"รัดเกล้า อามระดิษ" ตั้งใจในทุกอย่างที่มีโอกาสได้ทำ
นักร้องหญิงดีว่าเสียงสวย “รัดเกล้า อามระดิษ” เจ้าของบทเพลงฮิตในอดีต “ลมหายใจ” และหลายๆ บทเพลง นอกจากนี้เธอยังเป็นที่รู้จักดีจากบท “นางแย้ม หมั่นกิจ” จากละครสุดเปรี้ยง “สุดแค้นแสนรัก” จากความโด่งดังทั้งจากบทบาทการเป็นนักร้อง และนักแสดง เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอคือศิลปินสุดคุณภาพ ที่สมค่ากับการได้เข้ามาเป็น “โค้ช” รายการ “เดอะวอยซ์ คิดส์ ไทยแลนด์”
Sanook! Women จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักตัวตนของผู้หญิงเก่งคนนี้ ที่ไม่ได้มีดีแค่น้ำเสียงหรือการเข้าถึงบทบาทการแสดงเท่านั้น
คุณสนใจดนตรีตั้งแต่เด็กเลยไหม
เพราะคุณแม่ท่านอยากให้เรียนด้วย ได้เริ่มเรียนเปียโนที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการค่ะ
มีช่วงที่คุณไปทำงานในบริษัทคอมพิวเตอร์ อะไรทำให้คุณไม่เดินบนเส้นทางดนตรีเลยตั้งแต่เรียนจบ ทั้งๆ ที่มีความสามารถ
เพราะพี่เรียนจบทางด้านอักษรศาสตร์มาค่ะ
หลังจากนั้นคุณได้ร่วมงานกับเบเกอรี่ มิวสิค ได้ทำงานกับคนเก่งๆ หลายคน คุณเรียนรู้อะไรจาก พี่บอย พี่สมเกียรติ หรือพี่สุกี้ บ้าง
คือมีความชอบในแนวทางที่ใกล้กัน เพราะฉะนั้นนอกจากเราจะได้เรียนรู้เรื่องการทำงานจากทั้ง 3 ท่านแล้ว สิ่งที่เราได้ก็ต้องบอกว่าจากวันนั้นถึงวันนี้คือ “เราได้ครอบครัว”
จุดเริ่มต้น การทำงานด้านกานแสดงของคุณเริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร
สมัยที่เรียนอยู่ที่คณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์ เลือกวิชาศิลปะการละคร เป็นวิชาโทนะคะ เพราะฉะนั้นก็จะมีโอกาสได้เล่นละครคณะตั้งแต่เรียนอยู่ พอจบออกมาก็ไปเล่นละครเวทีของท แดส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ หลังจากนั้นก็มีการแสดงด้านภาพยนตร์ แล้วก็การแสดงทางละครโทรทัศน์ค่ะ
งานละครเวทีเกื้อหนุนกับงานละคร และงานภาพยนตร์ของคุณอย่างไรบ้าง
ในส่วนของการแสดงมันก็คือการถ่ายทอดนะคะ ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร เพราะฉะนั้นการเข้าใจตัวละคร การเข้าใจอารมณ์ โดยพื้นฐานจะเหมือนกันหมด เพียงแต่ว่าสื่อในการแสดงออก เวทีก็คือเราอยู่บนเวที ละครโทรทัศน์ก็คือเราผ่านกล้อง ภาพยนตร์ก็คือภาพกล้องหนังเท่านั้นเอง โดยพื้นฐานในการเข้าใจตัวละคร การตีความจะเหมือนกัน
บทป้าแย้มทำให้คุณเป็นที่รู้จัก และถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ส่วนตัวแล้วคุณในฐานะที่รับบทบาทนี้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง
