หน้าเป๊ะ ผิวปัง! ฉีดปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน พร้อมเผยผิวใสด้วย X-DNA อสุจิปลาแซลมอน

          สวัสดีค่ะสาวๆ ห่างหายไปนาน สำหรับการรีวิวในเรื่องของการไปทำสวย >.< วันนี้ขวัญจะมาแชร์เกี่ยวกับเรื่องของการปรับรูปหน้าให้เป๊ะ และการเผยผิวปังด้วยนวัตกรรมใหม่ จากโปรแกรมเผยหน้าสวยใสด้วยอสุจิปลาแซลมอน อุ๊ปส์!! อสุจิปลาแซลมอนหรออออ ..??  มันเป็นยังไง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง วันนี้ขวัญจะมาอธิบายให้เข้าใจกันค่ะ

          เริ่มที่การปรับรูปหน้ากันก่อนค่ะ ในการทำครั้งนี้  ขวัญ เลือกที่จะเข้าไปขอคำปรึกษากับพี่หมอก๊อต  นพ.ธนุพล  แสงโชติ พี่หมอประจำอยู่ที่ Activa Clinic The walk เกษตร-นวมินทร์ ค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่า ขวัญไม่เคยทำอะไรกับใบหน้าทั้งนั้น ฉีดอยู่อย่างเดียวคือฉีดสิว!! แต่ถามว่ามีปัญหากับรูปหน้าตัวเองไหม ..?

          ความจริงก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองอยากเปลี่ยนอะไร ที่รู้สึกว่าเป็นปัญหาที่สุด คือรู้สึกว่าแก้มทั้งสองฝั่งไม่เท่ากัน และด้วยความผอมหรือเปล่าไม่แน่ใจ เลยทำให้เวลายิ้มเห็นตรงคางเป็นร่อง ซึ่งพี่หมอก็ได้ลองวิเคราะห์ดูว่าจริงๆ แล้วขวัญควรจะปรับตรงไหนบ้าง

          พี่หมอบอกว่า ขวัญ เป็นคนที่มีใบหน้าสวยอยู่แล้ว แต่มันเหมือนยังไม่สุด นี่เคยแอบไปฉีด หรือทำศัลยกรรมอะไรมาก่อนบ้างหรือเปล่า แต่เปล่าเลย ธรรมชาติล้วนค่ะ ฮ่าๆๆ แต่มันเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป พี่หมอก็อตแนะนำว่าควรแต่งเติมแก้ไขจุดพร่องอีกเล็กน้อยเพื่อให้สวยขึ้นนั่นเอง ขวัญก็นั่งฟังแล้วกลับมานั่งคิดวิเคราะห์หาข้อมูลเพิ่มเพื่อประกอบในการตัดสินใจก่อน เพราะขวัญจะทำการหาข้อมูลให้แน่นก่อน ค่อยตัดสินใจทำอะไร เพราะถ้าพลาดไปมันคือตัวเรา!!! อันนี้เป็นสิ่งที่ขวัญคิดอยู่เสมอ

อธิบายสั้นๆ  ให้เข้าใจง่ายๆ ว่า

         ถ้าต้องการเติมเต็มส่วนที่ขาด  ต้องฉีดสารที่มีชื่อว่า ฟิลเลอร์ (Filler) เข้าไป ซึ่งสารนี้จะเข้าไปช่วยเติมเต็มพวกร่องลึก สร้างมิติให้หน้าดูพุ่ง ดูเต็ม ซึ่งก็ต้องศึกษาหายี่ห้อให้ดี ได้รับอย.ในไทย และต้องปลอดภัยจริงๆ เพราะถ้าไม่ได้รับอนุญาตแล้วละก็ ไม่ดีแน่ๆ เพราะอาจจะส่งผลให้ฟิลเลอร์ไหล ตกค้าง เกิดพังผืด ต่างๆ นานา

