"รัก (กิน) ให้พอดี ชีวิตก็มีสุข" ในแบบ "ดีเจพี่อ้อย นภาพร"

เรื่อง : ณัฐธพัฒน์ วรมิศร์ / ภาพ : วัจนนท์ ภาคะ

ตลอดเวลา 11 ปีที่ผ่านมา ชื่อ ดีเจอ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ผ่านหูคนฟังที่กำลังตกอยู่ในวังวนของความรักทั้งผิดหวังและสมหวังมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หากเปิดคลื่นกรีนเวฟ 106.5 บนหน้าปัดวิทยุทุกวันศุกร์ตอน 22.30 น. เราจะได้ยินเสียงนุ่มๆ (ฟังแล้วรู้สึกเย็นใจ) ของพี่อ้อยจัดรายการ “คลับฟรายเดย์” คู่ พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา คอยรับฟังปรึกษาปัญหาทางใจและให้แง่คิดด้วยคำพูดลึกซึ้งเข้าถึงอารมณ์ จนเกิดเป็นความรู้สึกใกล้ชิดและผูกพันระหว่างดีเจกับผู้ฟังมาอย่างยาวนาน

“การเป็นดีเจคืออาชีพเดียวที่อยากเป็นแล้วเราก็ได้รับโอกาสนั้น เป็นเรื่องน่ายินดีมากที่วันนี้พี่ยังได้ทำอาชีพที่รักอยู่ในคลื่นกรีนเวฟ ซึ่งมีคาแรกเตอร์ตรงกับตัวเองที่ชอบดูแลความรู้สึกของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันและชอบให้มากกว่าการได้รับ (ยิ้มกว้าง)” แม้อยู่หลังไมค์เราก็ยังรู้สึกได้ถึงไออุ่นของพี่อ้อยเสมอ

“หลายคนมักให้พี่นิยามความรัก แต่พี่ไม่มีนิยาม แค่รู้สึกว่าถ้าเรารักใคร เราจะไม่ทำให้คนคนนั้นเสียใจ เพราะเมื่อไรที่เธอเสียใจคนที่เจ็บกว่าคือฉัน ใครก็ตามที่โทรเข้ามาคุยกันในรายการคลับฟรายเดย์แล้วเล่าว่าแฟนหนูนอกใจแต่เขาบอกว่ารักหนูที่สุด มันเป็นคำว่ารักที่ฟังไม่ขึ้น เพราะรักกันจะไม่ทำร้ายกัน ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลังก็ตาม

“ได้ยินมาหลายครั้งว่าผู้ฟังในรายการมักชอบคำพูดของเรา รู้สึกดีใจที่ทุกคนชื่นชอบจริงๆ แต่พี่ขอย้ำว่า คำคมไม่สำคัญเท่ากับสิ่งนั้นทำได้จริงไหม พี่อ้อยเป็นคนชอบภาษาไทย เพราะเป็นภาษาที่สวยงามกลมกล่อม มีคำหนึ่งคำพอเรามาเรียงสลับกันความหมายก็เปลี่ยนไป เช่น รักหมดใจ สลับใหม่เป็น ใจหมดรัก เห็นไหมเปลี่ยนไปสุดขั้ว! แล้วพี่รู้สึกว่าเมื่อไรก็ตามที่เป็นคำคล้องจองจะทำให้เราจำสิ่งนั้นได้แม่น พี่ก็เลยชอบเขียนหนังสือ ทำพ็อกเก็ตบุ๊กควบคู่ไปด้วย ทำให้เวลาที่จัดรายการสมองจะประมวลทุกอย่างออกมาเป็นคำอัตโนมัติโดยไม่ต้องจดสคลิป”

