นุ่น ศิรพันธ์ ว่าที่เจ้าสาวสุดอินดี้ แต่งสไตล์อีโค

นุ่น ศิรพันธ์ ว่าที่เจ้าสาวสุดอินดี้ แต่งสไตล์อีโค

นุ่น ศิรพันธ์ ว่าที่เจ้าสาวสุดอินดี้ แต่งสไตล์อีโค
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ต้องขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับว่าที่เจ้าสาวคนล่าสุดของวงการบันเทิง 'นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา' หลังบ่มเพาะความรักมากว่า 8 ปีกับ 'ท็อป พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร' ที่ได้ฤกษ์ลั่นระฆังวิวาห์กันในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค

นุ่น ศิรพันธ์นุ่น ศิรพันธ์

ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่รักอีโค เจ้าของ Eco Common Shop ศูนย์การเรียนรู้งานออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แห่งแรกในประเทศไทย ธีมงานแต่งจึงต้องออกมาเป็น แนวรักษ์โลก Eco Wedding เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามสไตล์ของทั้งคู่ เชื่อว่างานนี้อินดี้ไม่เหมือนใครแน่นอน

"Eco ต้องมองให้ครบวงจรตั้งแต่การดีไซน์ อย่างชุดเจ้าสาวนุ่นก็บอกว่าถ้าจำเป็นต้องใช้วัสดุใหม่ก็เอาที่ทางเวดดิ้งแพลนเนอร์เอาไปใช้งานต่อได้ไม่ใช่ทำขึ้นมาใหม่แล้วพอเสร็จงานกลายเป็นขยะ"

นุ่น ศิรพันธ์ ท็อป พิพัฒน์นุ่น ศิรพันธ์ ท็อป พิพัฒน์

ย้อนเส้นทางความรักมาราธอน
“ท็อปเป็นฝ่ายโทรมาหานุ่น เพิ่งรู้ทีหลังว่าไปขอเบอร์มาจากโอปอลล์ เพราะเราเคยร่วมงานกันในหนังเรื่อง 'เพื่อนสนิท' แล้วท็อปกับโอปอลล์มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน นุ่นก็รู้จักเบื้องหลังท็อปว่าเขาเป็นนักแสดงเพราะเราเคยดูผลงาน แต่ก็รู้ว่าเขาเป็นเหมือนดีไซเนอร์ เรียนเกี่ยวกับศิลปะมาด้วย และนุ่นชอบงานศิลปะอยู่แล้ว เพราะตัวเองเรียนวิศวะเราก็อยากได้คนมาช่วยบาลานซ์ พอได้พูดคุยกันก็พบว่าชอบอะไรคล้ายๆ กันจึงตัดสินใจคบกันแรกๆ ก็มีความแตกต่างกันเยอะ เคยบอกว่าเราอย่าเพิ่งเริ่มต้นความสัมพันธ์ เป็นเพื่อนนี่แหละดีแล้วเขาคิดว่าอยากลองดูก็เลยพยายาม จนมาถึงทุกวันนี้ก็ 8 ปีแล้วค่ะ”

เคล็ดลับความรักยืนยาว
"เคล็ดลับของเราคือยอมรับการเป็นตัวของตัวเอง นุ่นไม่ได้ยอมรับในพาร์ตดีของเขานะ เพราะเราเห็นตั้งแต่แรก แต่นุ่นยอมรับอารมณ์ของเขาได้แล้วเขาก็ยอมรับอารมณ์ที่ไม่ดีของนุ่นได้เหมือนกัน ต่างคนก็ต่างรับได้ พอลงตัวก็มีความสุข เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เราอยู่ด้วยกันได้นาน"

