เจด้า ณ ลำเลียง ลูกสาวคนเดียวของแร็พเพอร์ เจ เจตริน

GQ Thailand Interview
เจด้า ณ ลำเลียง ลูกสาวคนเดียวของแร็พเพอร์เจ-เจตริน
เรื่อง: Arinn /แปล: Aimee
ภาพ: Mitchell Nguyen McCormack

เจด้า ณ ลำเลียง สาวน้อยวัย 17 ปี ย่างเข้า 18 ปี เธอเป็นลูกสาวของแร็พเพอร์หนุ่มเจ เจตริน กับอดีตนางงาม จีน่า จิดาภา ณ ลำเลียง เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ หากแต่ก็มีอดีตที่ไม่อาจหวนกลับมา ตอนนี้เจด้ากำลังโตเป็นสาวสะพรั่ง หน้าตาสวยคมเหมือนแม่ แต่เลือดความเป็นศิลปินกลับเข้มข้นเหมือนพ่อ เธอชอบงานในวงการบันเทิง ทำมาหมดตั้งแต่เดินแบบ เล่นละคร ถ่ายโฆษณา ตอนนี้เธอกำลังโฟกัสที่การเรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่ก็เพิ่งเซ็นสัญญาเป็นนางแบบในสังกัด Ford Models แน่ละประตูในวงการบันเทิงค่อยๆ เปิดรับเธอมากขึ้น อีกหน่อยเราคงเห็นเธอเจิดจรัสอยู่ในวงการบันเทิงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

อัพเดตชีวิตให้เราฟังหน่อยครับว่า ตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง แล้วอยู่สหรัฐฯ หรือเมืองไทยมากกว่ากัน
ตอนนี้เจด้าอาศัยอยู่ที่ลอสแอนเจลิสและกำลังจะเรียนจบมัธยมปลายค่ะ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็รู้แล้วว่าจะไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยไหน เจด้าตื่นเต้นมากๆ ยอมรับว่ากลัวอยู่เหมือนกัน แต่ก็อดใจรอไม่ไหวแล้วค่ะ ถึงเจด้าจะอยู่ที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็คิดว่าประเทศไทยเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง เพราะเราก็กลับไปเยี่ยมครอบครัวและไปทำงานอยู่บ่อยๆ

คุณต้องไปใช้ชีวิตที่สหรัฐฯ ตั้งแต่เด็กๆ ชีวิตที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง
เจด้าเกิดและโตที่ลอสแอนเจลิส คุณแม่เป็นคนเลี้ยงเจด้ามา เพราะฉะนั้นการโตมากับความสัมพันธ์ของแม่และลูกสาวตั้งแต่ยังเด็กเป็นเรื่องที่พิเศษ และแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ ที่อยู่ด้วยกันกับทั้งพ่อและแม่ เพราะว่าเรามีกันแค่สองคน เราสร้างเสียงหัวเราะให้กันและกัน ทำอะไรตลกๆ ร่วมกัน การที่ถูกเลี้ยงมาโดยคุณแม่ที่เป็นซิงเกิ้ลมัมไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่เจด้าก็รู้ว่าคุณแม่พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้เราทั้งคู่ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ เจด้าก็คอยช่วยเหลือแม่ในเรื่องงานบ้านบ้าง บางทีก็ทำอาหารทานเองซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่ได้เรียนรู้ตั้งแต่ยังเล็ก เราไม่มีแม่บ้านมาคอยช่วยเหลือเหมือนที่ประเทศไทย เพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

แล้วตอนเด็กๆ เจด้าชอบเล่นตุ๊กตา สร้างบ้านขึ้นมาจากผ้าห่มและกล่องกระดาษ แล้วก็ทำแฟชั่นโชว์ขึ้นมาในห้องนั่งเล่นกับลูกพี่ลูกน้องค่ะ เจด้าสนิทกับลูกพี่ลูกน้องมาก เหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆ ที่เราต่างก็ไม่มี จริงๆ แล้วเราเหมือนกันมากจนคนส่วนใหญ่คิดว่าเราเป็นพี่น้องกันจริงๆ เราเลยคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกดีเหมือนกันนะ

