จากความชอบเครื่องประดับ สู่ร้าน Multi-label Jewelry ของ อิง ยลวารี
Spy on Yolwaree's Life & Style
จากความชื่นชอบเครื่องประดับ ในวัยเด็ก สู่ร้าน Multi-label Jewelry สุดคูลที่รวบรวมทั้งความฝัน รสนิยม และเรื่องราวของเพื่อนฝูงอันเป็นที่รัก ของ อิง-ยลวารี สัตยนาวิน
หญิงสาววัยยี่สิบปลายๆ ยิ้มกว้างต้อนรับเราสู่ร้านจิวเวลรีที่ใช้พื้นที่บ้านส่วนตัวของเธอมาทำร้าน “จริงๆ แล้วแบรนด์ Haus of Jewelry มีอายุเกือบเจ็ดปีแล้ว คือเริ่มมาตั้งแต่ปี 2009 หลังจากอิงเรียนจบค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็มีแบรนด์ที่มาขายกับเราทั้งของไทยและแบรนด์นอกเกือบสามสิบแบรนด์” บัณฑิตจากคณะ BBA จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเล่าจุดเริ่มต้นของแบรนด์ให้ฟัง เธอเคยทำงานกับเอเจนซี่ชั้นนำและบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เลือกทำตามความฝันด้วยการเปิดแบรนด์จิวเวลรีและร้านนำเข้าเครื่องประดับที่เลือกสรรแต่แบรนด์เด็ดในแบบของเธอมาให้สาวๆ ได้เลือกซื้อ
“อิงจะใส่จิวเวลรีติดตัวทุกวันค่ะ โดยเฉพาะตุ้มหูกับแหวนนิ้วก้อยที่ขาดไม่ได้เลย มันเป็นอะไรที่เล็กๆ น้อยๆ ต้องเข้ามาสังเกตใกล้ๆ เท่านั้นถึงจะรู้ว่าเราใส่ของพวกนี้” เธอกล่าวพร้อมกับโชว์แหวนที่เธอออกแบบเองให้ดู และเล่าถึงสไตล์เฉพาะตัวว่า “จริงๆ แล้วอิงเป็นคนชอบความเรียบแต่แทรกด้วยดีเทลจัดๆ แบบสะดุดตาจนต้องหันมาดูอย่างเสื้อเกาะอกจับเดรปจาก ING NYC ที่ใส่คู่กับกางเกงยีนส์ คือไม่ได้เป็นคนชอบลายพิมพ์แต่ชอบโครงสร้างและเทคนิคต่างๆ ส่วนแบรนด์ที่ชอบอันดับหนึ่งเลยต้องยกให้ Céline ค่ะ ชอบทั้งเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋า รองลงมาก็ Proenza Schouler กับ Givenchy ถ้าเป็นดีไซเนอร์ไทยส่วนใหญ่จะเลือกชุดออกงานจาก Sanshai, Chai Gold Label และ Hook’s”
พูดจบอิงก็โชว์กระเป๋าต่างๆ ที่เธอสะสมไว้ให้ดู “อย่างที่บอกว่าอิงชอบของที่ดูมีดีเทลพิเศษๆ อย่างกระเป๋า Céline สีน้ำเงินใบนี้ก็พยายามหารุ่นที่เป็นหนังงูทั้งใบอิงตามหาทั่วฮ่องกงจนเจอ หรือ Chanel รุ่น Boy ก็เลือกรุ่นที่มีตาข่ายโซ่ตกแต่งดูไม่ซ้ำกับคนอื่น แต่ก็ไม่ใช่ว่าอิงจะใช้แต่ของแบรนด์เนมนะ พวกกระเป๋างานปักสวยๆ จากอินเดียก็ชอบเหมือนกัน”
จากบทสนทนาเราได้เห็นมุมมองที่น่าสนใจและแพชั่นเกี่ยวกับวัฒนธรรมทั่วโลกของเธอ “ไม่ชอบเที่ยวตามเมืองใหญ่ๆ เลย อย่างนิวยอร์ก มิลานนี่ไม่ใช่แนวอิงเลยยกเว้นปารีส อิงชอบทุกอย่างในปารีส ชอบเมือง อาหาร บรรยากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดวินเทจนี่ชอบมากๆ อย่างที่ Porte de Clignancourt ตลาดขายของเก่าที่ใหญ่มากมีตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์หลากยุค ไปจนถึงเสื้อผ้าแบรนด์เก่าแก่ชิ้นหายาก แต่ถ้ามีเวลาเยอะหน่อยก็จะไปมิวเซียมอย่าง Musée Bourdelle”
