"กาละแมร์ พัชรศรี" มาเอง แนะนำ เคล็ดลับการปลูกผัก
จากที่เล่าเมื่อคราวก่อนว่า ไปเรียนปลูกผักพร้อมกับแม่กับคุณปริ๊นซ์ เจ้าชายผักแถวลาดพร้าว คนที่มาเรียนมาด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนมีจุดหมายเดียวกันคือ "อยากปลูกผักเป็น"
เมื่อเรารู้ว่าผักทุกวันนี้เต็มไปด้วยสารเคมีขนาดไหน มันนำไปสู่การเป็นมะเร็งและโรคอื่นๆ มากมาย ผลไม้ยอดฮิตที่มีสารเคมีมากๆ คือ ส้มสายน้ำผึ้ง มะนาว ทุเรียน บางทีเราก็ดูที่ลูกแล้วว่าไม่มีร่องรอยอะไร แต่เดี๋ยวนี้เขาใช้เข็มฉีดยาให้ยาปฏิชีวนะปักไว้ที่ต้นเลย (ฮือ)
การปลูกผักให้ได้ผลดีจึงต้องใช้เวลาและค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ไม่ใช่เร่งผล เร่งโต ให้ผักมันเติบโตและแน่นไปทุกส่วนพร้อมๆ กัน
พอนั่งฟังแล้วก็ถึงคราวลงมือปฏิบัติ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม เรียนข้างในกับเรียนข้างนอก ตกบ่ายก็สลับกัน
ฉันนั่งเรียนข้างในก่อน เขาก็สอนการปลูกผักง่ายๆ อย่าง "ต้นอ่อนทานตะวัน" ที่ฉันเคยทำสำเร็จมาแล้ว และสอนการปลูกต้นกล้าผักต่างๆ
เมื่อได้ดูและฟังแล้ว ทำให้เรารู้เลยว่าขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการปลูกผัก นั่นก็คือ "ดิน" ค่ะ
มันคือรากฐานของทุกสิ่ง ถ้าดินไม่ดีปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ถ้าดินไม่สมบูรณ์ ปัญหาแมลงจะตามมา เพราะมันหนีจากดินขึ้นมาบนต้นไม้ แล้วมากัดกินต้นไม้จนหมด
สูตรการเตรียมดินง่ายๆ ก็คือ
ใช้ดินใบก้ามปูหรือดินขุยไผ่ (ที่ขายกันตามร้านน่ะค่ะ) ส่วนดินสีดา ดินลำดวนเหมาะกับปลูกไม้ดอก แล้วก็ร่อนดินเอาก้อนใหญ่ๆ แข็งๆ ออก ใช้ดิน 3 ส่วน ขุยมะพร้าวหรือเศษใบไม้ร่อน 1 ส่วน และปุ๋ยคอก 1 ส่วน
ผสมกัน รดน้ำพอชุ่ม ก็ใช้ปลูกได้แล้ว เราส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมดินเลย มาถึงก็จับปลูกใส่กระถางอย่างเดียว คราวนี้ทุกคนก็เลยเข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิดพลาดไป
อย่างถ้าจะปลูกต้นอ่อนทานตะวันใช้เวลา 5 วันก็ตัดกินได้แล้ว เราก็เอาดินที่ผสมแล้วใส่ในภาชนะที่เจาะรูด้านล่าง แล้วโรยเมล็ดทานตะวันด้านบน รดน้ำพอชุ่ม และรดน้ำเช้า-เย็นทุกวัน ประมาณ 5 วันก็ฟูฟ่องออกมาให้เราได้กินแล้ว
ปลูกต้นอ่อนทานตะวันจะมีกำลังใจหน่อย เพราะไม่นานก็ได้กินแล้ว