ก็ต้องขอบพระคุณนะคะคุณผู้ชมทุกคนที่ติดตามในสิ่งที่เราทำ พูดง่ายๆ ก็คือติดตามผลงาน แล้วก็ขอบคุณที่เข้ามาทัก เข้ามาให้กำลังใจ ตรงนี้สำคัญมากเพราะว่า ทำให้เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราทำไปมีคุณผู้ชมมองเห็น เหมือนกับเราได้สร้างความสุขให้กับท่าน ทุกครั้งที่ท่านเข้ามาหา มาตอบเรา มันเป็นกำลังใจที่สำคัญมากสำหรับนักแสดงอย่างเรานะคะ
มีวิธีการเข้าถึงบทบาท “ป้าแย้ม” จนคนเชื่อและเกลียดตามบทได้อย่างไรคะ
เราต้องเข้าใจตัวละครค่ะ คือเราต้องเข้าใจตัวละครเหมือนกับที่เราเข้าใจคนที่เรารู้จักเป็นอย่างดีคนนึง เข้าใจจนสามารถรู้เลยว่า ถ้ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเขาจะคิดแบบนี้ จะพูดแบบนี้ จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบเหมือนกับเพื่อนสนิทคนนึงเลย คือคิดแทนเค้าได้เลย อันนี้ก็คือเราต้องรู้จักเค้ามากๆ
ชีวิตเปลี่ยนไปไหม หลังจากที่คนรู้จัก “ป้าแย้ม” กันทั่วบ้านทั่วเมือง
มีคนรู้จักเยอะมากขึ้น มีคนเข้ามาทักทาย มาให้กำลังใจเยอะมาก
สังเกตได้ว่าคุณทำอะไรก็จะได้รางวัลการันตีทุกด้าน ทั้งเรียน ทั้งการแสดง และการร้องเพลง คุณมีทางลัดหรือวิธีการง่ายๆ ไหม หากหลายคนอยากเป็นแบบคุณ
(หัวเราะ) ไม่มีอะไรง่ายในโลกนี้นะคะพี่บอกเลย ไม่มีอะไรง่ายเลยค่ะ คือตัวพี่ไม่ได้มองว่าเราเป็นคนฉลาดมาก ไม่ได้มองว่าเรามีพรสวรรค์มาก ไม่ใช่เลย แต่ว่าเราเพียงแค่ตั้งใจทำในทุกอย่างที่เราได้โอกาส เราตั้งใจได้เต็มที่ที่สุด เท่าที่เราจะทำได้นะคะ ทุ่มเททั้งเวลา กำลังกาย กำลังใจทุกอย่าง ไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่ก็ตาม เราก็จะทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด
เพราะฉะนั้นมันไม่มีทางลัด ไม่มีอะไรง่าย แม้กระทั่งเวลาที่ดูกีฬา นักกีฬาระดับโลกที่เค้าเก่งมากๆ เค้าเก่งแม้กระทั่งวิธีการคิด เค้าคิดยังไงถึงได้เล่นกีฬาได้ออกมาขนาดนั้น แต่เมื่อไปดูชีวิตเค้าแล้วเนี่ย คือพี่จะชอบดูรายการที่ตามไปดูชีวประวัติของนักกีฬา เราจะเห็นเลยว่าเค้าทุ่มเทกับการซ้อมเยอะมาก ทุ่มเทกับการซ้อมที่ถูกต้อง วางแผนว่าในแต่ละวันซ้อมอย่างไร อาหารการกินเป็นยังไง คือมันต้องคิดเยอะมาก
มันไม่ใช่แค่ว่าชอบแล้วก็ทำ แล้วมันจะประสบความสำเร็จไประดับโลก อันนั้นพูดถึงในแง่ของนักกีฬา เราเองคือเทียบไม่ได้กับนักกีฬาระดับโลก แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องอาศัยใจ อาศัยความอดทน อาศัยความมุ่งมั่น ตั้งใจและสำคัญที่สุดต้องมีวินัย มันไม่มีอะไรง่ายไม่มีทางลัด
ทุกวันนี้คุณได้รับการยอมรับไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรี การแสดง คุณคิดว่ามันเป็น “พรสวรรค์” หรือ “พรแสวง”
