10 เรื่องขำๆ ที่หญิงไทยควรรู้ก่อนเที่ยวฮ่องกง
ถ้าพูดถึง ประเทศฮ่องกง สำหรับสาวๆ อย่างเราคงจะไม่พ้นเรื่องช้อปปิ้งและการไหว้พระขอพร ที่ใครได้ไปที่นั้นแล้วในแพลนจะต้องมีโปรแกรมนี้อยู่แน่นอน ว่าแล้วแพลนในการเที่ยวต่างประเทศครั้งนี้จึงเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภา ในอากาศประมาณ 26 องศา ใกล้เข้าฤดูร้อนเต็มที่
หลังจากกลับมาจากการเที่ยวฮ่องกงครั้งนี้ ลูกเกดจะแชร์ประสบการณ์อะไรที่หญิงไทยควรรู้ก่อนบินตรงไปเที่ยวฮ่องกง ตามมาลุยกันเลย
1. ด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือที่เรียกติดปากว่า ตม. ไม่ได้เข้าง่ายอย่างที่คิด
เนื่องจากมีคนไทยหนีเข้าประเทศมากขึ้นกว่าเดิม การแต่งตัว แต่งหน้าจึง เป็นสิ่งสำคัญที่สาวๆ ควรจะแต่งแบบเบาๆ อย่าเพิ่งจัดเต็มไปมาก ลูกเกดเองไม่ได้รู้มาก่อนเลยว่า ตม. ที่นี้เค้าตรวจเข้มขึ้น จัดเสื้อสีแสบตา แต่งหน้าจัดเต็มตั้งแต่แลนดิ้งลงเครื่อง โดนถามอยู่นานว่า มากี่วัน มากับใคร ถามอีกว่าทำไมเราไม่มีปั๊บจากเมืองไทย เราต้องอธิบายว่าระบบการตรวจคนของตม.ที่ไทย มีทั้งแบบอัตโนมัติและแบบปกติ งานนี้เรียกว่าถามกันอยู่นานกว่าจะปล่อยให้ผ่านเข้าประเทศ
2.ทรงผมเกล้าตอบโจทย์มากที่สุด
ไม่ว่าจะร้อน หนาว ฝนตก จะเป็นทรงเกล้า จะมัดมวย ดังโงะ หรือเกล้าแกะ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนขี้ร้อน การปล่อยผมเป็นอะไรที่น่ารำคาญใจสุดๆ เพราะอากาศในช่วงนี้ถึงจะไม่ได้ร้อนมากแบบไทยแลนด์ แต่เชื่อมั๊ยว่ามันอบอ้าวจนอยากจะวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อสายเดี่ยวเลยล่ะค่ะ
3.ใครเมาเรือยกมือขึ้น
ในทริปนี้ลูกเกดได้ไปเที่ยวมาเก๊า 1 คืน ตั้งแต่ก้าวขึ้นเรือก็คิดในใจว่า เรือลำใหญ่ดีดี๊ ติดแอร์เย็นสบาย นั่งไปได้ 15 นาที เท่านั้นแหละค่ะคุณขา เมาเรือแบบยิ่งกว่านั่งเรือไปเกาะสีชังหรือเกาะล้านเป็นร้อยเท่า ทั้งๆ ที่ปกติไม่ได้เป็นคนเมาเรือง่ายๆ นะ สาวๆ ที่ไปเที่ยวฮ่องกงแล้วมีแพลนต่อเรือไปมาเก๊า อย่าลืมกินยาแก้เมาเม็ดสีเหลืองก่อนขึ้นเรือสักครั้งชั่วโมง ส่วนขากลับลูกเกดกินยาแก้แพ้ไปนอนหลับสบายไม่คลื่นไส้เลยสักนิด
4.รองเท้าผ้าใบใส่สบายพร้อมลุย
แน่นอนว่าการไปฮ่องกงครั้งนี้การเดินช้อปปิ้งเป็นเรื่องที่สาวๆ ต้องเจอ ลองวางส้นสูง 5 นิ้วไว้ที่เมืองไทยแล้วหารองเท้าผ้าใบสักคู่ เดินนานกี่ชั่วโมงก็ไม่หวั่น แถมยังชิคๆ เหมือยวัยรุ่นที่นั้นอีกด้วย