         สำหรับโบทูลินัมทอกซิน หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกว่าโบท็อกซ์ นั้นก็คือสารที่จะมาช่วยลดส่วนที่เราไม่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น กราม ลดริ้วรอยต่างๆ ซึ่งเช่นเดียวกับเจ้า ฟิลเลอร์ ที่ต้องศึกษาหาข้อมูลดีๆ ได้รับอนุญาตจริงๆ ตัวนี้สำคัญที่สุดเลยนะคะสาวๆ อย่าคิดแค่ว่าฉีดแล้ว ซักระยะนึงมันจะหายไป แต่ระหว่างนั้นอาจจะเกิดผลเสียก็ได้ เช่นการดื้อยา  ต้องดูให้ดีจริงๆ นะ >.<

       ซึ่งสารเหล่านี้ เมื่อฉีดเข้าไปจะมีอายุอยู่ได้ชั่วคราว โดยฟิลเลอร์  จะคงอยู่ใต้ผิวเป็นเวลา 6 เดือน -2 ปีโดยประมาณ ขึ้นอยู่คุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละรุ่น/ ส่วนโบท๊อกซ์คือ 4-8 เดือนโดยประมาณ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลของแต่ละคนด้วย เมื่อเวลาผ่านไป สารเหล่านี้ก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ และใบหน้าของเราก็จะกลับมาเหมือนเดิมก่อนทำค่ะ

       และเมื่อหาข้อมูลมาในระดับหนึ่ง บวกกับการเข้ามาพูดคุยกับพี่หมอ ดูทั้งความสะอาดการบริหารต่างๆ ของคลินิกแล้ว (ต้องบอกก่อนว่าที่ดูเยอะขนาดนี้เพราะเป็นครั้งแรก จริงๆ และก็มีความกลัวอยู่ในใจอีกด้วย)

      พี่หมอก็จะคอยอธิบายให้เราฟังอยู่ตลอดเวลาโดยเริ่มจากเรื่องที่เรารู้ตัวเองก่อน นั่นคือ แก้ม พี่หมอบอกว่าจะทำการฉีดเมโสแฟตลดไขมันแก้มฝั่งขวาอย่างเดียว เพราะแก้มข้างขวาใหญ่กว่าข้างซ้าย ซึ่งจะทำให้ใบหน้าสมมาตรมากขึ้น  และเติมฟิลเลอร์ตรงร่องใต้ตาข้างขวาให้เต็มเพราะเป็นส่วนที่ขาดไป

       ต่อมา พี่หมอบอกว่า ตรงช่วงร่องน้ำหมากขวัญถ้าปล่อยไว้ อายุมากขึ้นๆ มาแน่ๆ แถมจะทำให้ดูมีอายุเร็ว  เพราะตอนนี้มันก็เริ่มลึกแล้ว ดังนั้นพี่หมอจะทำการเติมช่วงบริเวณแอ่งช่วงนี้เพื่อที่จะช่วยดึงให้มันดูเต็มขึ้นและทำให้หน้าดูไม่เหนื่อย จริงๆ แต่ก่อนขวัญมีนะเนื้อตรงส่วนนั้น แต่อย่างที่บอกคะ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น อะไรก็เริ่มลดลงตามกาลเวลา

     ต่อมาจุดที่พี่หมอทักเลยว่า นี่ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์จริงๆ ใช่ไหม คือหน้าผากขวัญดูเหมือนเคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้วแต่ฉีดไม่เสร็จอ่ะ มันโหนก แล้วก็ยุบลงไป เหมือนโดนตีหน้าผากแล้วเป็นร่องลงไปอะไรประมาณนี้  ซึ่งขวัญก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน พี่หมอเลยบอกว่า จะเติมตรงส่วนนี้ให้เต็ม เพื่อให้มันเกิดความสมดุล

       สุดท้ายอีกหนึ่งจุดที่พี่หมออยากเติมให้ คือ จมูก เดิมทีก็เป็นคนมีจมูกอยู่แล้ว แต่พี่หมอบอกว่าตอนนี้เติมเพื่อที่จะทำให้ใบหน้ามีมิติ ขอเติมตรงช่วงปลายให้รับกับใบหน้าอีกนิดนึง รับรองเป๊ะ!