ไม่ใช่พรสวรรค์แน่นอนค่ะ เพราะเราไม่ใช่คนเก่ง ไม่ใช่คนฉลาด เพียงแต่ว่าเราตั้งใจ พรแสวงหรือเปล่าก็ไม่ทราบ รู้แค่ว่าตั้งใจในทุกอย่างที่มีโอกาสได้ทำ
ล่าสุดการได้รับเกียรติมาเป็นโค้ชในรายการ "The Voice Kids เสียงจริง ตัวจริง รุ่นเด็ก ซีซั่น 4" รู้สึกยังไงบ้าง
ทางทีมงานติดต่อมาเพราะเห็นความสามารถของเราว่าจะทำงานกับน้องๆได้ รู้สึกตื่นเต้นมาก ถ้าสิ่งที่เราได้เรียนรู้มา ประสบการณ์ของเราเอง หรือว่าจากที่เราเรียนกับครูมาทุกสิ่งทุกอย่างถ้าเราเก็บไว้กับตัวเองมันก็จะตายไปกับเรา แต่ถ้าเรามีโอกาสได้ถ่ายทอดได้ใช้สิ่งนั้นแล้วมันจะมีโอกาสได้ไปพัฒนาศักยภาพของคนอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ คิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีก็เลยตกปากรับคำค่ะ
กังวลไหมว่าเด็กๆ จะติดภาพที่เราเคยรับบทบาท "ป้าแย้ม"
ไม่เลยค่ะ คิดว่าสิ่งที่กังวลก็จะเป็นที่เราต้องดูแลน้องๆ มากกว่า ดูแลความรู้สึกเค้า จะพัฒนาเค้ายังไง ถ้าเกิดว่าเค้าผิดหวังจะต้องทำยังไง เราจะกังวลตรงนั้นมากกว่าค่ะ
เป้าหมายอันใกล้นี้ของคุณคืออะไร
(ยิ้ม) ปกติเป็นคนไม่คาดหวังนะคะ และไม่เคยวางเป้าหมายอะไรไว้ เพียงแต่ว่าทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ตรงนี้เรามีงานอะไรเข้ามาถ้าเราพิจารณาแล้วว่าเราน่าจะทำให้เจ้าของงาน ผู้ว่าจ้างได้ก็ทำ และเมื่อรับปากทำแล้วพี่จะตั้งใจทำให้ดีที่สุดแค่นั้นเอง ไม่เคยตั้งเป้าว่าอะไร อาจจะเป็นเพราะเป็นคนไม่คิดอะไรไกล
หลายคนสงสัยเรื่องความรักของคุณ คุณมีคนรักหรือยัง
ไม่มีค่ะ
เพลงรักบนโลกมีมากมาย คุณเองก็เคยร้องเพลงรัก เวลาร้องเพลงใช้อะไรถ่ายทอดอารมณ์ในบทเพลง
อย่างที่บอกเราก็ต้องทำความเข้าใจ ความรักมีหลายรูปแบบมากมันไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนรักแบบหนุ่มสาวเพียงอย่างเดียว เหมือนเราเป็นตัวละคร แสดงละครเป็นตัวละคร มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่เคยทำ ไม่เคยในชีวิตจริงจะไปตบคนอื่น ไปจิกหัว ถีบรูปงานศพในชีวิตจริงเราก็ไม่เคยทำ แต่ว่าเราเข้าใจได้อย่างดีโดยการที่เราศึกษาตัวละคร เช่นเดียวกันถ้าเราจะถ่ายทอดเพลงนี้ เราก็ต้องศึกษาเพลงว่าสิ่งที่เราจะถ่ายทอดคืออะไร อารมณ์คืออะไร ข้อความที่ผู้ประพันธ์เพลงเค้าต้องการจะบอกคืออะไร อันนี้มันเป็นการบ้านที่เราต้องทำค่ะ
สำหรับผู้หญิงเก่งคนนี้ เธอบอกอย่างตรงไปตรงมาว่าเธอไม่ใช่คนเก่ง ไม่ฉลาด แต่กับรางวัลที่เธอได้รับและเสียงชื่นชมไม่ว่าจะลงมือทำอะไรก็ตาม คงบอกได้ว่า “รัดเกล้า” เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแน่นอน