เมนูมะระ อาหารแก้ไข้
ผู้เขียน โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย
ที่มา สมุนไพรเพื่อสุขภาพ, มติชนสุดสัปดาห์
หลายปีมานี้มีผู้สนใจมะระบรรเทาอาการเบาหวานหรือมะระช่วยลดน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน โดยเฉพาะมีการศึกษาและการใช้มะระ (มะระขี้นก) เพิ่มมากขึ้น
แต่ในวันนี้ไม่ได้มาแนะนำมะระกับเบาหวาน แต่จะมาแนะนำสมุนไพร มะระ ที่คนทั่วโลกรู้จักใช้กันมานานนับพันปี ทั้งคนเอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกา รู้จักใช้ประโยชน์สมุนไพรรสขมนี้กันถ้วนหน้า
ในทางอายุรเวทใช้ผลซึ่งถือเป็นยาเย็น ช่วยแก้ไข้ ระบายท้อง ขับพยาธิ ช่วยเจริญอาหาร รักษาโรคเลือด แก้โลหิตจาง แก้หืด หลอดลมอักเสบ แก้คลื่นเหียนอาเจียน แก้เสมหะกำเริบ และเป็นที่สนใจแก่ชาวโลกยุคปัจจุบันคือมะระช่วยบรรเทาเบาหวาน โรคตับ รวมทั้งอาการโรคเกาต์และข้ออักเสบด้วย
ในตำรายาไทยกล่าวไว้ มะระทั้งห้า (ทุกส่วน) มีรสขมเย็น บำรุงน้ำดี ดับพิษทุกอย่าง เฉพาะใบก็มีการนำมาใช้ในตำรับยาเขียวลดไข้ รากมีการมาปรุงในตำรับยาแก้โลหิตเป็นพิษ และโรคตับด้วย
คนทั่วไปอาจสงสัยว่า มะระขี้นกผลเล็กๆ ขมจัด กับมะระจีนที่ผลขนาดใหญ่กว่ามากนั้น เป็นพืชเดียวกันหรือไม่
ตอบได้ว่าเป็นพันธุ์มะระเดียวกันแต่แยกได้ 2 ชนิด ชื่อทางการตามหลักพฤกษศาสตร์ ชื่อวิทยาศาสตร์ตรงกันเรียกว่า Momordica charantia L. เหมือนกันและจัดให้อยู่ในวงศ์พืชเดียวกันกับแตง (CUCURBITACEAE)
มะระเป็นไม้เถา ที่มีการปลูกเป็นผักสวนครัว กล่าวกันว่า มะระขี้นกจะนำมาปรุงเป็นยาสมุนไพรให้สรรพคุณมากกว่ามะระจีน
แต่ในแง่ “กินอาหารให้เป็นยา” มีการนำเอามะระจีนมาปรุงเป็นอาหารเพื่อดูแลสุขภาพและรักษาโรคพื้นฐานที่เป็นกันบ่อยๆ ไม่น้อยไปกว่าการใช้มะระขี้นก
ในวันนี้จึงขอมาแนะนำสรรพคุณดั้งเดิม และเป็นสรรพคุณที่มีการใช้กันทั่วไป เป็นการดูแลสุขภาพที่อากาศเปลี่ยนแล้วกำลังเป็นไข้หวัด ไข้ตัวร้อนกันจำนวนมาก ซึ่งต้องบอกว่า มะระเป็นอาหารและเป็นยาสมุนไพรที่น่าใช้มากชนิดหนึ่ง
ปกติคนไม่สบายเป็นไข้หวัด ไข้ตัวร้อนก็มักต้องหายากิน แต่ถ้าเลือกอาหารให้เหมาะจะช่วยให้ไข้หายเร็วขึ้น ถ้าใครมีอาการประมาณว่า ไข้ขึ้นสูงเร็วตัวร้อนมาก ปากคออักเสบ กระหายน้ำ เหงื่อออกมาก นอนไม่ค่อยหลับ อุจจาระปัสสาวะเหลือง
ในทางการแพทย์แผนไทยมองว่าอาการเหล่านี้ เป็นไข้มาจากปิตตะกำเริบ ปิตตะคือคุณสมบัติร้อน ถ้าจะกินอาหารช่วยแก้ไข้ก็แนะนำให้กินอาหารที่มีรสขมฝาดหวาน เช่น แกงขี้เหล็ก สะเดาลวกจิ้มน้ำพริก เป็นต้น
แต่ถ้าอาการประมาณว่า ไข้ค่อยๆ เป็นไม่รวดเร็วนัก แต่ร่างกายอ่อนเปลี้ยเฉื่อยชา หน้าซีดขาว ชอบนอน นอนไม่อยากลุกเลย เบื่ออาหาร มีเสมหะ มีน้ำมูกมาก อาการแบบนี้แสดงอาการให้เห็นว่าเป็นไข้มาจาก เสมหะกำเริบ เสมหะจัดว่ามีคุณลักษณะเย็นและชื้น (มีน้ำ) อาหารที่เลือกกินควรมีรส ขม ฝาดและเผ็ดร้อน เช่น อาหารใดก็ได้ ให้ปรุงด้วย ขิง ข่า ตะไคร้ กะเพรา กระเทียม โหระพา แมงลัก หรืออาจพูดได้ว่า อาหารรสจัดเผ็ดร้อน เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายขับเหงื่อ หายซึมเซา