เชื่อว่าคนที่อยากแชร์และเล่าประสบการณ์ความรัก มักเป็นรักที่อึดอึดใจค่อนไปทางลบ หากให้พี่อ้อยแนะนำอาหารสำหรับคนอกหัก พี่อ้อยคิดว่าควรกินอะไรดี?
“อาหารที่เหมาะกับคนผิดหวังในความรักควรเป็นอาหารรสจัด เลือกเอาที่เราชอบได้เลยค่ะ เพราะรสเผ็ดจะไปสร้างเอ็นดอร์ฟินหรือสารแห่งความสุขในร่างกาย แต่ก่อนกินแนะนำให้กินกล้วยน้ำว้ารองท้องก่อน เพราะเป็นผลไม้ที่ทำให้อารมณ์โดยรวมของเราดีขึ้นมาก

รู้ไหมว่าก่อนพี่เบิร์ดและพี่ป้างขึ้นคอนเสิร์ตก็กินกล้วยน้ำว้าเพราะมันสร้างฟีล สร้างเอ็นดอร์ฟิน คุณแม่พี่ป่วยเป็นโรคลมชักตั้งแต่เด็กๆ ต้องดูแลเรื่องสมอง คุณหมอก็บอกว่าคนที่กินยาเกี่ยวกับสมองนานๆ จะมีภาวะเครียด พี่ก็จะมีกล้วยน้ำว้าติดบ้านไว้ตลอด โรคภัยไข้เจ็บสมัยนี้มันอิงกับจิตใจสูงมาก ใครที่ชีวิตกำลังหม่นหมองอยู่ลองทำตามกันดูแล้วกลับมาสดใสไวๆ นะคะ”

แล้วพี่อ้อยเอนจอยกับอาหารรสจัดด้วยหรือเปล่า?
“กลมกล่อมค่ะ ไม่กินจัดเกินไป เมื่อคุณแม่ไม่สบายเราจะหาข้อมูลเยอะพอสมควร พบว่าอัตราการป่วยสูงสุดเกิดจากการกิน 3 อย่างคือ เค็มจัด หวานจัด และมันจัด เลยพยายามกินรสชาติให้พอดี แต่ไม่ได้บอกว่าให้เครียดมากขนาดคนนั่งกินด้วยข้างๆ ไม่มีความสุขนะ เพียงแต่ทดในใจว่าตอนนี้กินเค้กแล้วเย็นนี้ไม่ต้องกินกาแฟนะจ๊ะ รอเป็นพรุ่งนี้

“พี่อยู่กับคนป่วยมาค่อนชีวิตจนพี่ดูแลเรื่องอาหารของตัวเองอัตโนมัติ นอกจากคุณแม่ที่ป่วยแล้วฝั่งสามีเองก็มีพี่สาวที่เส้นเลือดในสมองแตก พี่เลยตกลงกับสามีว่าเราจะจับมือกันแข็งแรง กินอะไรก็ได้ที่มีภาวะเสี่ยงน้อยหน่อยก็ดี เวลาเราดูแลคนอื่นจะรู้เลยว่าถ้าต้องเปลี่ยนฝั่งเป็นคนที่นอนอยู่เฉยๆ จะทุกข์กว่านี้”

อาหารแบบไหนที่ทำให้พี่อ้อยมีพลังจัดรายการอย่างมีความสุขคะ?
“จริงๆ พี่เป็นคนกินง่าย สำคัญเลยต้องมีผักใบเขียวในทุกมื้อ พี่ชอบทำผัดผักกินเอง ง่ายที่สุดก็ถั่วฝักยาวผัดไข่หรือผัดคะน้าปลาเค็ม ถ้ามื้อใหญ่หน่อยก็เป็นอาหารญี่ปุ่นค่ะ กินง่ายดี ไม่ทรมานตัวเองมากไป ดูมีความเพียวของวัตถุดิบสูง กินแล้วไม่เสาะท้องด้วย เวลาอายุเยอะหนูจะเป็นจ้ะ เราจะประคองชีวิตเอาไว้ให้นานที่สุด”

