาก
ส่วนคนอื่น ก็เริ่มรู้จักแอนมากขึ้น มาถึงรอบที่สอง เพลงที่นำไปประกวดคือ "คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงบ้าน" ค่ะ
ในรอบนี้ตื่นเต้นกว่ารอบก่อน เพราะกลัวจะทำไม่ได้เหมือนรอบก่อน เพราะมีเวลาซ้อมน้อย รอบนี้ทางวงตัดสินใจนำเพลงที่เป็นลูกทุ่งอีสานมาประกวดด้วย ซึ่งผลออกมาคือไม่ได้ไปต่อค่ะ ตอนนั้นทุกคนเสียใจมาก
หลังจากนั้นไม่นาน แอนได้รับโอกาสจากพี่ "ภู ศรีวิไล" พี่ชายที่เป็นทุกๆ อย่างของแอนเลยค่ะ พี่ภูได้พาแอนไปรับโอกาสดีๆ จากนายห้างค่ายเพลง "นายพลเอ็นเตอร์เทนเมนท์"
ซึ่งก็ได้ทำเพลงจนเสร็จ 1 อัลบั้ม คืออัลบั้มผู้หญิงคนนี้มีดีที่รักจริงค่ะ อัลบั้มนี้โปรโมทเยอะเหมือนกันค่ะ เกือบๆ ทุกจังหวัดของภาคอีสาน
มีเพลงที่หลายๆ คนอาจคุ้นหูบ้าง คือเพลง "โทรดู๋หลายอ้ายอย่าว่า" หลายคนรู้จัก แต่ก็ยังไม่ดังนะคะ
ในช่วงที่เป็นศิลปินของค่ายนายพลฯ ก็ได้รับโอกาสจาก "ครูเทียม ชิงช้าสวรรค์" ด้วยค่ะ เวลามีโครงการหรือคอนเสิร์ตเกี่ยวกับการประกวดวงดนตรี ครูก็จะเรียกให้ไปเสมอ พร้อมๆ กับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่เป็นนักร้องนำของวงต่างๆ ที่เคยประกวดชิงช้าสวรรค์
ที่เล่ามาทั้งหมดเหมือนจะก้าวไปอีกขั้น แต่ไม่ใช่เลยค่ะ ก้าวมาก็จริงแต่ก็ต้องหยุดเดินเพราะมีปัญหาครอบครัวเข้ามาเลยต้องหยุดทุกๆ อย่างค่ะ
การเข้าสู่วงการนักร้องในวงหมอลำได้อย่างไร
ช่วงที่เรียนอยู่ชั้น ม.5 (ศรีกระนวนวิทยาคม) แอนมีโอกาสไปประกวดร้องเพลงที่ จ.หนองบัวลำภู วันนั้นเป็นตัวแทนของจังหวัดขอนแก่นไปประกวดกับหลายๆ จังหวัด
แอนได้รางวัลชนะเลิศของการขับร้องเพลงไทยลูกทุ่ง และทางกระทรวงวัฒนธรรม จังหวัดขอนแก่น ได้มอบรางวัล " เยาวชนต้นแบบของการขับร้องเพลงไทยลูกทุ่ง 2553" ให้แอนด้วย
ซึ่งเป็นรางวัลที่ภาคภูมิใจเป็นอย่างมากค่ะ และงานนี้แหล่ะค่ะที่ทำให้ พ่อสันติ (ดาบ ส.) เจ้าของวงประถมบันเทิงศิลป์มาชักชวนให้แอนไปร่วมวงด้วย จึงมีโอกาสไปฝึกร้อง ฝึกลำ ที่วงประถมบันเทิงศิลป์ และมีคนรู้จักแอนในด้านหมอลำตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
ในช่วงปี 2555 ถึงช่วงต้นปี 2558 มีโอกาสได้ร่วมงานกับวงศิลปินภูไท (วีระพงษ์ วงศ์ศิลป์) และได้ใช้ชื่อ "ฝ้าย ณิชนันทน์" เป็นชื่อในวงการช่วงนั้น
ก่อนที่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ได้รับโอกาสจาก พ่อ ดาบ ส. อีกครั้ง ทำให้ได้กลับมาร่วมงานที่เปรียบเสมือนบ้านหลังเก่าที่เคยใช้ชีวิตอยู่อีกครั้ง และได้กลับมาใช้ชื่อ "แอน อรณี" เหมือนเดิม
ชีวิตตลอดระยะเวลาเดินสายเล่นหมอลำเป็นอย่างไรบ้าง
ชีวิตหมอลำเป็นอะไรที่ท้าทาย และลำบากมาก สิ่งที่ต้องเจอในแต่ละวัน เราไม่สามารถรู้เลยว่าจะเป็นยังไงต้องพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ทั้งอากาศร้อน อากาศหนาว รวมถึงฝนตกเวลาที่ทำการแสดงหน้าเวที
แอนจะแบ่งเวลากิน นอน และทำทุกอย่างแบบนี้ค่ะ เริ่มจาก ประมาณ 16.00 -20.00 (ของคืนที่มีงานนะคะ) ตื่นนอน อาบน้ำ กินข้าว เตรียมของที่จะแสดง แต่งหน้าค่ะ 20.30 แต่งหน้าเสร็จ เริ่มแสดง 21.00 ถึงสว่าง
พอลงเวทีมาก็จะรีบเก็บของ ล้างหน้า อาบน้ำ กินข้าว นอนบนรถนะคะ (รถบัสของทีมงาน) ทำทุกอย่างเสร็จพร้อมนอนก็จะประมาณ 9-10 โมงเช้าค่ะ แล้วก็นอนยาวเลยตื่นอีกทีก็ 4 โมงเย็น แอนจะทำแบบนี้ทุกวันค่ะ แม้จะเหนื่อยแต่ก็ชอบค่ะ
