ซิกแพคสร้างศรัทธา เมื่อ “คิด เช่น แมร์” “กาละแมร์ พัชรศรี”

“เรารักตัวเองมากขึ้น ศรัทธาตัวเองมากขึ้น เพราะเราสามารถก้าวข้ามสิ่งยาก และไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำได้”… “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” พิธีกรหญิงคนเก่งแห่งยุค ไม่ได้พูดถึงการก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรคจากการทำงาน ไม่ได้พูดถึงการเอาชนะจิตใจคนอื่น แต่เธอกำลังพูดถึงการเอาชนะจิตใจตัวเองจนสามารถเดินทางไปถึง “เป้าหมาย” เรื่องรูปร่าง สุขภาพ และจิตใจอันสดชื่นในวัยใกล้เลขสี่

การเอาชนะจิตใจคนอื่นได้ยังไม่น่าภาคภูมิเท่ากับการเอาชนะจิตใจตนเอง โดยเฉพาะเมื่อสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเก่งรอบด้านอย่างกาละแมร์ไม่เคยสอบผ่าน อะไรทำให้ผู้หญิงเก่งคนนี้หันมาปฏิวัติตัวเองครั้งใหญ่ อะไรคือรางวัลทรงคุณค่าหลังเปลี่ยนความคิด Sanook! Women ชวนตามความคิดของอดีตผู้หญิงที่เคยอ้วน ดำ สุขภาพพินาศ แต่ปัจจุบันกลายเป็นผู้หญิงเก่ง สวย รวยเงิน รวยสุขภาพ

เพราะป่วย จึงเปลี่ยน
การใช้ชีวิตที่ผ่านมาของคุณกาละแมร์ไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไป ทำงานหนัก กินอาหารตามใจปาก ไม่เคยออกกำลังกาย และไม่คิดเรื่องเข้าครัวทำอาหารทานเอง การละเลยเช่นนี้ผ่านแล้วผ่านเล่าจนเข้าสู่ช่วงวัยกว่า 30 หลังพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพก็พบว่าร่างกายพัง อ้วน ไขมันในเลือดและน้ำตาลในเลือดสูง สิ่งเหล่านี้สะท้อนสู่ภายนอกผิวพรรณไม่สดใส หน้าตาดูเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า เมื่อร่างกายตะโกนเตือนขนาดนี้ เธอจึงเริ่มคิดที่จะเปลี่ยนโดยตั้งเป้าหมายถึงการมีซิกแพค และรูปร่างที่ดี

“เรารู้สึกอยากมีรูปร่างสวยงาม มีซิกแพค ก่อนหน้านี้ออกกำลังกายเฉยๆ แต่ไม่ควบคุมอาหาร ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม แต่พอเจอเทรนเนอร์เขาก็แนะนำว่าอะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ และแนะนำให้เราทำอาหารทานเอง จากที่เป็นคนทำอาหารไม่เป็น ก็เริ่มทำตามสัญชาติญาณความเป็นแม่ศรีเรือน ตอนแรกหน้าตาดูแย่มาก แต่พอทำไปเรื่อยๆ จนเชี่ยวชาญ รสชาติ หน้าตามันก็ดีขึ้น พอควบคุมอาหารได้ 3 เดือนร่างกายเราก็เปลี่ยนเลย”

ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
คุณกาละแมร์เป็นผู้หญิงเก่ง มีความมุ่งมั่น ที่ผ่านมาเธอสามารถฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคในการทำงานมานับครั้งไม่ถ้วน แต่กลับเริ่มคิดเรื่องการปฏิวัติตัวเองในวัยเกิน 30 สำหรับบางคนการเริ่มต้นยากกว่าการทำต่อไป แต่สำหรับเธอแล้วหลักการสำคัญเดียวที่ยึดมั่นคือการตั้งเป้าหมายให้เห็นภาพที่ชัดเจน แล้วมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายนั้น

“คุณต้องมีเป้าหมายชัดเจน คุณจะทำเพื่ออะไร เพื่อใคร จะทำเพื่อผู้ชาย เพื่อสามี เพื่อลูก คุณไม่อยากเจ็บป่วยอย่างนี้อีกต่อไปแล้ว มีโรคประจำตัวอันนั้นก็ปวด ไอ้นี่ก็เมื่อย ขึ้นบันไดก็เหนื่อย เราต้องตั้งเป้าหมายให้ชัด เพราะระหว่างเดินทางมันมักมีมารผจญ เฮ้ยเลี้ยงบุฟเฟ่ต์วันนี้เต็มที่ เฮ้ยวันนี้ปาร์ตี้ งานแต่งงาน งานบวช ระหว่างทางมันจะมีอย่างนี้ ถ้าคุณไม่เข้มแข็งคุณก็จะไหลไปเหมือนเดิม”

ในระยะเวลาเพียง 3 เดือนเธอเริ่มเห็นกล้ามท้องของตัวเองชัดขึ้น ผลตรวจสุขภาพดี เลือดไหลเวียนดี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลมาจากมีวินัยในการออกกำลังกาย รวมไปถึงการรับประทานอาหารคลีนฝีมือตัวเอง

