STAYING STRONG ผู้หญิงคนแกร่งที่ใช้หัวใจเป็นสิ่งนำทาง
สวยวัย 35 ปีที่นั่งอยู่ตรงหน้าเราตอนนี้ คือพลอย-พลอยพรรณ ภัทรธีรานนท์ เธอสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะบินลัดฟ้าไปยังประเทศอังกฤษในสาขา Marketing Communications ที่ University of Westminster และกลับมาจับธุรกิจ Hair Accessories ด้วยการสร้างแบรนด์ Tête-a-porter ที่สร้าง ชื่อเสียงและรายได้ให้กับเธออย่างงดงาม จนเราอดไม่ได้ที่อยากจะทำความรู้จักกับเธอคนนี้
“คุณแม่ของพลอยคือคุณสินีนาฏ ภัทรธีรานนท์ จริงๆ พลอยเติบโตและอยู่กับคุณพ่อเลี้ยงคือคุณประพันธ์ ภัทรธีรานนท์ ส่วนคุณพ่อแท้ๆ คือคุณกัมพล ตันสัจจา พลอยมาเจอกับคุณพ่อแท้ๆ ตอนที่โตแล้วอายุประมาณ 27 ปี ช่วงนั้นเป็นช่วงที่พลอยกำลังจะเปลี่ยนงานพอดี ซึ่งคุณพ่อก็อยากให้มาช่วยงาน
ที่สวนนงนุชของคุณพ่อ พอทำงานตรงนี้เราก็เริ่มจากไปดูสวนที่อังกฤษ เขาจัดงาน Chelsea Flower Show เป็นงานแสดงการจัดสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยทุกประเทศก็จะส่งผลงานเข้าประกวด ช่วง 2 ปีแรกก็ไปดูเฉยๆ แต่หลังจากนั้นพลอยก็ไปช่วยงานคุณพ่อตลอด ซึ่งสวนนงนุชก็ได้เหรียญทองมา 6 ปีติดต่อกัน พลอยจะช่วยในส่วนของงานประชาสัมพันธ์ทางสื่อที่อังกฤษคอยแนะนำให้ข้อมูล ตรงนี้เป็นเหมือนงานประจำปีที่พลอยมาช่วยคุณพ่อ พอตอนหลังคุณพ่อก็ให้มาช่วยทำบริษัทออร์แกไนซ์ชื่อ Black Sheep Event Organizer ก็เลยทำงานด้าน Business Development Director” คุณพลอยเล่าประวัติตัวเองคร่าวๆ
ทราบมาว่าคุณทำงานมาหลายอย่างมากนะครับ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าทำอะไรมาบ้าง
เมื่อก่อนพลอยทำร้านอาหาร และทำอาหารญี่ปุ่นส่งเทสโก้โลตัส แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว เพราะหันมาทำบริษัทออร์แกไนซ์ แต่ช่วง 5-6 ปีที่่ผ่านพลอยมีงานอดิเรกที่รักมากต้องเล่าย้อนไปตั้งแต่ตอนเรียนจบแล้วกลับมาทำงานที่เมืองไทยใหม่ๆ พลอยทำงานที่ Pendulum ในส่วน Marketing Communication จํากัด ทำงานตรงนั้นเลยไปเจอพาร์ตเนอร์คนหนึ่งคือคุณมิ้งค์-วิทิดา ตรังอดิศัยกุล ตอนนั้นเขาเป็น Brand Manager ของ Frank
Muller จนพี่มิ้งค์ไปมีครอบครัว พลอยก็ไม่ได้ทำ Pendulum ต่อก็เลยมานั่งคิดกันว่าจะลองทำอะไรด้วยกันสักอย่างในที่สุดก็มาลงตัวที่ธุรกิจ Hair Accessories จนกลายมาเป็นเครื่องประดับศีรษะแบรนด์ Tête-a-porter แบรนด์ของเราวางขายที่รายาวดี ร้าน Again & Again, ร้านน Commit a Sin แล้วก็มีขายออนไลน์ในอินสตาแกรมซึ่งอันนี้ก็เป็นงานนอดิเรกของพลอย ถือว่าได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ นอกจากนี้พลอยยังชอบสะสมเข็มกลัดโบราณ ตอนนี้ก็เลยมีแบรนด์เข็มกลัดกับเพื่อนอีกคนหนึ่งชื่อแบรนด์สิริเทพิน ทำ
ได้ 7-8 เดือนแล้ว ฟีดแบ็กดีมาก ทุกวันก็ทำงาน 7 วัน แต่ก็สนุกดีค่ะ ยิ่งตอนนี้คุณพ่อกำลังทำโรงละครใหม่ชื่อนงนุชเธียเตอร์ ที่สวนนงนุช เนื้อที่ประมาณ 11,000 ตร.ม. พลอยก็กำลังคุยๆ กับคุณพ่ออยู่ว่าจะให้ช่วยอะไรไหม
ทำงานเยอะขนาดนี้คุณจัดสรรเวลาส่วนตัวอย่างไร
วันๆ หนึ่งพลอยงานค่อนข้างแน่น แต่โชคดีที่ไม่ได้ขับรถเองเพราะฉะนั้นช่วงที่อยู่บนรถก็จะมีเวลาทำงานหรือตอบไลน์ลูกค้า ส่วนตอนเช้าก็จะไปออกกำลังกาย เมื่อก่อนพลอยเคยขี่ม้าแต่ประสบอุบัติเหตุตกม้า ทำให้กระดูกที่หัวเข่าร้าว ก็เลยเลิกไปเลย ตอนนี้มาเรียนเต้นกับพี่ที่เซนท์โยฯ มาด้วยกัน เราเรียนอาทิตย์ละ 2-3 วัน เต้นกันจริงจังมาก ส่วนถ้าวันไหนไม่ได้เรียนเต้นก็จะเรียนต่อยมวย พลอยจะให้ครูต่อยมวยมาสอนที่คอนโด มันทั้งสนุกและเอาไว้ป้องกันตัวได้ด้วย
บุคลิกภายนอกดูเป็นคนอ่อนหวาน นิสัยจริงๆ ของคุณเป็นคนแบบไหน
เอา จริงๆ ก็ไม่ค่อยหวานหรอกค่ะ น่าจะเป็นคนไฮเปอร์ๆ ขำๆ มากกว่า และไม่ค่อยยอมคม (หัวเราะ) พลอยจะเป็นคนใจร้อนแต่ช่วงหลังๆ นี่ได้ธรรมะช่วย เลยมีคำว่าเข้าใจโลกมากขึ้น สมมติมีคนพูดไม่ดีใส่เรา ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะลุยกลับ แต่ตอนนี้พลอยพยายามใช้คำว่าเข้าใจมากกว่าคิดว่าเขาอาจจะอารมณ์ไม่ดี อาจจะเป็นวันที่ไม่ดีของเขา ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ใจเย็นลงเยอะค่ะ
อ่านบทสัมภาษณ์เพิ่มเติมได้ที่นิตยสาร OK! vol.7 no.270 March 2016