เล่าความรู้สึกตอนอยู่บนเวทีให้เราฟังหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ตื่นเต้นทุกงานจริงๆ ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่เหมือนเดิม เพราะทุกคืนมันจะไม่เหมือนเดิมเลย แต่พอได้ยินเสียงกรี้ด เสียงปรบมือจากแฟนเพลง ความตื่นเต้นก็จะค่อยๆ หายไป
ความรู้สึกอีกอย่างคือแอนจะมีความสุขมาก เวลาขึ้นร้องเพลงอยู่บนเวที เพราะมันจะทำให้แอนลืมทุกอย่างเลย มันเหมือนอยู่อีกโลกเลยค่ะ
เพลงโปรดของคุณคือเพลงอะไร
จริงๆ แอนเป็นคนที่ฟังเพลงได้ทุกสไตล์นะคะ ทั้งสตริง ลูกทุ่ง หมอลำ
ส่วนเพลงที่ชอบส่วนมากจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับความฝัน หรือ เพลงที่ให้กำลังใจ เกี่ยวกับการสู้ชีวิตค่ะ อันนี้ชอบเป็นพิเศษ
เสียงเพลงให้อะไรกับเราบ้าง
ให้หลายอย่างนะคะ ให้ความเพลิดเพลิน ให้ข้อคิด ให้ผ่อนคลาย ให้กำลังใจ เพลงบางเพลงสอนอะไรหลายๆ อย่างให้แอนด้วย
รู้สึกอย่างไรกับการถูกยกให้เป็น "หมอลำสาวเน็ตไอดอล"
ก็ดีใจค่ะ ที่คนเริ่มให้ความสนใจในสิ่งที่เราเป็น มันส่งผลทำให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักกับหมอลำมากขึ้นด้วยค่ะ
หมอลำเป็นวัฒนธรรมที่คนรุ่นใหม่ต้องอนุรักษ์ไว้ แต่จริงๆ ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นไอดอลหรืออะไรเลยนะ
แอนคิดอยู่เสมอว่าเราก็คือเรา เคยเป็นยังไงก็เป็นแบบนั้น เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด
วางแผนอนาคตของตัวเองไว้อย่างไร
จริงๆ แล้วถ้าแฟนเพลง แฟนหมอลำให้การตอบรับและให้กำลังใจดีแบบนี้ ก็อยากอยู่ในวงการหมอลำเรื่อยๆ เลยค่ะ ถ้ายังไม่เบื่อนะ ส่วนอนาคตคิดไว้ว่าอยากมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง เพื่อจะได้ดูแลครอบครัวต่อไปให้ดีที่สุดเท่าที่เราเองจะทำได้
ประวัติส่วนตัว "แอน อรณี"
ชื่อจริง : ณิชนันทน์ อินทรสอน
(ชื่อนี้เป็นชื่อล่าสุดที่เปลี่ยน จริงๆ ชื่อแรกเกิดเลยคือ อรณี ช่วงม.ต้น จะทำอัลบั้ม ผู้จัดการให้เปลี่ยนเป็น อัญชนา พอขึ้น ม.ปลายเปลี่ยนอีกเป็น ชญาดา และเปลี่ยนมาใช้ชื่อล่าสุดในปัจจุบันค่ะ)
บ้านเกิด : เกิดและโตที่อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่นค่ะ แต่ย้ายมาอยู่ที่บ้านยายต่างอำเภอแต่จังหวัดเดียวกัน
คุณพ่อ : อำนวย อินทรสอน ตอนนี้คุณพ่อขับรถรับส่งพนักงานของบริษัท โตโยตา ชัวร์
คุณแม่ : สุรินทรา เนื่องมัจฉา คุณแม่ทำงานที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลห้วยเตย
น้องชาย : อรรถชัย อินทรสอน (อาร์ต) น้องชายที่ตามหลังมาติดๆ ค่ะ ตอนนี้เล่นดนตรีที่วงประถมบันเทิงศิลป์เหมือนกันค่ะ
การศึกษา : ประถม 1-6 ที่โรงเรียนสุดารัตน์วิทยาคม อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
มัธยม 1 ที่โรงเรียนประถมปรีดาภรณ์ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
มัธยม 2 ที่โรงเรียนสุวรรณภูมิ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
มัธยม 3 ที่โรงเรียนสุดารัตน์วิทยาคม อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
มัธยม 4-6 ที่โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
ปัจจุบัน ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรังสิต คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ได้ 2 ปี ตอนนี้ดร็อปเรียนไว้ก่อน
<< ประมวลภาพ แอน อรณี>>
เครดิตภาพจาก "น้องหนุ่ม" https://www.facebook.com/sundaynovember25
อัลบั้มภาพ 48 ภาพ