"เมย์ รัชนก อินทนนท์" กินง่าย อยู่ง่าย สไตล์แชมป์แบดมินตันโลก
เรื่อง : กรองกาญน์ ชัยยะปะปัง
ภาพ : พีระพัฒน์ พุ่มลำเจียก
เป็นอีกครั้งที่คอกีฬาคงถูกใจไม่น้อย เพราะเซเลบคนสำคัญที่จะมาพูดคุยกับเราในฉบับนี้คือ "น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์" ยอดนักแบดมินตันมือหนึ่งของไทย สาวใสวัย 21 ปี ที่คว้าแชมป์มาแล้วเกือบทุกรายการที่เธอลงแข่ง รวมถึงเป็นแชมป์โลกอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ เธอคนนี้จะมาพูดคุยถึงเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ การดูแลตัวเองตามแบบฉบับนักกีฬามืออาชีพ พร้อมบอกเล่าร้านอร่อยในดวงใจให้ตามไปชิม รวมถึงพาเราบุกครัวไปดูคุณแม่ของเธอ (คุณแม่คำผัน สุวรรณศาลา) ปรุงเมนูง่ายๆ (แต่อร่อย) ที่เธอแสนจะโปรดปราน
เราเดินทางมายังโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ถนนพุทธมณฑลสาย 3 สถานที่ซึ่งเป็นทั้งคอร์ทฝึกซ้อมและบ้านพักของน้องเมย์กับคนในครอบครัว นักแบดมินตันคนดังออกมาพบเราในชุดกีฬาที่ดูทะมัดทะแมง ก่อนจะบอกว่าช่วงสายอย่างที่พวกเราเดินทางมาถึงนี่แหละ เหมาะกับการให้สัมภาษณ์เป็นที่สุด “ชีวิตประจำวันของเมย์ต้องฝึกซ้อมทุกวันค่ะ ช่วงเปิดเทอมโค้ชจะจัดตารางซ้อมไม่ให้ตรงกับเวลาเรียน แต่ถ้าเป็นวันที่ไม่มีเรียนหรือช่วงปิดเทอมจะตื่น 07.00 น. เริ่มซ้อม 08.00-10.00 น.
ช่วงสายจึงมีเวลาพักทำกิจกรรมต่างๆ เช่นกินข้าว ออกไปซื้อของใช้ส่วนตัว หรือให้สัมภาษณ์อย่างวันนี้ ซึ่งทุกกิจกรรมที่ทำควรเสร็จภายในเที่ยงครึ่ง เพราะเมย์ต้องซ้อมต่อช่วง 15.00 – 17.00 น. และอีกรอบคือ 19.00 – 21.00 น. ซึ่งจริงๆ โค้ชก็ไม่ได้บังคับว่าเราต้องทำธุระเสร็จภายในกี่โมง แต่เราต้องรู้ตัวเองว่าควรทำทุกอย่างให้เสร็จเวลาใดเพื่อจะได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพราะการซ้อมต้องใช้พละกำลังเยอะ ถ้าไม่ได้พักมันก็หนักเกินไปสำหรับร่างกาย”
ดูแลตัวเองแบบนักแบดมินตันมืออาชีพ “นักกีฬาแบดมินตัน ไม่ได้มีข้อจำกัดในการควบคุมน้ำหนักมากนัก แต่โดยทั่วไปแล้วนักกีฬาทุกคนก็จะมีการตั้งเกณฑ์ของตัวเองไว้ อย่างตัวเมย์ก็จะควบคุมน้ำหนักไม่ให้ห่างจาก 60 กิโลกรัม มากนัก เพราะถ้าหนักไปก็อึดอัดเคลื่อนไหวไม่สะดวก แต่ผอมไปก็กลัวว่าจะไม่มีแรง ส่วนเรื่องอาหารมีนักโภชนาการให้คำแนะนำหลายอย่าง หลักๆ คือเวลาซ้อมเสียเหงื่อเยอะ ควรจะมีเครื่องดื่มเกลือแร่ไว้ใกล้ตัวตลอด หากซ้อมแล้วหิวให้กินกล้วยหอมที่ย่อยง่าย และสามารถดึงพลังงานมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงแนะนำให้กินน้ำมะพร้าวสด น้ำส้มคั้นสด ที่ให้วิตามินและเกลือแร่เหมาะกับนักกีฬาอย่างเรา ซึ่งเรื่องเหล่านี้ส่วนใหญ่คุณแม่จะช่วยเตรียมเอาไว้ให้”
