วิ่งมาราธอนครั้งแรก ในต่างแดนของคนขี้เกียจและไม่ชอบออกกำลังกาย

“เมื่อสาวดิจิทัล ตัดสินใจวิ่งมารธอน นอกประเทศเป็นครั้งแรก”

คุณกนกพร ปรัชญาเศรษฐ หรือ คุณเจี๊ยบ ถูกจัดได้ว่าเป็นตัวแม่ของวงการขายสื่อดิจิทัลชั้นนำของไทย ตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินตรงไปยังเมืองมักกะโรนี อิตาลี ทันทีหลังจาก จบมาราธอนครั้งแรก ของเธอที่ กรุงเทพฯ ชื่อ "สแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์แบงคอกมาราธอน" ซึ่งจัดไปเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2558 โดยทำเวลาได้ 6 ชั่วโมง พอดิบพอดี

คุณเจี๊ยบ เล่าความในใจกับ Sanook! women ว่า ได้เห็นพี่ๆ ในวงการดิจิตอลและวงการวิ่งแชร์ข้อมูล 5 สถานทีวิ่งมาราธอนที่สวยที่สุดในโลก จึงเกิดแรงบันดาลใจครั้งใหม่ ประกอบกับ มีการวางแผนเดินทางไปอิตาลีช่วงวันหยุดสงกรานต์พอดี นั่นคือ กรุงโรม ประเทศอิตาลี จึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะเข้าร่วมมาราธอนต่างแดนครั้งแรกของเธอให้ได้

ซึ่ง ที่อิตาลี ใช้ชื่องานว่า Maratona di Roma 2016 จัดขึ้นในวันที่ 10 เมษายน และนับเป็นครั้งที่ 22 ( คุณเจี๊ยบกระซิบข้อมูลเพิ่มมาว่า ปีหน้าจะจัดวันที่ 2 เมษายน เผื่อมีคนสนใจ)

วิธีการสมัคร มีค่าใช้จ่ายมากกว่าค่าลงทะเบียนเหมือนงานในประเทศไทยที่เคยวิ่งมา เนื่องจากเราไม่ใช่ resident ของอิตาลีจะต้องมีการสมัคร Run Card เสียก่อน เผื่อเอาหมายเลข Run Card ของเราไปกรอกในใบสมัคร เท่านั้นไม่พอพี่เค้าก็ขอให้เราไปตรวจร่างกายและให้แพทย์ยืนยันว่าเรามีสุขภาพดีมีความพร้อมสำหรับงานนี้

นั้นคือฟอร์มที่เรียกว่า Athlete Medical Certification ไม่มีใบนี้การสมัครก็จะไม่สมบูรณ์ ต้องสแกนส่งใบรับรองแพทย์ไปที่ผู้จัดและรอผลยืนยันว่าผ่านจึงค่อยดำเนินการลงทะเบียนต่อพร้อมชำระเงิน เรื่องราวมันไม่จบแค่ค่าลงทะเบียนเท่านั้น แพคเกจซื้อรูปวีดีโอและสลักชื่อบนเหรียญขี้เห่ออย่างเราไม่มีพลาดแน่นอน ทุกขั้นตอนและการชำระเงินนั้นเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ธันวาคม 2558 หลังจากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตานับถอยหลังสู่เป้าหมายที่จะต้องพิชิตให้ได้ในเดือนเมษายน 2559

และแล้ววันแข่งก็คืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว การรอคอยไม่นานอย่างที่คิด ด้วยภาระของงานที่ยุ่งและความขี้เกียจแถมข้ออ้างสารพัด อาการ "ซ้อมไม่พอ" ก็บังเกิดขึ้น มีอย่างเดียวคือใจที่อยากทำให้ได้ และความหวังก็พอมีเนื่องจากว่าเค้าให้วิ่งสูงสุดถึง 7.30 ชั่วโมง จากนั้นก็เริ่มศึกษาเส้นทาง จุดปล่อยตัวจะปล่อยเป็นกลุ่มตามเวลาที่เคยลงทะเบียนไว้ว่าจะจบในกี่ชั่วโมง ของเจี๊ยบอยู่สายหวานเย็น กลุ่มสุดท้ายค่ะ ไม่ต้องเดาเลย

เข้าไปรับ bib ก่อนวันแข่งหนึ่งวัน อากาศดีคิด(เอาเอง)ว่าน่าจะจบสวย คนเยอะมาก สถานที่รับ bib เค้าเรียกว่า Marathon Village ข้างในมีร้านขายของสิ่งมากมายและรวมไปถึงงานวิ่งตามสถานที่ในประเทศต่างๆอีกมากมาย ถ้าชอบช้อปอุปกรณ์ต่างๆ คงให้ความรู้สึกเหมือนสวรรค์

เช้าวันวิ่งอากาศเย็นแค่สิบต้นๆ คนเยอะจนลืมความหนาวไปเลย กลุ่มสุดท้ายปล่อยตัวที่ 8.50 น. ตลอดระยะทางวิ่งจะมีวงดุริยางค์บ้าง วงดนตรีบ้าง ดีเจเปิดแผ่นบ้างสร้างความคึกครื้น จุดให้น้ำให้ทุกๆ5กิโลเมตร ตั้งแต่จุดที่ 15 กิโลเมตรเป็นต้นไปจะมีของกินด้วย มีบิสกิต กล้วย ส้ม แอปเปิ้ล (ส้มอร่อยมาก กินทุกจุด) ตลอดทางก็มีผู้ร่วมเชียร์ส่งเสียงให้กำลังใจนักวิ่ง ที่สำคัญเส้นทางวิ่งนั้นครบทุกจุดสำคัญของนักท่องเที่ยวเลยคะ ตื่นตาตื่นใจกับกับสถาปัตยกรรมโรมันจริงๆ

เนื่องด้วยอากาศที่เย็นเลยทำให้สามารถทำเวลาได้ดีจากที่คิดว่าจะจบเต็มแมค 7.30 ชั่วโมง ก็จบที่เกือบจะ 6 ชั่วโมงแทน ดีใจที่เส้นชัยมีการมอบเหรียญออกมาจะเจอนักรบชาวโรมันยืนเรียงรอถ่ายรูปกับเหล่า finisher รอซื้อรูปออนไลน์คะ ที่นี่เค้ามี after party ด้วยนะคะตอนหกโมงเย็น แต่คงต้องขอบายเนื่องจากพรุ่งนี้ต้องไปเมืองอื่นแต่เช้า

มาราธอนครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่สะท้อนถึงความจริงว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ Practice makes perfect นี่แจ่มแจ้งเลยคะ ซ้อมมาแค่ไหนได้แค่นั้น แต่อย่างน้อยนี่ก็เป็นการพิชิตเป้าหมายของตัวเองถึงแม้ว่ามันอาจจะกังวล เจ็บปวด แต่สวยงาม

อย่างที่บอกไม่ชอบออกกำลังกาย แต่การวิ่งทำให้เราลองตั้งเป้าหมายแล้วทำมัน เริ่มจากน้อยๆ ก่อน ทุกครั้งที่ทำได้ลองถามตัวเองว่ามากกว่านี้ได้มั้ย ท้าทายตัวเองด้วยเป้าหมายที่ไกลขึ้นใหญ่ขึ้น ทุกครั้งที่ทำได้มันจะเหมือนก้าวผ่านขีดจำกัดของตัวเองไปอีกขั้น แล้วจะรู้ว่าความรู้สึกของผู้พิชิตมันเป็นอย่างไร

อัพเดทเรื่องราวมากมายที่ผู้หญิงห้ามพลาดได้ที่ อินสตาแกรม :  sanookwomen