แต่ถ้าปลูกต้นอื่นๆ อย่างผักสลัด พริก มะเขือเทศ ก็ต้องค่อยๆ เพาะต้นกล้า ด้วยการหยอดเมล็ดลงหลุมเล็กๆ ใช้นิ้วคีบปิดหน้าดิน รดน้ำ รอสัก 3-4 วันจนต้นกล้างอก แล้วค่อยย้ายไปปลูกที่แปลงหรือแยกกระถางปลูกต่อไป
แดดก็สำคัญ ต้องรู้ว่าผักอะไรชอบแดดแบบไหน และตอนเป็นต้นกล้าก็ต้องอยู่ที่แสงรำไรก่อน และอย่าลืมรดน้ำเช้า-เย็น
นอกจากนี้ คุณปริ๊นซ์ยังสอนเราทำปุ๋ยคอกและน้ำหมักชีวภาพด้วย
ปุ๋ยคอกทำให้พวกเราแปลกใจในการย่อยสลายของมันมาก วิธีก็คือ ใช้เศษอาหารหรือมูลสัตว์ 1 ส่วน/ของแห้งพวกใบไม้ กิ่งไม้ หญ้าแห้ง ฟาง 3 ส่วน เอามากองรวมกัน รดน้ำทุกวันหรือวางกลางแจ้งให้ฝนตกใส่ ผ่านไป 2 เดือนมันจะกลายสภาพเหมือนดินสีดำๆ ไม่เหลือเค้าเดิมของมันเลย
มันทำให้เห็นว่า สุดท้ายของทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่ธรรมชาติ และกลายเป็นดินในที่สุด ร่างกายของเราก็เช่นกัน
ส่วนน้ำหมักชีวภาพก็เอาเศษผักผลไม้หั่นเป็นชิ้นเล็ก ใส่กากน้ำตาลลงไปสลับชั้นกันไปหรือจะคลุกเคล้ากันก็ได้ ปิดฝาไว้ ทิ้งไว้ 7 วัน เอาช้อนตักน้ำขึ้นมาผสมกับน้ำ เอาไว้รดต้นไม้
การได้มาเรียนปลูกผักครึ่งวันกับคุณปริ๊นซ์ทำให้เห็นว่าถ้าเราปลูกผักเองได้ มันจะให้ประโยชน์กับเรามากมาย
เช่น เราจะได้กินอาหารดีๆ ได้ออกกำลังกายไปในตัว
มีผักให้ลูกหรือพ่อแม่กิน
เป็นห้องเรียนของลูก ได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข
เปลี่ยนสาวปาร์ตี้มาเป็นแม่บ้านทำอาหารให้ลูก
บางคนเปลี่ยนสนามฟุตบอลมาเป็นแปลงผัก ลดรายจ่ายค่ากับข้าว ลดค่ารถเดินทาง
มีกิจกรรมทำในที่ทำงานสร้างความสามัคคี รวมถึงยังสร้างอาชีพและรายได้
การมาเรียนครั้งนี้นอกจากจะได้วิชาความรู้แล้ว มันยังทำให้ฉันตระหนักว่า คนเราจะดีไม่ดีมันเริ่มจากจุดเริ่มต้น อยู่ที่พื้นฐาน ถ้าเราฐานแน่นเราก็จะไปได้ไกล และเติบโตอย่างสมบูรณ์
แต่สุดท้ายไม่ว่าเราจะงอกงาม ออกดอก ออกผล สูงใหญ่แค่ไหน วันหนึ่งเราก็กลับมาอยู่ที่เดิม ที่ที่เราเกิดมานั่นเอง
และการได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ไร้การปรุงแต่ง อยู่อย่างเรีย
บง่าย มันนำมาซึ่งความสุขใจอย่างแท้จริง
เอาล่ะ ได้เวลาไปปลูกผักของฉันแล้วค่ะ ว่าแล้วก็เอาต้นหอมมาปักลงกระถางดีกว่า!!! (นี่คือการปลูกผักที่ง่ายที่สุดแล้วค่ะ)
มาดูไลฟสไตล์และหุ่นแซ่บๆ ของ "กาละแมร์ พัชรศรี" ชีวิตดี๊ดี
อัลบั้มภาพ 30 ภาพ