วินาทีขอแต่งงาน
“เราผ่านช่วงที่อยากแต่งจริงๆ มาแล้ว เพราะผู้หญิงจะคิดว่าเมื่อไหร่จะมาขอ แล้วนุ่นไปต่างประเทศกับท็อปบ่อยมาก และแต่ละที่ที่เราไปก็ลุ้นตลอดไม่ว่าจะไปอิตาลี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เขาไม่เคยขอเลย เราก็ขอชิลล์ดีกว่า จนวันที่เขาขอแต่งงานเป็นวันธรรมดาที่เรานั่งดูข่าวอยู่ แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่าแต่งงานกันมั้ย ตอนแรกนุ่นก็หันไปถามว่านี่คือประโยคอะไร คำถามหรือบอกเล่า ท็อปก็ขำแล้วบอกว่าแต่งงานกันมั้ย เราก็บอกโอ.เค. แล้วไม่ได้พูดอะไรต่อนะ อยู่กันเงียบๆ สองคน เป็นการขอที่ไม่ได้โรแมนติกเหมือนคนอื่น แค่ได้อยู่กันสองคนเงียบๆนุ่นก็พอใจแล้วนะ”

ธีมงานแต่ง
“ธีมเดียวที่น่าจะเหมาะกับเราคือ Eco Wedding เพราะนุ่นรู้สึกว่าเราสองคนทำเรื่องนี้จนอินจริงจัง เพราะรู้ว่ามันดี ถ้าบอกทุกคนว่ามันดีแต่เราไม่ให้ความสำคัญแม้กระทั่งวันสำคัญ แล้วจะทำให้ใครเชื่อได้ยังไงว่ามันดีจริง เราก็เลยเลือกใช้ธีมนี้ วันแรกที่ไปบอกพ่อกับแม่นุ่นว่าธีมงานแต่งของเราเป็น Eco Wedding พ่อก็ถามว่าคืออะไร และเวลาเพื่อนคุณพ่อเห็นเราสัมภาษณ์ว่าธีมงานแต่งเป็น Eco Wedding ทุกคนก็จะโทรถามพ่อว่าต้องแต่งตัวยังไง (หัวเราะ) กลายเป็นว่างานแต่งเราช่วยทำให้คนสนใจแนวนี้มากขึ้น แล้วเมื่อกองละครรู้ว่าธีมงานแต่งเป็น Eco Wedding หลายคนก็แซวว่าขอแต่งตัวแบบรีไซเคิลได้มั้ย ซึ่งนุ่นว่าเวลาทุกคนเห็นเรื่อง Ecoก็จะเห็นผ่านๆ แต่พอต้องมาแต่งกันจริงๆ มันก็ช่วยจุดประกายให้พวกเขาสนใจแนวนี้มากขึ้น”

Eco Wedding
“Eco ไม่ใช่แค่การเอาขยะมาทำใหม่ อันนั้นเป็นแค่ความเข้าใจมิติเดียว แต่ Eco คือต้องมองให้ครบวงจรตั้งแต่การดีไซน์ สมมติว่าตัดเสื้อตัวหนึ่งถ้าใช้ผ้าแบบไม่ประหยัดก็จะเหลือเศษผ้าเยอะ นุ่นก็บอกว่าถ้าจำเป็นต้องใช้วัสดุใหม่ก็เอาวัสดุที่ทางเวดดิ้งแพลนเนอร์เอาไปใช้งานต่อได้ ไม่ใช่ทำขึ้นมาใหม่แล้วพอเสร็จงานก็กลายเป็นขยะอย่างนี้ถือว่าไม่ Eco แล้ว ตอนที่นุ่นทำรีเสิร์ชต่างประเทศเขาทำเรื่อง Eco-Friendly Wedding เยอะมาก นุ่นจึงพยายามเริ่มด้วยการทำ
Eco หลายๆ อย่าง เช่น อาหาร เราก็บอกทางโรงแรมว่าไม่อยากได้อาหารที่อิมพอร์ตจากเมืองนอก เพราะต้องใช้น้ำมันในการขนส่ง แต่หาวัตถุดิบที่อยู่แถวๆ กรุงเทพฯ แทน หรือชุดเจ้าสาวก็จะเป็นชุดวินเทจมือสอง เพราะถ้าตัดชุดใหม่หมายถึงการผลิตผ้าใหม่ ทำไมไม่เอาเสื้อผ้าวินเทจมาปรับปรุงเป็นชุดแต่งงาน หรืออย่างชุดของท็อปก็ตัดใหม่ แต่เป็นชุดเจ้าบ่าวที่เอาไปใช้ต่อได้ ไม่ใช่ใช้ได้แค่ครั้งเดียว