ออกกำลังกายต้องเห็นแก่ตัว
ข้ออ้างยอดฮิตสำหรับคนที่ยังไม่คิดเรื่องออกกำลังกายมีทั้งไม่มีเวลา ไม่มีเพื่อน กลัวเหงา ติดงาน ฯลฯ คนเหล่านี้จะปล่อยให้ร่างกายพัง สำหรับคุณกาละแมร์เธอบอกว่าเรื่องแบบนี้ใครทำใครได้

“ไม่ใช่ว่ามีเพื่อนแล้วร่างกายเราถึงจะดี แต่เรื่องการออกกำลังกายใครทำมากได้มาก ใครทำน้อยได้น้อย อย่าเขินอาย ตอนแรกมันก็มีบ้าง การเล่นกีฬามันจะทำให้เรารู้จักกันโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องหนีบเพื่อนไปตลอด ตอนแรกๆ มีนะ นัดเพื่อนแล้วเพื่อนไม่ว่างก็ไม่ได้ออก เพราะฉะนั้นใครว่างตอนไหนไปตอนนั้น หาเพื่อนให้ไปหาเอาข้างหน้า อย่างที่บอกร่างใครร่างมัน ทุกคนมีเวลาหมด อยู่ที่ว่าจะแบ่งเวลายังไง แค่เลิกเมาท์ เลิกเผือก คุณก็มีเวลาแล้ว”
การออกกำลังกายและเลือกทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย โดยเฉพาะลงมือทำเองถือเป็นการบอกรักตัวเอง ที่ใครทำแทนไม่ได้

“เราว่าเรารักตัวเองมากขึ้น คนอื่นจะเป็นยังไงมันเป็นเรื่องของเขา เราไม่สามารถเปลี่ยนใครได้ แต่เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงได้คือเปลี่ยนตัวเอง ถ้าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น อะไรที่ดีเราจะทำให้กับตัวเอง อะไรที่แย่เราจะไม่ทำให้กับตัวเอง มันจะใช้สมองในการกินมากขึ้น มากกว่าเมื่อก่อนจะใช้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่า อร่อย หน้าตาดี เราจะกิน ตอนนี้มีประโยชน์ไหม ถ้ามีเราก็จะกิน”

ศรัทธามีค่ามากกว่าซิกแพค
ปัจจุบันคุณกาละแมร์มีรูปร่างที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด มีกล้ามเนื้อมากขึ้น ดูผอมลง มีซิกแพค หน้าเด็กลง ผิวพรรณดี ระบบขับถ่ายดี ผมไม่ร่วง และรู้สึกกระฉับกระเฉง นอกจากนั้นสิ่งที่เธอได้รับและมีคุณค่ามากที่สุดคือ “ความศรัทธาในตัวเอง”

“เมื่อเราออกกำลังกายนอกจากสิ่งที่ส่งผลต่อร่างกายอันเป็นรูปธรรมภายนอกแล้ว สำหรับภายในคือ “จิตใจ” เรารู้เลยว่าเราทำอะไรได้โดยไม่มีอายุเป็นข้อจำกัด เพราะเรารู้สึกว่าไม่ว่าจะวัยไหน ถ้าร่างกายคุณพร้อมคุณก็ทำได้ เรารู้สึกว่าเรามีความมั่นใจมากขึ้น ชอบตัวเองมากขึ้น ศรัทธาในตัวเองมากขึ้น เพราะเราได้ก้าวข้ามในสิ่งที่เราว่ายากมาแล้ว ที่ว่าเฮ้ยเราทำไม่ได้หรอก เราขี้เกียจ เราคงเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก แต่วันหนึ่งเราทำมันได้แล้ว เรื่องที่ว่าเราทำไม่ได้หรอก วันหนึ่งเราทำได้ มันเป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง “ดีว่ะ เราชอบตัวเอง”

คุณค่าและความศรัทธาในตัวเองของแต่ละคนแตกต่างกัน สำหรับบางคนอาจรู้สึกมีค่าเมื่อคุณได้เลื่อนตำแหน่ง สำหรับบางคนอาจรู้สึกมีค่าหรือขีดความศรัทธาในตัวเองเพิ่มมากขึ้นเมื่อบทบาทของคุณเปลี่ยนไป แต่สำหรับเธอคนนี้ความศรัทธาเกิดจากฝีมือของตัวเอง เป็นความศรัทธาที่ทุกคนมีสิทธิเป็นเจ้าของเช่นเดียวกัน

“แมร์บอกตัวเองไว้เสมอ ตราบใดที่เรามีลมหายใจ อย่ามีชีวิตไปวันๆ หายใจทิ้ง และก็ไม่ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและสังคมเลย ถ้าจะมีชีวิตอยู่ต้องอยู่ให้ดี ทำเพื่อคนอื่นให้ดี ทำให้ตัวเราเองดี บอกกับตัวเองอย่างนี้ทุกวันว่าชีวิตเราต้องดีขึ้นทุกๆ ด้าน

แมร์ทำได้ทุกคนก็ทำได้”

อัพเดทเรื่องราวมากมายที่ผู้หญิงห้ามพลาดได้ที่ อินสตาแกรม :  sanookwomen