คุณแม่นักปรุง (อาหารดีที่เหมาะกับลูก) เมื่อน้องเมย์บอกว่าคุณแม่ดูแลเรื่องอาหารให้กับเธอ เราจึงซักถามซึ่งคุณแม่ก็อธิบายให้ฟังว่า “นักโภชนาการบอกให้เน้นดื่มน้ำส้ม น้ำมะพร้าว แม่เลยเตรียมไว้ให้ตลอด ทั้งน้ำมะพร้าวสด จากลูก รวมถึงส้มที่ซื้อมาทีละหลายกิโลกรัม แล้วทยอยคั้นสดๆ ให้น้องดื่ม ส่วนอาหารการกินอื่นๆ ไม่มีอะไรมากนักเนื้อสัตว์ก็กินได้ทุกอย่างแต่จะเน้นให้กินปลามากหน่อย ต้องกินผักและผลไม้ทุกวันด้วย ซึ่งเมย์เขาเป็นคนชอบกินผักผลไม้อยู่แล้วเลยไม่เป็นปัญหาอะไร และตั้งแต่เด็กน้องเป็นคนกินง่าย แม่ทำอะไรให้ก็กิน ดังนั้นถ้านักโภชนาการมองว่าช่วงไหนน้องควรกินอะไรเพิ่มเติม เขาจะมาบอกแม่ แม่ก็จะปรุงอาหารให้ตามนั้น ”
กินง่ายอยู่ง่ายสไตล์น้องเมย์ “เมย์เป็นคนไม่ค่อยคิดถึงเรื่องอาหารการกินเท่าไหร่ อย่างที่แม่บอกเลย ว่าทำอะไรให้กินก็กินตามนั้น เพราะบางทีซ้อมเหนื่อยแล้วไม่อยากออกไปไหน กินอาหารง่ายๆ ที่แม่ทำนี่แหละสะดวกดี แต่ก็มีเมนูโปรดที่เมย์ชอบขอให้แม่ทำอยู่เหมือนกันค่ะ พวกผัดกะหล่ำ หมูทอด ลาบหมู อันนี้ชอบเป็นพิเศษเลยมีรีเควสบ้าง ช่วงที่ต้องไปแข่งต่างประเทศอาจจะเลือกกินขึ้นมาหน่อย เพราะอาหารแถบยุโรปบางทีกินเยอะๆ แล้วรู้สึกว่าเลี่ยน เมย์เลยเตรียมพวกน้ำสลัด หรือน้ำจิ้มไก่ไปด้วย ใส่เพิ่มเข้าไปหน่อยแล้วอาหารมันถูกปากเรามากขึ้น”
ถึงซ้อมหนัก แต่ไม่เคยต้องห่างครอบครัว ฟังน้องเมย์เล่าแล้วหลายคนอาจยังสงสัย ว่าเพราะเหตุใดคุณแม่คำผันจึงดูแลลูกสาวได้อย่างใกล้ชิดชนิดติดขอบคอร์ทแบดมินตันเช่นนี้ คุณแม่เฉลยให้ฟังว่า “แม่ทำงานเป็นแม่ครัวอยู่ในโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอดอยู่แล้ว ดังนั้นถึงน้องเมย์จะซ้อมหนักแต่เราก็ได้เจอกันอยู่ตลอด บางทีซ้อมแล้วเหนื่อยน้องก็เดินมาคุยกับแม่ หรืออยู่ๆ อยากกินอะไรก็เดินมาหาในครัวให้แม่ทำให้กิน ส่วนคุณพ่อน้องเมย์ (วินัสชัย อินทนนท์) และน้องชาย (ด.ช.รัชพล อินทนนท์) ก็พักอยู่ที่นี่เหมือนกัน บ้านเราเลยได้อยู่พร้อมหน้ากันเสมอ ซึ่งนับเป็นโชคดีเพราะอย่างที่รู้กันว่า นักกีฬาหลายคนเวลาซ้อมหรือเก็บตัวก่อนแข่งต้องห่างบ้าน แต่สำหรับน้องเมย์เขาได้อยู่กับครอบครัวตลอด”
เพราะได้อยู่กับครอบครัวอย่างใกล้ชิดเช่นนี้หรือเปล่า เลยกำลังใจดี? เรากระเซ้าถามน้องเมย์ เธอพยักหน้ายิ้มรับแทนคำตอบ ก่อนจะควงคุณแม่เข้าครัวปรุงจานโปรดที่เธอมักอ้อนให้คุณแม่ทำบ่อยๆ อย่าง ข้าวหน้าหมูทอดกับกะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอย ให้ทีมงานได้ชมและชิม ซึ่งเราก็ได้นำสูตรดังกล่าวมาฝากคุณผู้อ่านในโอกาสนี้แล้ว
ข้าวหน้าหมูทอดกับกะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอย
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 15 นาที ปรุง 30 นาที
หมูสันใน หั่นเป็นชิ้นบาง 2 ขีด
ไข่ไก่ 1 ฟอง
นมข้นจืด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนชา
เกลือเล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับทอด ½ ถ้วย
ส่วนผสมกะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอย
กะหล่ำปลี หั่นชิ้นพอคำ 3 ถ้วย
น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
วิธีทำ
1. หมักหมูโดยใส่ส่วนผสมทั้งหมด (ยกเว้นน้ำมันพืช) ลงในชามผสม คนให้เข้ากัน หมักไว้ในตู้เย็น 4-6 ชั่วโมง จากนั้นทอดหมูโดยใส่น้ำมันในกระทะตั้งไฟพอร้อน นำหมูลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้
2. ทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลาโดย ใส่น้ำมันในกระทะตั้งไฟพอร้อนนำกะหล่ำปลีลงผัดพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ปิดไฟตักราดลงบนข้าวสวยร้อนๆ นำหมูทอดในข้อ 1 วางไว้ด้านข้าง พร้อมเสิร์ฟ
ร้านโปรดอยากบอกต่อ
ร้านแรกคือ Mugendai Japanese Restaurant ชอบร้านนี้เพราะเมย์เป็นคนชอบกินอาหารญี่ปุ่นค่ะ พวกซาชิมิ ปลาดิบ ปลาแซลมอน ข้าวหน้าปลาไหล ซึ่งพี่มุก (คณิศรา เงินศรีสุข) ผู้จัดการทีมสโมสรบ้านทองหยอดทราบเลยพาไปกิน พอกินแล้วเมย์ชอบมาก ร้านนี้ปลาสด ส่วนเมนูญี่ปุ่นอื่นๆ ก็รสชาติอร่อย
MUGENDAI sushi and tempura bars ชั้น 7 ในโครงการ Grass Thonglor ซอยสุขุมวิท55 (ทองหล่อ 12) ถนนสุขุมวิท เขตคลองตันเหนือ แขวงวัฒนา กรุงเทพ ฯ เปิดบริการ จันทร์- ศุกร์ เวลา 17.30 - 24.00 น. วันเสาร์ -อาทิตย์ เวลา 11.30 - 14.30 น. และ เวลา 17.30 - 24.00 น. โทร.0-2726-9222
ถัดมาคือ ร้าน ลาบ ย.โสธร เป็นร้านของคุณพ่อ ที่เมย์เปิดให้หลังได้แชมป์โลกเมื่อปี 2556 เลยนำเงินรางวัลส่วนหนึ่งมาเปิดกิจการนี้ที่ตลาดศิริเกษม ใกล้กับโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด เพราะพ่อเป็นคนชอบทำอาหารอีสานอยู่แล้ว ส่วนจะอร่อยถูกใจหรือไม่อยากให้ลองมาชิมนะคะ (ยิ้ม) เมนูที่แนะนำคือ ส้มตำ ต้มแซ่บ คอหมูย่าง รวมถึงลาบหมู ซึ่งถ้าเมย์กินเองจะสั่งให้ใส่หนังหมูเยอะๆ
ร้าน ลาบ ย.โสธร จากถนนพุทธมณฑลสาย 3 มุ่งหน้าไปถนนเพชรเกษม ผ่านหน้าโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ตรงไปอีก 300 เมตร เมื่อลงสะพานข้ามคลองจะเห็นซอยศิริเกษมอยู่ทางซ้าย เข้าซอยไปประมาณ 200 เมตร ร้าน ลาบ ย.โสธร จะอยู่ทางขวามือ