5. น้ำชาร้อนเป็นของคู่โต๊ะอาหาร
เปรียบได้เหมือนกับการต้อนรับของบ้านเค้า การจิบแต่ละครั้งขอให้เบาๆ เพราะน้ำชาที่นี้ร้อนมาก แล้วถ้าสาวไทยที่ติดน้ำเย็น(ฟรี)คงต้องถามหากับพนักงาน เนื่องจากไม่ได้มีวางไว้บนโต๊ะอย่างอาหารบ้านเรา
6. ร้านบะหมี่เจ้าดังแสนอร่อย
ร้านบะหมี่ร้านนี้ตั้งอยู่แถวโรงแรม sav ที่ลูกเกดพักเลยค่ะ เมนูที่อยากแนะนำก็คือ เกี๊ยวกุ้ง มันดีจริงๆ ทุกคำที่เคี้ยวบอกเลยว่าฟินมา ลองคิดดูว่าในเกี๊ยวหนึ่งอัน กัดแล้วมีกุ้งอยู่ในนั้นมากกว่า 4 ตัว กินคู่กับบะหมี่ราดน้ำสีแดง เป็น 2 สิ่งที่กินด้วยกันแล้วลงตัวมาก กลับมาไทยแล้วยังคิดถึงเกี๊ยวร้านนั้นอยู่เลย (ส่วนสถานที่ตั้งต้องขอโทษด้วยจริงๆ ได้แต่ถ่ายป้ายนี้มาซึ่งไม่แน่ใจเลยว่าเป็นร้านบะหมี่หรือว่าร้านข้างๆ ใครไปแล้วลองเอารูปนี้ไปถามคนแถวนั้นดูนะคะ ร้านบะหมี่จะอยู่ติดกับ 7 eleven ขอให้เจอแล้วกันเพี้ยงงง)
7. น้ำหอมร้านดังมีทั้งปลอมทั้งจริง
8. จิวเวลรี่ ที่ขายเครื่องรางกังหัน ไม่ได้มีแค่หลักหมื่น หลักแสน กำไล 950 ก็มีนะ
วัดกังหัน หรือ วัดแชกงหมิว ที่ใครไปถึงฮ่องกงจะต้องไปไหว้ขอพร และหาซื้อแหวนและจี้เพชร ที่ฮ่องกงจิวเวอรี่ ที่ขายเครื่องรางกังหัน สำหรับสาวๆ งบน้อยที่อยากจะได้เครื่องรางเพื่อรักษาสุขภาพ มี กำไลแม่เหล็ก ราคา 950 บาท ไม่ต้องเสียเงินเป็นหมื่น เป็นแสนก็ได้ของกลับบ้านเหมือนกัน
9. ค่าถุงบางที่ไม่ได้ฟรีนะจ๊ะ
ช้อปเพลินช้อปมันจะถือกลับไม่ไว้ ร้านแบรนด์เนมบางร้านคิดราคาถุงในราคา 0.50-1 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือร้านสะดวกซื้อบางร้านถ้าไม่ได้ซื้อเยอะมากๆ เค้าก็จะไม่ให้ถุงใส่ของเรานะยูว์ งานนี้จะซื้ออะไรอย่าลืมเช็คดูก่อนล่ะแล้วจะหาว่าไม่เตือน
10. แถมให้สำหรับใครที่ได้ไปเที่ยว ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล มาเก๊า มีคนแนะนำว่าให้ยืนบันไดขั้นที่ 30 (กล้องเลนส์ปกติหรือกล้องโทรศัพท์) จะได้ภาพที่สวยลงตัว ถ้าไม่เจอทัวร์จีนซะก่อน เพราะผู้คนมากมายเจอรายล้อมตัวเราไม่ว่าจะโยกย้ายไปมุมไหนพวกเค้าเหล่านั้นก็จะติดอยู่ในภาพทุกมุม ทำได้แค่ทำใจแล้วถ่ายแค่ประตูโบสถ์กลับมาเหมือนอย่างภาพนี้ อิอิ
รู้แบบนี้แล้ว ใครที่มีแพลนไปเที่ยวฮ่องกง ขอให้เที่ยวให้สนุกและโชคดี กลับมารวยๆ เฮงๆ กันทุกคนนะคะ