จากตัดเค้กเป็นปลูกต้นไม้
“เราไม่มีเค้ก แต่นุ่นใช้การปลูกต้นไม้แทน เพราะรู้สึกว่าการสร้างครอบครัวก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้นุ่นเชื่อว่าไม่มีทางที่เราจะมีความสุขแค่วันเดียวแล้วจะอยู่แบบนั้นไปตลอด การจะมีครอบครัวต้องบำรุงรักษาทุกวันเหมือนกับการปลูกต้นไม้ ถ้าเราไม่รดน้ำหรือใส่ปุ๋ยยังไงก็ตาย นุ่นเลยใช้ต้นไม้เป็นสัญลักษณ์คิดว่าจะเอาต้นไม้ต้นนี้ไปกับเราทุกที่ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน และในงานแต่งเราเป็นพิธีกรเองทั้งคู่ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องราวของเราก็เลยอยากเล่าและอยากพูดขอบคุณเอง”

ไม่มีโยนช่อดอกไม้
“งานอื่นเจ้าสาวจะมีโยนช่อดอกไม้ แต่นุ่นจะโยนเป็นเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ที่ใส่เป็นถุง เพราะนุ่นคิดว่าถ้าอยากได้ความรักที่ดี ได้ช่อดอกไม้มาแล้วคุณจะได้แต่งงานเหรอ โลกมันไม่สวยขนาดนั้น เราคบกันมา 8 ปีมันมีอุปสรรค มีการเรียนรู้ มีวันที่ดีและไม่ดี ถ้าอยากได้ความรักที่ดีเราต้องปลูกเอง นุ่นเลยให้เมล็ดพันธุ์เป็นสัญลักษณ์ว่าถ้าอยากได้ความรักที่งอกงามก็ต้องลงมือทำอย่าคาดหวังว่าเป็นผู้หญิงแล้วผู้ชายจะต้องมาดูแล ไม่มีทางที่ชีวิตคู่จะอยู่ได้อยากให้งานแต่งของนุ่นให้ข้อคิดแบบนี้”

นุ่น ศิรพันธ์นุ่น ศิรพันธ์

Eco ในความหมายของ ‘นุ่น’
“Eco คือการแคร์ทุกอย่างที่อยู่รอบตัว จุดเริ่มต้นคือแคร์ตัวเราเองก่อน เช่นกันกับสิ่งแวดล้อม ถ้าไม่แคร์บ้านที่เราอยู่ บ้านไม่สะอาดเราก็อยู่ไม่สบาย วันหนึ่งก็จะเจ็บป่วย เช่นเดียวกับคนในครอบครัวที่ต้องดูแลให้ดี ดังนั้น Eco คือเรื่องง่ายๆ ที่อยู่รอบตัวเราถ้ามองย้อนกันจริงๆ คนสมัยก่อนใช้ชีวิต Eco มากโดยเฉพาะคนไทยเวลาห่อข้าวหรือทำขนมก็ใส่ใบตองมัดเชือกกล้วยแล้วหิ้ว จะทำอะไรก็ทำแต่พอเพียง ไม่ได้ใช้เกินตัว แต่ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตแบบเวลากินก็ใส่กล่องโฟม ซื้อของก็ใส่ถุงพลาสติก ใช้ชีวิตแบบประดับประดา ซื้อเครื่องสำอางประทินผิว ทุกอย่าง เราใช้แบบฟุ่มเฟือย นุ่นอาจไม่ได้ Eco จ๋า แค่รู้สึกว่าต้องแคร์มันอีกหน่อย จะได้อยู่อย่างยั่งยืนกว่า”