ด้วยความชื่นชอบของวินเทจหายากนี่เองคือที่มาของแบรนด์อันเป็นที่รักของเธอ “เงินก้อนแรกที่เอามาลงทุนทำแบรนด์ก็ได้มาจากการซีเลกต์ของวินเทจมาขายนะคะ” ยลวารีกล่าวอย่างภาคภูมิใจในธุรกิจอันเกิดจากน้ำพัก-น้ำแรงของตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ “ตัวโชว์รูมนี้เพิ่งมีได้ประมาณสองปีค่ะ เราจะเปลี่ยนธีมไปเรื่อยๆ อย่างปีที่แล้วเป็นซาฟารีเราก็จะทาสี เพนต์ลาย ตกแต่งเป็นธีมซาฟารีทั้งหมด
ส่วนปีนี้เปลี่ยนเป็นธีม Pink Passion อิงก็ตกแต่งเป็นสีชมพูอ่อนๆ ทั้งหมดเลยค่ะ” อิงกล่าวพร้อมกับพาชมโชว์รูมชั้นเดียวกับระเบียงนั่งเล่นรับลมบนชั้นลอย ที่ภายในตกแต่งด้วยสีชมพูหวานตัดกับพรมสั่งทอสีฟ้าแปลกตา พร้อมเฟอร์นิเจอร์หินอ่อนแนวโมเดิร์นป๊อปสวยเด่นหลายชิ้น
“อิงออกแบบและดูแลการผลิตเองทุกชิ้นค่ะ ให้โรงงานที่รู้จักกันทำให้ มีทั้งแบบชิ้นใหญ่อย่างโต๊ะ กระจก เก้าอี้ และชิ้นเล็กๆ อย่างที่คั่นหนังสือ ถาดที่เขี่ยบุหรี่ก็มีให้ช็อปนะคะ” ความสามารถในงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายในของสาวสวยคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว “ตอนนี้ก็มีโปรเจกต์ที่เขากำลังคุยๆ กับเราอยู่ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นที่ไหนค่ะ”
ด้วยความเป็นสาวรุ่นใหม่แน่นอนว่าย่อมมีชีวิตในโลกออนไลน์มากพอสมควร “ด้วยอาชีพค่ะ เราก็ต้องคอยอัพเดตไอจี เฟซบุ๊ก และเมลเป็นประจำ แต่ถ้าถึงเวลาไปเที่ยวจริงๆ ก็จะอินไปกับธรรมชาติและสิ่งที่อยู่ตรงหน้า อย่างทริปล่าสุดที่หมู่เกาะ Palawan ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ซึ่งธรรมชาติยังบริสุทธิ์มาก ทั้งขึ้นรถ ลงเรือ นั่งเครื่องบินหลายต่อมากเราไปถึงตอนเย็นซึ่งจะมีฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเป็นล้านๆ ตัวเต็มท้องฟ้าเลย น่าตื่นเต้นมากๆ”
พูดถึงทะเล สาวสวยผิวแทนของเราบอกว่า “เป็นคนโอเคกับผิวสีแทนแบบบ่มแดดนะคะ แต่เวลาแต่งหน้าจะไม่ชอบแต่งให้มีสีสันเท่าไร อย่างมากก็ลิปสีนู้ดแล้วก็ปัดขนตาเท่านั้นเองค่ะ” ยลวารียิ้มกว้างหลังจากการถ่ายทำเสร็จสิ้น เธอกล่าวปิดท้ายถึงการทำงานของเธอว่า “อิงถือว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้อยู่กับสิ่งที่เรารัก เช้ามาก็เข้าสตูดิโอหน้าบ้านตัวเอง ทำให้ตื่นมามีความสุขทุกวัน”
ผู้ช่วยสไตลิสต์: ภัทรสกรณ์ มีวรรณเลิศกุล / บรรณาธิการแฟชั่น: จงกล พลาฤทธิ์ / ช่างภาพ: สุดเขต จิ้วพานิช, Courtesy of the Brands
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