เดาว่าปลาแซลมอนที่อุดมไปด้วยประโยชน์ต้องมีอยู่ในลิสต์แน่ๆ!
“กินอย่างกับหมีเลย โดยเฉพาะซูชิหน้าแซลมอน เมนูเบนโตะพี่ก็ชอบนะคะ มีหลายอย่างให้กินและมีความหลากหลายในรสชาติดี ดูเหมือนชอบของแพงเนอะ ปลาทูบ้านเราก็ชอบนะคะแต่ต้องมากับผักและน้ำพริก อันที่จริงพี่เป็นคนชอบเข้าร้านเพิงๆ เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นชอบที่สุดเลยคือเดินหาร้านริมทางที่ทำอาหารโชว์พร้อมสะบัดผ้าแรงๆ เป็นคาแรกเตอร์ซึ่งเห็นภาพชัดเจนที่สุด พอเข้าไปนั่งปั๊บมันได้บรรยากาศแฮะ ไม่ต้องเซ็ตอะไรมาก ทุกอย่างคือวิถีชาวบ้าน หรือแม้แต่ร้านริมทางในไทยก็อร่อยมากจริงๆ นะ ต่อให้ร้านนี้ไปอยู่ที่หรูกว่านี้แต่รู้สึกว่านั่งตรงนี้มันดีกว่า”

ได้ข่าวมาว่าร้านอาหารไทยเจ้าประจำของพี่อ้อยอยู่ที่แม่สอด
“มี 2 ร้านค่ะ ร้านแรกเหมือนจะไม่มีชื่อ เป็นก๋วยเตี๋ยวไทยใส่ถั่วฝักยาว หอมเจียว แคบหมู อีกร้านชื่อขนมจีนขยุ้ม อร่อยมาก พอเราเข้าไปนั่งเขาจะม้วนขนมจีนเส้นเล็กเตรียมไว้ให้เราเลือกกินกับน้ำเงี้ยว น้ำยา น้ำพริก น้ำยาป่า รสกลมกล่อมไม่เผ็ดมาก ที่สำคัญถล่มผักได้ไม่อั้น

ส่วนที่กรุงเทพฯ พี่ชอบไปกินแถวเยาวราช พี่ชอบก๋วยเตี๋ยวค่ะ ร้านไหนก็ได้ที่มีน้ำซุปร้อนๆ กลิ่นหอมๆ พี่ว่าก๋วยเตี๋ยวบ้านเราอร่อยที่สุดในโลกแล้ว เพราะปรุงรสชาติได้ถูกปากคนไทย เสียดายบ้านเราอากาศร้อนไปหน่อย ไม่งั้นก๋วยเตี๋ยวคงขายดีกว่านี้แน่ๆ”

อีกนัยหนึ่ง พี่อ้อยอาจหมายถึงคงมีร้านก๋วยเตี๋ยวให้เลือกกินเยอะกว่านี้แน่ๆ!

About DJ.P’Aoi
พี่อ้อยเรียนจบจากคณะนิเทศศาตร์ สาขาวิทยุโทรทัศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำอาชีพดีเจมา 20 ปีเศษ นอกจากจัดรายการคลับฟรายเดย์แล้ว ยังจัดรายการที่ Green Wave 106.5 ทุกวัน 4 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม และเป็นพิธีกรรายการคลับฟรายเดย์โชว์ทางช่อง GMM 25 ทุกวันเสาร์ 3 ทุ่มเป็นต้นไป

นอกจากใช้เสียงหน้าไมค์ หลังไมค์พี่อ้อยยังเป็นคอลัมนิสต์ให้กับหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างๆ ทั้งยังเขียนพ็อกเก็ตบุ๊กเป็นของตัวเองได้ Best Seller หลายเล่ม ล่าสุดเล่มใหม่ “เรื่องหัวใจอย่าใช้สูตร” และเมื่อปีที่ผ่านมาเธอเพิ่งเปิดตัวร้านอาหาร “บนดาวอังคาร” ที่ซอยราชครู

เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายภาพ
ร้านบนดาวอังคาร โทร. 0-2001-6848

อัพเดทเรื่องราวมากมายที่ผู้หญิงห้ามพลาดได้ที่ อินสตาแกรม :  sanookwomen