แม้เราเรียนรู้ว่าเวลาไม่สบายเป็นไข้หวัด หมอแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยระบายความร้อน ลดไข้นั้น
แต่ในการแพทย์แบบแผนไทยยังแนะนำละเอียดไปว่า หากเป็นไข้แบบปิตตะกำเริบก็ดื่มน้ำธรรมดา แต่ถ้าไข้จากเสมหะกำเริบ แนะนำให้จิบน้ำดื่มน้ำอุ่นๆ ด้วยก็จะช่วยบรรเทาไข้หวัดได้ดีขึ้น
ทีนี้ก็มาดูที่ มะระ อาจถือว่ามะระเป็นเมนูอาหารแก้ไข้ที่น่าสนใจจานเด็ดจานหนึ่งเลย เหตุเพราะมะระเป็นสมุนไพรที่มีรสขมเย็น
คุณสมบัติเย็นนี้สามารถใช้แก้ไข้จากปิตตะกำเริบได้ (จากไข้ร้อน) ในขณะเดียวกัน มะระมีคุณสมบัติระงับเสมหะ (เพราะรสขมช่วยระงับเสมหะ) จึงช่วยบรรเทาอาการไข้จากเสมหะกำเริบได้ด้วย
อาจพูดได้ว่า ไข้แบบไหนก็ใช้มะระแก้ได้
มะระนี้นอกจากมีสรรพคุณแก้ไข้แล้ว ยังมีส่วนช่วยลดน้ำมูก ลดเสมหะ และบรรเทาอาการไอด้วย
ถึงบรรทัดนี้คงสนใจกันว่า เมนูอะไรที่เป็นอาหารแก้ไข้ ขอบอกว่าง่ายที่สุด คือ เอามะระมาลวกหรือต้มให้สุก แล้วนำมาจิ้มน้ำพริกกิน จะใช้มะระจีนหรือมะระขี้นกก็ไม่เกี่ยง เมนูยำมะระ ผัดมะระ ก็ได้ แต่บางคนไม่ชอบกินรสขม เห็นมะระก็เบือนหน้าหนีนั้น
อาจเป็นเมนู มะระต้มกับกระดูกหมู มะระหั่นบางๆ ทอดกับไข่ก็อร่อยได้สรรพคุณยา
แต่บางคนก็ยังกลัวความขม หลังทอดกับไข่แล้วนำมาทำเป็นแกงจืดไข่น้ำก็ได้
แต่วิธีนี้ สรรพคุณทางยาจะเจือจางไป ฤทธิ์แก้ไข้ย่อมอ่อนลง
ยังมีเมนูแกงจืดมะระยัดไส้หมูสับ แกงจืดแนวนี้ก็เป็นอาหารลดไข้ได้ดี แต่ขอให้ปรุงแกงจืดอย่าเค็มจัด ให้น้ำแกงจืดๆ ได้รสขมของมะระบ้าง
มีเทคนิคที่ลดความขมมะระ หลังหั่นมะระแล้วให้ไปแช่น้ำเกลือสักพัก แล้วล้างน้ำออกก่อนนำไปปรุงอาหารเพื่อลดความขม
แต่เมนูที่ทางมูลนิธิสุขภาพไทยแนะนำนั้น เราอยากให้ท่านได้รสยา รสขมและคุณสมบัติเย็นจากมะระ เพื่อช่วยลดไข้ ทนขมเล็กน้อย เข้าตำรา “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” ดีต่อสุขภาพยามเป็นไข้ หายไข้แล้วไม่ควรกินทุกวันต่อเนื่องนานนับเดือน เนื่องจากมะระเป็นยาเย็นจัด จะทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้
แต่เราควรกินเมนูมะระเป็นประจำสักสัปดาห์ละ 2-3 มื้อ เพราะมะระถือเป็นเมนูสุขภาพ ในมะระมีวิตามินซี และเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ซึ่งถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค และลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง
อากาศบ้านเรากำลังเปลี่ยนแปลงมาก เดี๋ยวเย็นๆ หนาวๆ มาอ้าวๆ ร้อนๆ มีฝน แปรปรวนนัก จึงเห็นคนเป็นไข้เป็นหวัดกันมาก ให้นึกถึงเมนูมะระรักษาไข้ฟื้นฟูสุขภาพกัน