       นอกจากที่พี่หมอจะทำการเติมเต็มแล้ว พี่หมอก็บอกว่าจะฉีดโบท๊อกซ์ด้วย ตอนแรกขวัญมองว่าการโบท๊อกซ์ยังไม่จำเป็นอะไรกับขวัญในตอนนี้ เพราะริ้วรอยก็ยังไม่มี แล้วก็ไม่ได้อยากหน้าเล็กแล้ว ซึ่งพี่หมอได้อธิบายให้ขวัญฟังว่า ถ้าเทียบให้เห็นว่า มีขวัญอยู่ 2 คน ขวัญคนแรกฉีดโบท๊อกตั้งแต่อายุไม่เยอะ กับขวัญอีกหนึ่งคนไม่ฉีดอะไรเลย สุดท้ายเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ขวัญที่ฉีดจะมีริ้วรอยน้อยกว่าขวัญที่ไม่ได้ทำอะไรเลย

        ซึ่งเรื่องนี้ขวัญเคยสอบถามจากคุณหมอท่านอื่นๆ เหมือนกันเพราะส่วนใหญ่ขวัญจะทำแต่ทรีตเมนต์บำรุงผิว ก็จะคอยถามคุณหมออยู่เสมอว่า ขวัญควรดูแลตรงนี้หรือยัง ควรเริ่มตอนไหน ซึ่งคุณหมอก็อธิบายเช่นเดียวกันเลย ขวัญก็เลยตัดสินใจ ฉีดโบท๊อกซ์ลดกราม และเก็บกรอบหน้าให้ชัดขึ้น บวกกับฉีดบริเวณหว่างคิ้วเพื่อให้หน้าดูหวานขึ้นนั่นเอง

         ส่วนคางไม่ต้องไปทำอะไรมันเลยค่ะ ยาวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ก่อนกังวลนะว่าเรามีคางยาวไปไหม แต่พอปรับทุกอย่างในสมดุลกัน ทำให้คางมันรับกับส่วนต่างๆ มากขึ้นค่ะ

   และนี่ก็คือผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับรูปหน้าในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าโครงหน้าไม่ได้เปลี่ยน แต่ดูอิ่มขึ้น ดูเต็มขึ้น สมมาตรมากขึ้น มีมิติมากขึ้น ร่องน้ำหมากช่วงปากหายไปเลย หน้าดูสดใส หน้าผากก็ดูเปร่งเต็ม อีกหนึ่งจุดที่สังเกตได้คืออย่างที่ขวัญบอกไปคือ ร่องข้างคาง เพราะเวลายิ้มจะเห็นชัด แต่พอพี่หมอปรับให้สมมาตรกันเวลายิ้มก็ไม่ค่อยเป็นร่องแล้ว เย้ๆ >.<

       สำหรับขวัญแล้ว ขวัญจะถามพี่หมออยู่เสมอว่า หน้าขวัญจะเปลี่ยนไหม เพราะ ขวัญไม่อยากให้หน้าเปลี่ยนเลย ซึ่งพี่หมอตอบเป็นเสียงเดียวเลยว่า ไม่เปลี่ยนแต่จะสวยขึ้นกว่าเดิมที่สวยอยู่แล้ว จะดูมีมิติ เป๊ะทุกมุมนั่นเอง ซึ่งขวัญก็สบายใจและก็ได้ผลลัพธ์ที่พอใจ หน้าได้สมมาตร สัดส่วนพอดี เป๊ะ!!!