สุดท้ายเป็นร้านขนมค่ะ เมย์ชอบกิน Shibuya Honey Toast เสิร์ฟกับไอศกรีมวานิลลา ของร้าน after you dessert café มาก ไปทีไรสั่งเมนูนี้ประจำ รวมถึง Chocolate LAVA ด้วย กินตั้งแต่ร้านเขายังมีไม่กี่สาขา สมัยก่อนต้องไปกินถึงสยาม แต่ตอนนี้เขามาเปิดสาขาที่เดอะมอลล์บางแค ซึ่งไม่ไกลจากโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอดมากนัก ถูกใจมากเลย เพราะไม่ต้องเดินทางไปไกลๆ ก็ได้กินขนมอร่อยแล้ว
after you dessert café (สาขาเดอะมอลล์บางแค) ชั้น G ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค ถนนเพชรเกษม แขวง บางแค เขต บางแค กรุงเทพฯ
เกร็ดน่ารู้ของแชมป์แบดมินตันโลก
- แม้จะเคยคว้าแชมป์แบดมินตันโลกได้สำเร็จแล้ว แต่ความฝันสูงสุดอีกอย่างของเธอคือ การเป็นแชมป์โอลิมปิก ซึ่งเธอกำลังเตรียมตัวเข้าแข่งขันในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2559 นี้
- เมื่อถามว่างานอดิเรกชอบทำอะไรบ้าง สาวนักตบลูกขนไก่คนนี้เธอตอบว่า “ไม่มีนะคะ ก็ชอบเล่นแต่แบดมินตัน นึกไม่ออกเหมือนกันว่าชอบอะไรอีก (หัวเราะ) แต่ถ้าถามว่าเวลาเครียดทำอะไรก็อาจจะมีฟังเพลงบ้างค่ะ ซึ่งก็ไม่บ่อยเพราะจริงๆ เมย์ก็ไม่ค่อยมีเรื่องเครียดอะไร ส่วนใหญ่ก็แค่ซ้อมเหนื่อยพอพักก็หาย แต่ถ้าว่างจริงๆ งานอดิเรกคงเป็นการท่องเที่ยวค่ะ เมย์อยากไปเที่ยวถ่ายรูปกับสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ในเมืองไทย เพราะจากที่เคยไปต่างประเทศมาหลายที่ เมย์คิดว่าเมืองไทยนี่แหละเป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดแล้ว ทั้งสะดวกสบาย อาหารอร่อย รวมถึงผู้คนก็มีมิตรไมตรี”
- อาหารที่ชอบที่สุดคือ ‘ส้มตำ’ เธอบอกว่ากินได้บ่อยไม่มีเบื่อ ส่วนอาหารที่ไม่ชอบเอาเสียเลยคือ ‘ผัดเปรี้ยวหวาน’ ซึ่งคุณแม่คำผันอธิบายถึงสาเหตุว่า “ตอนเด็กๆ แม่ชอบซื้อผัดเปรี้ยวหวานให้น้องกินบ่อยมาก-ก (ลากเสียงยาว) จริงๆ น้องคงไม่ชอบมานานแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นคนกินง่ายแม่ซื้ออะไรมาให้ก็กินไม่เคยบ่น จนเริ่มโตขึ้นและเขาก็คงไม่ไหวแล้วด้วย (ยิ้ม) เลยบอกว่าแม่ไม่ต้องซื้อแล้วได้ไหมหนูเบื่อมากเลย”
- ล่าสุดเมย์-รัชนก ออกพ็อกเกตบุ๊คเล่มแรกในชีวิต “หยอดฝันไว้ที่ปลายคอร์ท” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวชีวิต รวมถึงถ่ายทอดข้อคิดดีๆ ให้กับผู้ที่สนใจได้อ่าน สนใจหาซื้อได้แล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป
ข้อความจากใจฝากถึงแฟนกีฬา
“ไม่ว่าผลงานเมย์จะออกมาในรูปแบบไหน จบอย่างไร ได้แชมป์หรือไม่ ก็อยากขอให้ทุกคนอยู่เคียงข้างพวกเรานักกีฬาทีมชาติทุกคน ไม่จำเป็นต้องเป็นเมย์คนเดียว เพราะยังมีรุ่นพี่คนอื่นๆ ที่เขาก็ซ้อมหนักทำงานหนักเหมือนกัน อยากให้พี่ๆ น้องๆ เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วย เพราะทุกครั้งที่เราลงเล่นในสนามเราเต็มที่ทุกครั้งอยู่แล้ว”