คุณแม่จีน่าเลี้ยงคุณแบบไหนครับ
แรงผลักดันที่ทำให้เจด้าเป็นตัวเองในแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ คือคุณแม่ที่คอยแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการพึ่งพาตัวเองค่ะ คุณแม่สอนเจด้าเสมอตั้งแต่ยังเล็กๆ ว่าให้เห็นอกเห็นใจและห่วงใยผู้อื่น รวมถึงความสำคัญของการมอบสิ่งเหล่านั้นให้ตัวเราเองด้วย เจด้าโชคดีมากที่มีคุณแม่เป็นตัวอย่างของสิ่งดีๆ เหล่านี้

คุณพ่อเจ-เจตรินล่ะ มีอิทธิพลต่อชีวิตคุณในด้านไหนบ้าง หรือคุณคิดว่าส่วนไหนที่คุณเหมือนพ่อ
เจด้าเชื่อว่าดนตรีอยู่ในสายเลือดและเป็นดีเอ็นเอของเจด้าและครอบครัวของเราเลย มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก เจด้ารักเสียงดนตรีและการเต้นที่เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของชีวิต

คุณเคยทำมาหลายอย่างในวงการบันเทิง ทั้งเดินแบบ ถ่ายโฆษณา และเล่นละคร คุณชอบทำอะไรมากที่สุด
เจด้าสนใจงานในวงการบันเทิงมาก จริงๆ แล้วเจด้ารักทุกช่วงเวลาที่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กค์ใหม่ๆ ซึ่งมันยากมากที่จะบอกว่าชอบงานแบบไหนมากที่สุดเพราะมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่สำหรับตอนนี้เจด้าคิดว่าตัวเองชอบงานโฆษณามากที่สุด เพราะมันรวบรวมทั้งการแสดงและการแต่งตัวสวยงามเอาไว้ แล้วการถ่ายทำก็ยังสนุกมากๆ อีกด้วย

รู้มาว่าคุณเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดโพลีพลัส แบบนี้ตั้งเป้าว่าจะเป็นนักแสดงเต็มตัวเลยหรือเปล่า
เจด้าเซ็นสัญญากับโพลีพลัสมา 2-3ปีแล้วค่ะ พอเจด้าโตขึ้นและได้ลองทำอะไรหลายอย่าง ก็คิดว่าอยากจะลองทำงานด้านภาพยนตร์และละครทีวีดูค่ะ

ชีวิตต่อจากนี้คิดว่าจะทำอะไรครับ ทั้งเรื่องเรียนและงานในวงการบันเทิง
ตอนนี้เจด้าวางแผนจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยค่ะ ระหว่างที่เรียนเจด้าก็อยากจะค้นหาสิ่งที่ชอบทางด้านการศึกษาและทำงานในวงการบันเทิงไปด้วย เรารู้ว่ามันยาก แต่ก็เชื่อว่าเราต้องทำได้ด้วยความตั้งใจและแรงผลักดันที่มีอยู่ งานถ่ายแบบและการแสดงถือเป็นส่วนสำคัญในชีวิตเราเลย เจด้าเองก็นึกไม่ออกเลยว่าชีวิตที่ไม่มีมันจะเป็นอย่างไร ช่วงที่ผ่านมาเจด้าเพิ่งจะเซ็นสัญญากับ Ford Models ที่ลอสแอนเจลิสไป เจด้ารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำงานร่วมกับที่นี่ เจด้าเชื่อว่าเขาจะช่วยให้เรารู้ว่าเส้นทางในฐานะนางแบบของเราจะไปในทิศทางไหน แล้วก็จะช่วยผลักดันให้เราไปได้ไกลขึ้น

นอกจากการเรียนและงานในวงการบันเทิงแล้ว เจด้าก็อยากจะมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองสักวันหนึ่ง และทำงานในมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลต่างๆ เพื่อช่วยเหลือคนที่ยังขาดโอกาสในประเทศไทย