      มาต่อกันที่การทำผิวหน้าให้ใส ด้วยการฉีดอุสจิปลาแซลมอน หรือ  การฉีดวิตามิน X-DNA ที่ขวัญเคยได้ยินและเริ่มหาข้อมูลมาซักระยะนึงแล้วล่ะ ทีนี่ขวัญเลยตั้งสินใจเข้าไปปรึกษาพี่หมอก๊อตอีกครั้ง ถามเรื่องเกี่ยวกับว่า จริงๆ แล้วอุสจิปลาแซลมอน มันคืออะไร..?  ช่วยเรื่องอะไรบ้าง มาฟังจากปากพี่หมอกันเลย

       ใช่แล้วค่ะ ก็แอบเหมือนที่ขวัญคิดไว้เหมือนกันนะ การฉีดอสุจิปลาแซลมอนจะช่วยเติมเต็ม ริ้วรอย ร่องลึก ผิวหน้าชุ่มชื้น กระตุ้นกาสร้างคอลลาเจน  ฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดการซึบซับรังสี UVA และ UVB  ต้านอนุมูลอิสระ  มีสารสกัด NCTC จากธรรมชาติมีวิตามินกว่า 43 ประโยชน์เยอะเยะมากมายจริงๆ

       โดยปกติขวัญเป็นคนที่ชอบการบำรุงผิวหน้าอยู่แล้ว แต่กว่าจะเชื่ออะไร ก็ต้องหาข้อมูลทั้งตัวยาทั้งตัวหมอให้ครบ ให้ดีจริงๆ พอลองหาข้อมูล เช็คแหล่งที่มา ปลอดภัย แถมได้มาตรฐานการรับรอง ก็ตกลงปลงใจ ฉีดเลย อิอิ >.<

สำหรับวิธีการฉีดก็ไม่ยุ่งยากค่ะ ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด ทายาชาทิ้งไว้ 30 นาที

      จากนั้นก็ทำการฉีดได้เลย โดยพี่หมอจะฉีดตัว NCTC เข้าไปก่อนเพื่อให้ผลเป็นไปอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็จะตามด้วย X-DNA ซึ่งจะทำการฉีดให้ตัวยากระจายทั่วใบหน้า เทคนิคนี้จึงต้องเป็นคุณหมอที่เชียวชาญจริงๆ ตัวยาจะได้เห็นผลชัดเจน

       หลังจากทำเสร็จก็สามารถใช้ชีวิตได้ปกติค่ะ ที่เห็นปูดๆคือตัวยาที่ฉีดเข้าไปค่ะ ประมาณ 5-10 นาทียาก็จะถูกดูดซึมไปอยู่ใต้ผิว ไม่เขียว ไม่ปวด ไม่ช้ำ และนี่ก็คือใบหน้าสดๆ หลังล้างหน้าเลย ซึ่งพี่หมอบอกว่า ควรฉีดทุก 1-2 สัปดาห์ ต่อเนื่องประมาณ 3-4 ครั้ง เพื่อเห็นผลชัดเจน แลละยาวนานค่ะ

         ซึ่งการทำสวยทั้ง 2 อย่างนี้  ขวัญทำการศึกษาหาข้อมูลก่อนแล้ว ไม่ได้ตัดสินใจทำในทันที ขวัญอยากจะแชร์ให้สาวๆ ได้เข้าใจว่า ก่อนที่เราจะตัดสินใจทำอะไร ที่สำคัญที่สุด อย่าใจร้อน เลือกให้ดี เช็คให้ครบ ว่าคุณหมอที่เราจะทำเป็นยังไง คลินิกสะอาดไหม ตัวยาได้ อย. หรือเปล่า เพราะท่องไว้เสมอนะคะ นี่คือใบหน้าของเราตัวของเรา ตัดสินใจดีๆ นะคะ สำหรับใครที่อยากจะไปปรึกษาพี่หมอก๊อต ก็สามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Activa Clinic ค่ะ