Eco เปลี่ยนชีวิต
“ตอนแรกที่ทำเกี่ยวกับ Eco นุ่นบอกท็อปว่าอย่าทำเลยร้าน Eco Shop ใครจะซื้อ แต่ท็อปซื้อเพราะเขาชอบแล้ววันหนึ่งเขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามีคนที่คิดแบบนี้และความเชื่อของเขามันดีจริง กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้นุ่นอินกว่าอีก เวลาจะคัดเด็กมาทำงาน นุ่นจะถามว่าน้องเข้าใจเรื่อง Eco มั้ย พี่หวังว่าเมื่อน้องทำงานกับพี่แล้วช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยว่าน้องเปลี่ยนวิธีคิดหรือเปล่า”

ฝากถึงแฟนๆ ที่คอยลุ้นความรักของเรา
“ขอบคุณนะ จริงๆ หลายคนเจอเรามักจะบอกว่าเมื่อไหร่จะแต่ง ตอนนี้ได้แต่งแล้วนะ ก็อยากจะให้ดูคู่ของนุ่นเป็นตัวอย่างว่าไม่ใช่คู่แบบเจ้าชายเจ้าหญิงเราเป็นคู่มนุษย์ธรรมดาจริงๆ มีทั้งด้านดีและไม่ดีในชีวิต แล้วชีวิตคู่เราไม่ได้เป็นเส้นกราฟที่สวยงามมีทั้งขึ้นและลง มีทั้งช่วงที่เลิกกันและช่วงที่เรียนรู้จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ อยากให้คนที่เคยเจ็บปวดจากความรักคิดซะใหม่ ถ้าความรักคุณไม่ดีวันนี้ไม่ได้แปลว่าชีวิตคุณแย่ เพราะนุ่นเคยอกหัก โดนบอกเลิกแต่เพราะการอกหักนี่แหละทำให้นุ่นโตเป็นผู้ใหญ่และมีมุมมองความรักที่โตขึ้น เราเปลี่ยนไปแล้วมันดีขึ้นนุ่นว่าความรักไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่มันจะเลวร้ายมากถ้าเรามองความรักในมิติเดียว”

นุ่น ศิรพันธ์นุ่น ศิรพันธ์

Her Eco Wedding
•แบ็กดร็อปถ่ายรูปเป็นต้นไม้ที่ไม่ได้ตัดเลยเสร็จงานใครอยากเอากลับบ้านก็เอาไปปลูกต่อได้
•รูปพรีเวดดิ้งถูกแทนที่ด้วยงานศิลปะจากเศษวัสดุต่างๆ ที่ทำเอง
•อาหารเป็นอาหารออร์แกนิกปลอดสารพิษ
•ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่จะใช้เป็นน้ำสมุนไพรแทน
•ไม่มีเค้กแต่งงานแต่จะเป็นการปลูกต้นไม้แทน
•ชุดเจ้าสาวเป็นแบบ Reuse ส่วนชุดเจ้าบ่าวเป็นแบบตัดใหม่ แต่สามารถใช้งานได้ต่อ
•สมุดเขียนอวยพรเป็นของอีโคดีไซน์แบบไทยๆ
ของชำร่วยเป็นสกินแคร์แบรนด์ Cherb ของนุ่นที่เป็นธุรกิจเพื่อสังคม โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะแบ่งคืนให้ชุมชน
การ์ดแต่งงานใช้กระดาษที่สามารถเอาไปReuse ได้หลายครั้ง


อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ : นิตยสาร Lisa Vol.16 No.17 September 2015
ขอบคุณภาพประกอบ : อินสตาแกรม noon_siraphun, toppipat

อัพเดทเรื่องราวมากมายที่ผู้หญิงห้ามพลาดได้ที่ : อินสตาแกรม sanookwomen

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ ของ นุ่น ศิรพันธ์ ว่าที่เจ้าสาวสุดอินดี้ แต่งสไตล์อีโค

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook